Luma

ประกันสุขภาพ

รวบรวมแผนประกันสุขภาพที่มีการคุ้มครองหลากหลาย เหมาะกับทุกคน พร้อมผู้ดูแลส่วนตัวตลอดกรรมธรรม์

ประกันสุขภาพเด็ก​​

ประกันสุขภาพครอบครัว​

ประกันค่าคลอดบุตร

ประกันสุขภาพ ครอบคลุมทุกความต้องการ

ใช้ชีวิตได้เต็มที่ ด้วยความอุ่นใจจาก LUMA เพื่อนรู้ใจทุกเรื่องสุขภาพ มีแผนให้เลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มครอง ค่าเบี้ยที่คุ้มค่า และทางเลือกการแบ่งชำระให้สะดวกสบาย

หาประกันสุขภาพแบบไหน LUMA มีให้ครบ

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย

ประกันสุขภาพเด็ก

ประกันสุขภาพครอบครัว​

ประกันค่าคลอดบุตร

LUMA ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ Hi5

แผนประกันสุขภาพวงเงินคุ้มครองสูงถึง 5 ล้านบาท เหมาจ่ายตามจริง

ประกันสุขภาพ PRIME

มอบความคุ้มครองเหนือระดับกับแผนประกันสุขภาพคุ้มครองสูง

ไม่แน่ใจว่าต้องการความคุ้มครองแบบไหน?

มากกว่า 450 โรงพยาบาลในเครือข่ายที่ไม่ต้องสำรองจ่าย

BNH Hospital Insurance
Simitivej Hospital Insurance
Bangkok Hospital Insurance
Bumrungrad Insurance
MedPark Hospital Insurance
Praram 9 Hospital Insurance
Vichaiyut Hospital Insurance
Phyathai Hospital Insurance
Camillian Hospital Insurance
Bangkok Smile Dental Clinic insurance

ข่าวสารของ LUMA

ติดตาม LUMA เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสาร และ โปรโมชั่น ใหม่ๆ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันสุขภาพ

การซื้อประกันสุขภาพเป็นการช่วยลดภาระทางการเงิน ประกันสุขภาพสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในรักษาค่าพยาบาลหากป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือโรคภัยต่างๆ

 

การทำประกันสุขภาพจึงเปรียบเสมือนแผนป้องกันชั้นดี เป็นการคุ้มครองความเสี่ยงของสุขภาพร่างกายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต นอกจากนี้เบี้ยประกันสุขภาพยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของคุณได้อีกทางหนึ่ง

 

ด้วยค่าใช้จ่ายในการรักษาที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต สวัสดิการสุขภาพหรือประกันของบริษัทที่คุณมีอยู่ บางครั้งอาจไม่ครอบคลุมหรือไม่เพียงพอ การทำประกันสุขภาพจึงทำให้คุณหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่ได้วางแผนไว้ รวมถึงผู้ให้บริการประกันภัยหลายแห่งมีบริการจ่ายตรงให้กับโรงพยาบาย คุณจึงไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายเงินสดไปก่อน

 

หลายคนอาจจะกังวลว่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปจะเสียเปล่าหากไม่ได้ใช้ประกันเลย แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพก็เป็นเสมือนการวางแผนล่วงหน้า ดังนั้นหากคุณเลือกแผนประกันสุขภาพราคาที่เหมาะสมที่คุณต้องการ ตรงตามเป้าหมายและความต้องการ ก็ย่อมมีประโยชน์คุ้มค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย เพราะฉะนั้นควรอ่านกรมธรรม์และเงื่อนไขต่างๆ ให้เข้าใจดีก่อนซื้อ

การเลือกประกันสุขภาพ สิ่งหนึ่งที่คุณนำมาพิจารณาคือ สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่คุณมีอยู่แล้วเช่น ประกันสังคม และประกันกลุ่มที่ได้รับจากที่ทำงาน แล้วคำนวณจากค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลที่คุณมักเข้ารับการรักษา ว่าเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ หากคุณเจ็บป่วย ค่าใช้จ่ายในการรักษาจะอยู่ที่ประมาณเท่าไร จากนั้นนำไปเปรียบเทียบกับสวัสดิการที่มีอยู่ แล้วจึงพิจารณาซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติม เพราะหากในอนาคตเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันหรือเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลค่อนข้างสูง สวัสดิการที่คุณมีอยู่อาจไม่เพียงพอ

อีกประการหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาเมื่อเลือกซื้อประกันสุขภาพคือ ควรทำประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองเหมาะสมเพียงพอตั้งแต่ตอนที่คุณยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และยังไม่มีโรคใดๆ เพราะหากคุณป่วยไข้หรือมีโรคประจำตัวแล้ว ประกันสุขภาพก็จะไม่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาส่วนดังกล่าว หรือในภาษาประกันเรียกว่า สภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกัน ซึ่งหมายถึงประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครองโรคหรืออาการเจ็บไข้ที่เกิดขึ้นก่อนที่กรมธรรม์ประกันจะมีผลบังคับใช้ ดังนั้น หากคุณยังมีสุขภาพที่ดี การทำประกันสุขภาพไว้ก็เป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างหนึ่ง เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้เลยได้ว่าในอนาคตจะมีโอกาสเป็นโรคใดบ้าง หรือจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นหรือไม่

การมีครอบครัวที่เต็มเปี่ยมและมีความสุขสำหรับหลายคน หมายถึงการมีลูกน้อยเข้ามาเติมเต็มความสุขในชีวิตของพ่อแม่ แต่ปัจจุบันการคลอดบุตรแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ระหว่างการตั้งครรภ์ถึงวันคลอดเอง ด้วยเหตุนี้ผู้ที่เป็นพนักงานในบริษัทหรือเป็นผู้มีการประกันตนกับ “ประกันสังคม” สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมเกี่ยวกับการคลอดบุตรได้ เป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยเบาบางค่าใช้จ่าย มาดูข้อมูลสิทธิ์เหล่านี้กันเถอะ

 

ประกันสังคมคือรูปแบบหนึ่งของการออมเงินที่รัฐบาลกำหนดขึ้นในรูปแบบที่เป็นบังคับ (สำหรับลูกจ้างในองค์กร) เพื่อสร้างเกณฑ์ประกันชีวิตให้กับคนไทย เพื่อเพิ่มความมั่นคงในเรื่องการใช้ชีวิต ผู้ที่เข้าร่วมเป็นผู้ประกันตนกับสำนักงานประกันสังคมจะต้องชำระค่าเบี้ยประกันหรือที่เรียกกันว่า “เงินสมทบ” ให้กองทุนประกันสังคมเป็นรายเดือน จำแนกตามประเภทของผู้เป็นประกันตนเอง

 

มาทำความเข้าใจกัน ว่าสิทธิประกันสังคมในการคลอดบุตร มีอะไรให้บ้าง และสามารถใช้สิทธิตรงนี้ให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุดอย่างไรบ้าง

หลายคนทุ่มเทที่ทำงานหนัก เพื่อสร้างรากฐานทางการเงินที่มั่นคงให้กับครอบครัวที่เป็นหัวใจแห่งความสุข แต่ความไม่แน่ใจก็ยังคงอยู่ว่า ในสภาวะปัจจุบันที่เต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ การเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นเสมอไป

 

ครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักและความปกป้องกัน มีวิธีจัดการกับสถานการณ์เหล่านั้นอย่างไร เพื่อให้สามารถเผชิญหน้ากับอุปสรรคทันทีโดยไม่ต้องหวังหวน และทางเลือกที่ชัดเจนและสำคัญในสถานการณ์เช่นนี้ คือการทำประกันสุขภาพครอบครัวที่เหมาะสมสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยการทำประกันที่ครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพ ความมั่นคงทางการเงิน และทรัพย์สิน ซึ่งจะรองรับและปกป้องไปจนถึงอนาคต

 

ทำให้ครอบครัวเรามีฐานประกันแน่นหนา และมั่นใจในการดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่ ทั้งยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปในความมั่นคงทางการเงินได้อย่างไม่ต้องกังวล

ประกันสุขภาพจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากการป่วยไข้หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โดยมีแบ่งการคุ้มครองผลประโยชน์ในการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้

  • 1. ผลประโยชน์ชดเชยสำหรับผู้ป่วยภายใน (IPD) คุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งค่าใช้จ่ายพื้นที่ของประกันสุขภาพมักประกอบด้วย เช่น ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่ายา ค่าแพทย์เยี่ยม ค่าผ่าตัด ค่ารถพยาบาลและอุปกรณ์อื่นๆ เป็นต้น
  • 2. ผลประโยชน์ชดเชยสำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) คุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือจากการรักษาที่คลินิก
  • 3. ผลประโยชน์เพิ่มเติมอื่นๆ/เอกสารแนบท้าย เป็นการขยายความคุ้มครองเพิ่มเติมจากข้อตกลงในกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ ได้แก่ การคลอดบุตร การรักษาฟัน การดูแลโดยพยาบาลพิเศษที่มีความจำเป็นตามคำสั่งของแพทย์ และการรักษาการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยที่มีค่าใช้จ่ายสูง

ทั้งนี้ ประกันสุขภาพบางแผนจะไม่ได้คุ้มครองหมดทั้งหมด ดังนั้นผู้เอาประกันควรอ่านรายละเอียดกรมธรรม์ กันก่อนตัดสินใจเลือกซื้อก่อนทุกครั้ง

การมีประกันจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าหากคุณเจ็บป่วยขึ้นมา ประกันที่คุณตัดสินใจซื้อประกันจะเป็นตัวช่วยชั้นดี นอกจากนี้หากมีครอบครัว ประกันจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินไปได้มาก โดยการเลือกแบบประกันสุขภาพที่เหมาะกับคุณที่สุด สามารถพิจารณาได้จากปัจจัยเหล่านี้

  • 1. ทบทวนตัวเอง: ลองทบทวนตัวเองดูก่อนว่าประกันสุขภาพแบบไหนจะเหมาะกับเราที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณที่มี ศึกษาดูความคุ้มครองว่าคุ้มครองด้านไหนบ้าง โดยคำนึงถึงสถานะทางการเงิน สุขภาพโดยรวม และภาระทางครอบครัว
  • 2. เลือกหาแผนประกันที่ตรงใจเรา: ประกันสุขภาพนั้นมีหลากหลายแบบ ดังนั้นหากคุณทบทวนถึงสถานภาพทางการเงินและสุขภาพองค์รวมแล้วคุณสามารถลองดูแบบประกันได้ว่าแบบไหนเหมาะที่สุด
  • 3. ศึกษาเงื่อนไขกรมธรรม์ก่อนซื้อ: อย่าลืมศึกษาเงื่อนไขต่าง ๆ ในกรมธรรม์ก่อนซื้อ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด
  • 4. ติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอทราบรายละเอียดเบี้ยประกัน: ติดต่อขอใบเสนอราคากับบริษัทประกันเพื่อทราบอัตราเบี้ยประกันของคุณ เพราะอัตราค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ของแต่ละบุคคล เช่น เพศ อายุ น้ำหนัก เป็นต้น

ประกันสุขภาพ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ประกันสุขภาพตนเอง: การมีประกันสุขภาพสามารถสามารถลดย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง โดยลดย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาท/ปี และเมื่อรวมกับประกันชีวิตทั่วไปจะสามารถลดย่อนภาษีได้ ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ประกันสุขภาพของพ่อและแม่: ถ้าหากทำประกันให้พ่อและแม่ การมีประกันสามารถลดย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง โดยสามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท/ปี ถ้าหากมีพี่น้อง 5 คน ร่วมกันจ่ายค่าเบี้ยประกันให้พ่อและแม่ จะขอลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินคนละ 3,000 บาท/ปี

ประกันสุขภาพจะคุ้มครองตามวันที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัยหรือเมื่อกรมธรรม์มีผลบังคับใช้ โดยจะได้รับความคุ้มครองทันทีกรณีอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแผนประกันด้วยเช่นกัน โดยหลังจากที่ผู้ซื้อประกันสุขภาพได้รับกรมธรรม์จากทางบริษัทประกัน แต่ละบริษัทประกันจะมีระยะเวลาการคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป บางแผนประกันสุขภาพสามารถคุ้มครองได้ทันที แต่จะมีช่วงระยะรอคอย (Waiting Period) สำหรับโรคทั่วไปและโรคร้ายที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบริษัทและแผนประกัน และบางแผนประกันไม่สามารถคุ้มครองได้ทันที โดยจะมีช่วงระยะรอคอย (Waiting Period) สำหรับทุก ๆ ประเภทการคุ้มครอง ไม่ว่าจะอุบัติเหตุ ผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน หรือโรคร้ายแรง ฯลฯ ทำให้เมื่อเกิดป่วยหรืออุบัติเหตุภายในช่วงระยะรอคอย (Waiting Period) จะไม่สามารถเคลมประกันจากทางบริษัทประกันได้

 

หากคุณมีโรคเรื้อรัง การบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วย รวมถึง ภาวะแทรกซ้อน หรือการบาดเจ็บ ที่ยังไม่ได้รักษาให้หายก่อนวันที่กรมธรรม์จะเริ่มมีผลบังคับเป็นครั้งแรก หรือที่รู้จักกันในภาษาประกันว่า “สภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกัน (Pre-existing Condition)” ประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาส่วนดังกล่าว แต่ถ้าหากคุณตรวจพบโรคร้ายแรงภายหลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับใช้ ประกันสุขภาพก็จะคุ้มครองค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าว โดยต้องตรวจพบโรคดังกล่าวหลังจากระยะรอคอย (Waiting Period) ที่กำหนดไว้ตามข้อกำหนดของแต่ละแผนประกัน

 

ดังนั้นการตัดสินใจเลือกซื้อประกันควรดูช่วงระยะรอคอยเพื่อดูว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ประกันสุขภาพถึงจะคุ้มครองได้ทันทีสำหรับทุก ๆ ประเภทการคุ้มครอง และการเลือกซื้อประกันสุขภาพไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณได้รับการคุ้มครองจากบริษัทได้อย่างทันใจ เมื่อเกิดโรคร้ายหรือเจ็บป่วยก็ยังมีประกันสุขภาพคอยคุ้มครองและช่วยลดค่าใช้จ่ายได้

การประกันสุขภาพแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่  1.การประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพรายบุคคล 2.การประกันภัยอุบัติเหตุ และสุขภาพหมู่  สำหรับการแผนประกันสุขภาพของ LUMA มีให้เลือกทั้ง 2 แบบ

  • 1. ประกันสุขภาพรายบุคคล – ประกันสุขภาพที่คุณสามารถเลือกซื้อได้ตามต้องการ สามารถเลือกแบบประกันที่คุ้มครองคุณได้เหมาะสมที่สุด และยังเลือกเบี้ยประกันที่เหมาะกับคุณได้โดยคำนวณจากอายุและเพศของผู้เอาประกัน Luma มีแผนประกันสุขภาพให้เลือกหลากหลายแผน ไม่ว่าคุณจะทำประกันให้ตัวเอง ทำประกันสุขภาพให้ลูก หรือมองหาประกันสุขภาพให้ครอบครัว ก็สามารถเลือกและกำหนดแผนประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองตามที่คุณต้องการได้
  • 2. ประกันสุขภาพแบบกลุ่ม – ซึ่งเป็นประกันที่บริษัทหรือนายจ้างทำให้กับลูกจ้างหรือพนักงาน ประกันกลุ่ม ส่วนใหญ่มักครอบคลุมสิ่งที่จำเป็นอยู่แล้ว เช่น ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก ประกันอุบัติเหตุ หรือบางบริษัทครอบคลุมไปถึงค่าทำฟันด้วย สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับประกันกลุ่มเพิ่มเติมได้ : ประกันกลุ่มสำหรับพนักงาน สวัสดิการที่ออกแบบได้ – Luma Health Insurance

ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย: ค่าเบี้ยแพงกว่าแบบแยกจ่าย มีการกำหนดวงเงินสูง รายการคุ้มครองหลากหลาย โดยครอบคลุมการรักษามากกว่าประกันสุขภาพแบบแยกจ่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีประกันสุขภาพคุ้มครองแบบอุ่นใจ ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 


ประกันสุขภาพแบบแยกจ่าย: ค่าเบี้ยถูกกว่าแบบเหมาจ่าย รายการคุ้มครองที่ได้น้อยกว่าแบบเหมาจ่าย มีการกำหนดวงเงินรักษาพยาบาล เช่น ค่ารักษาพยาบาลต่อการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล (IPD) ไม่เกิน 50,000 บาท/ครั้ง/โรค เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบทำประกันน้อย

ประกันสุขภาพแบบไม่ต้องสำรองจ่าย คือ ประกันสุขภาพที่หากคุณเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ทำให้จำเป็นต้องเข้ารับรักษาการพยาบาลแบบผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอกกับทางโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการทางแพทย์ในเครือข่ายของบริษัทประกันที่คุณเป็นสมาชิก คุณไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายเงินก่อน โดยคุณสามารถเช็คโรงพยาบาลในเครือของ Luma ได้ที่นี่ เพียงแสดงบัตรสมาชิก คุณไม่จำเป็นต้องทำการสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล หากคุณไม่ได้นำบัตรสมาชิกมา สามารถใช้บัตรสมาชิกดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน Luma Care บนมือถือ หรือสำรองเงินจ่ายก่อน แล้วยื่นคำร้องขอสินไหมทดแทนได้เช่นกัน

แผนประกันสุขภาพ ‘Hi5’ และ ‘PRIME’
แผนประกันสุขภาพ “Hi5” และ “PRIME” วงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงตั้งแต่ 5-50 ล้านบาท ประกันสุขภาพเหมาจ่ายตามจริง คุ้มครองโรคมะเร็งทุกชนิด โรคร้ายแรง รวมถึงโรคโควิด-19 หมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล เข้าถึงบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลชั้นนำ ไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้าเมื่อรับการรักษาในโรงพยาบาลที่เป็นเครือข่ายของ Luma

แผนประกันสุขภาพคุ้มครองโรคเบาหวาน
แผนประกันสุขภาพคุ้มครองโรคเบาหวาน “เบาหวาน Protect” ความคุ้มครองสูงสุด 2 ล้านบาท เปรียบเทียบแผนประกันและซื้อออนไลน์ได้ทันที สะดวก ง่าย สมัครได้เลยเพียงไม่กี่ขั้นตอน รับประกันโดยบริษัท ทูนประกันภัย จำกัด (มหาชน)

แผนประกันสุขภาพส่วนบุคคล
หากใครกำลังมองหาประกันสุขภาพให้ตัวเอง หรืออยากทำประกันสุขภาพเพื่อเป็นความคุ้มครองเพิ่มเติมจากสวัสดิการเดิมที่มี Luma มีแผนประกันสุขภาพที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมนำเสนอตัวเลือกประกันสุขภาพจากพาร์ทเนอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการบริการจากประกันสุขภาพที่ดีที่สุด ตรงตามงบประมาณและคุ้มครองครอบคลุมอย่างที่ต้องการ

แผนประกันสุขภาพครอบครัว
มอบความอุ่นใจยามเจ็บป่วยให้กับคนที่คุณรักด้วยการทำประกันสุขภาพให้ลูกหรือทำประกันสุขภาพให้ครอบครัว Luma เลือกสรรประกันสุขภาพมาเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุม รักษาในโรงพยาบาลชั้นนำ พร้อมรับส่วนลดค่าเบี้ยเมื่อสมัครพร้อมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

luma health insurance quote

กรอกรายละเอียดเพื่อขอใบเสนอราคา

ภายใน 24 ชั่วโมง*

คุณจะได้รับ: 

*24 ชั่วโมง ในวันทำการ