ประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ที่ไหนดี 2567 แนะนำสำหรับเหล่าคุณแม่

ประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ที่ไหนดี?

ปัจจุบัน มีหลายบริษัทนำเสนอแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์สำหรับเหล่าว่าที่คุณแม่ วันนี้ ทาง Luma ได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้แล้วว่า จะเลือกซื้อประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ที่ไหนดี

  • LUMA
    • April
    • Pacific cross
    • Allianz Ayudhya
    • AXA
    • LMG Insurance.

หนึ่งสิ่งที่ควรรับรู้ไว้ก่อนก็คือ ประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์นี้ สามารถทำได้ก่อนการตั้งครรภ์ เนื่องจากจะต้องมีระยะเวลารอคอยอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 9 เดือน ดังนั้น สำหรับคนที่อยากจะซื้อประกันค่าคลอดบุตรนี้ จะต้องมีการวางแผนให้ดี รวมถึงยังต้องเลือกซื้ออย่างรอบคอบ ทำความเข้าใจกับความคุ้มครองต่าง ๆ และอ่านกรมธรรม์ให้ละเอียดครบถ้วน

LUMA ประกันค่าคลอดบุตร

LUMA ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพ นำเสนอแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ โดดเด่นด้วยความคุ้มค่าแบบครบถ้วน

แผน LUMA Hi5 และ PRIME

  •  ความคุ้มครองผู้ป่วยในสูง ตั้งแต่ 5 ล้านบาท ถึง 50 ล้านบาท
  •  ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก 40,000 บาท (ส่วนร่วมค่าใช้จ่าย 50%) และ 200,000 บาทต่อปี
  •  ความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 200,000 – 300,000 บาท
  • ความคุ้มครองภาวะแทรกซ้อน 1,000,000 บาท
  • ความคุ้มครองการดูแลเด็กทารกแรกเกิด 20,000 – 30,0000 บาท (สำหรับ 25 วันแรก)
  • บริการพิเศษให้แก่เหล่าคุณแม่ ได้แก่
    • ความคิดเห็นทางการแพทย์ที่สอง
    • MTB – บริการดูแลการรักษามะเร็ง
    • ไม่ต้องสำรองจ่าย
    • บริการส่งต่อโรงพยาบาล
    • การเรียกร้องสินไหมแบบไร้กระดาษ รวมถึงมีแอปพลิเคชั่น ดูแผนปละการคุ้มครอง ยื่นเคลมผ่านแอปพลิเคชั่นได้เลย
  • สามารถผ่อนรายเดือนโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
  • ทั้งสองแผน มีระยะเวลารอคอย 10 เดือน

สามารถดูการเปรียบเทียบประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ได้เพิ่มเติมได้ที่ LUMA เปรียบเทียบประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ ปี 2567 รวบรวมแผนประกันสุขภาพ และเปรียบเทียบรายละเอียดผลประโยชน์ ตามความคุ้มครอง งบประมาณ

ติดตาม ข่าวสาร และ โปรโมชั่นต่างๆ

ประกันคลอดบุตรที่ไหนดี, ประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ที่ไหนดี 2567 แนะนำสำหรับเหล่าคุณแม่
ประกันสังคมคลอดบุตร

April ประกันค่าคลอดบุตร

April

บริษัทดังจากต่างประเทศที่มีบริษัทจดทะเบียนที่ประเทศไทย April นำเสนอแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร ภาวะแทรกซ้อน การดูแลเด็กทารกแรกเกิด 163,000 – 491,000 บาท และมีระยะเวลารอคอย 366 วัน

Pacific cross ประกันค่าคลอดบุตร

Pacific Cross

Pacific Cross ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่กำลังเป็นที่น่าสนใจ นำเสนอแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 30,000 – 200,000 บาท มีระยะเวลารอคอย 280 วัน แต่จะไม่คุ้มครองถึงภาวะแทรกซ้อน และการดูแลเด็กทารกแรกเกิด

Allianz Ayudhya ประกันค่าคลอดบุตร

Allianz Ayudhya

Allianz Ayudhya นำเสนอแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 40,000 – 120,000 บาท คุ้มครองภาวะแทรกซ้อน สูงสุด 240,000 บาท (ตามเงื่อนไข) มีระยะเวลารอคอย 280 วัน แต่ไม่คุ้มครองการดูแลเด็กทารกแรกเกิด

AXA ประกันค่าคลอดบุตร

AXA

AXA หนึ่งในบริษัทประกันภัยที่คนไทยรู้จักกัน นำเสนอแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 15,000 – 120,000 บาท คุ้มครองภาวะแทรกซ้อน 480,000 บาท (เฉพาะแผนสูงสุด) มีระยะเวลารอคอย 10 เดือน แต่ไม่คุ้มครองการดูแลเด็กทารกแรกเกิด

LMG Insurance. ประกันค่าคลอดบุตร

LMG Insurance

LMG Insurance นำเสนอแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 100,000 – 150,000 บาท บาท มีระยะเวลารอคอย 280 วัน แต่ไม่คุ้มครองถึงภาวะแทรกซ้อน และการดูแลเด็กทารกแรกเกิด

สิทธิ์คลอดบัตร

ประกันค่าคลอดบุตร สำคัญอย่างไรกับคุณแม่?

การวางแผนครอบครัวในปัจจุบันนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ และต้องมีความรอบคอบ ดังนั้น การซื้อประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ จะช่วยมอบความอุ่นใจให้กับตัวคุณแม่และตัวลูกน้อย เพราะในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์นั้น คุณแม่จะเป็นที่จะต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ รวมถึงยังต้องดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดี เพราะถ้าหากเกิดการเจ็บป่วย นอกจากจะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนปกติแล้ว ค่ารักษาพยาบาลขณะต้องครรภ์ยังค่อนข้างสูงกว่า แต่ถ้าทำประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์เอาไว้ ก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องเหล่านี้

แนะนำแนวทางในการเลือกซื้อประกันค่าคลอดบุตร

LUMA เข้าใจดีว่าการเลือกทำประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วก็เป็นเรื่องที่ต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดี รวมถึงยังต้องจำเป็นพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระยะเวลารอคอย ความคุ้มครองที่ได้รับ วงเงินความคุ้มครอง เป็นต้น ทาง LUMA ขอแนะนำสิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ ดังนี้

  • ความคุ้มครอง วงเงินความคุ้มครองที่ได้รับ เพียงพอหรือเหมาะสมกับคุณหรือไม่
  • ระยะเวลารอคอย นานแค่ไหน
  • มีบริการพิเศษอะไรไหม
  • เครือข่ายของบริษัทประกันภัย มีโรงพยาบาลไหนที่สามารถเข้ารักษาได้บ้าง
  • การชำระเงินค่าเบี้ยประกัน มีทางเลิกอะไรที่ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้บ้าง
  • การจ่ายเงิน จำเป็นต้องสำรองจ่ายก่อนไหม

สรุป

หลาย ๆ คนได้ดูกันไปแล้วว่าจะเลือกซื้อประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ ที่ไหนดี ให้ตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด แต่ก็อย่าลืมว่า ก่อนที่เลือกซื้อประกันใด ๆ ก็ตาม ควรที่จะอ่านรายละเอียดกรมธรรม์ของประกันแผนนั้น ๆ ให้ละเอียดก่อนซื้อ รวมไปถึงเลือกทำประกันกับบริษัทประกันที่สามารถเชื่อถือได้ เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าจะสามารถเคลมประกันได้เมื่อถึงเวลา

Last update: 

Table of Contents