เปรียบเทียบประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ ปี 2568 คุณแม่ ๆ ต้องดู!

การตั้งครรภ์ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ เนื่องจากจะเป็นช่วงที่คุณแม่ ๆ จะต้องมีความระมัดระวังและดูแลรักษาสุขภาพของตนมากเป็นพิเศษ หากเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา ก็จะมีค่ารักษา พยาบาลที่สูงกว่าปกติ ดังนั้น คุณแม่หลาย ๆ คนจึงอยากมีประกันค่าคลอดบุตรและการตั้งครรภ์ติดตัวไว้เพื่อความอุ่นใจสำหรับตัวเองและลูกน้อย วันนี้ LUMA จึงมา เปรียบเทียบประกันคลอดบุตร ให้ดูว่าแบบไหนเหมาะหรือตอบโจทย์เหล่าคุณแม่มากที่สุด

เลือกประกันสำหรับคุณแม่แบบไหนดี

การเลือกประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรอบคอบและความละเอียดในการเลือกค่อนข้างสูง เนื่องจากประกันค่าคลอดบุตรของแต่ละที่นั้นมีรายละเอียดการคุ้มครองที่ต่างกัน รวมถึงยังมีเรื่องของระยะเวลารอคอยที่แตกต่างกัน ทั้งยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อประกัน ดังนั้น คุณแม่ ๆ จึงควรที่จะเลือกซื้อประกันค่าคลอดบุตรอย่างรอบคอบ เพื่อที่จะได้เลือกซื้อแผนประกันที่ตอบโจทย์กับตัวเองมากที่สุด

เปรียบเทียบแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์

สำหรับเหล่าว่าที่คุณแม่ที่กำลังมองหาแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์อยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อที่ไหน หรือแผนไหนดี วันนี้ ทาง LUMA ก็ได้รวบรวมแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์สำหรับทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคุ้มครอง ค่าเบี้ยที่ต้องชำระ รวมถึงระยะเวลารอคอย คุณแม่ ๆ ตามไปดูกันได้เลย

แผนประกันสำหรับคุณแม่ที่จะวางแผนจะตั้งครรภ์

แผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ประเภทนี้ จะเป็นแผนประกันสำหรับเหล่าว่าที่คุณแม่ที่มีการวางแผนว่าจะตั้งครรภ์ หมายความว่า ณ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการตั้งครรภ์ เนื่องจากประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ประเภทนี้จะต้องมีระยะเวลารอคอยอย่างต่ำ 9 เดือน ดังนั้น หากกำลังตั้งครรภ์อยู่ ก็ไม่สามารถเลือกทำประกันค่าคลอดบุตรประเภทนี้ได้ ดังนั้น เหล่าว่าที่คุณแม่จึงต้องคำนึงถึงประเด็นนี้อยู่เสมอในการเลือกซื้อประกันค่าคลอดบุตรใด ๆ

ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดว่าจะต้องยังไม่ตั้งครรภ์จึงจะสามารถทำประกันค่าคลอดบุตรและการตั้งครรภ์ประเภทนี้ได้ แต่สิทธิประโยชน์ที่เหล่าคุณแม่จะได้รับก็ค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองค่าตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร คุ้มครองภาวะแทรกซ้อน การดูแลทารกแรกเกิด เป็นต้น

ประกันค่าคลอดบุตร สำหรับคุณแม่ที่วางแผนจะตั้งครรภ์ ขอแนะนำ

เปรียบเทียบประกันคลอดบุตร

LUMA Hi5/PRIME

ประกันค่าคลอดบุตรและการตั้งครรภ์จาก LUMA ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพ นำเสนอแผนประกันค่าคลอดบุตร 2 แผน ได้แก่ แผน Hi5 และแผน PRIME ที่ให้ความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร วงเงิน 200,000 – 300,000 บาท คุ้มครองภาวะแทรกซ้อน 1,000,000 บาท การดูแลเด็กทารกแรกเกิด 20,000 – 30,0000 บาท (สำหรับ 25 วันแรก) และมีระยะเวลารอคอย 10 เดือน

ทั้งสองแผนมอบบริการพิเศษให้แก่เหล่าคุณแม่ ได้แก่

  • ความคิดเห็นทางการแพทย์ที่สอง
  • MTB-บริการดูแลการรักษามะเร็ง
  • ไม่ต้องสำรองจ่าย
  • บริการส่งต่อโรงพยาบาล 
  • มีแอปพลิเคชั่นที่สามารถดูแผนและการคุ้มครอง รวมถึงยื่นเบิกเคลมได้เลย

April

ประกันค่าคลอดบุตรและการตั้งครรภ์จาก April มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร คุ้มครองภาวะแทรกซ้อน การดูแลเด็กทารกแรกเกิด วงเงิน 163,000 – 491,000 บาท และมีระยะเวลารอคอย 366 วัน

Pacific Cross

ประกันค่าคลอดบุตรและการตั้งครรภ์จาก Pacific Cross April มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 30,000 – 200,000 บาท ไม่คุ้มครองถึงภาวะแทรกซ้อน การดูแลเด็กทารกแรกเกิด และมีระยะเวลารอคอย 280 วัน

Allianz Ayudhya

ประกันค่าคลอดบุตรและการตั้งครรภ์จาก Allianz Ayudhya มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 40,000 – 120,000 บาท คุ้มครองภาวะแทรกซ้อน สูงสุด 240,000 บาท (ตามเงื่อนไข) ไม่คุ้มครองการดูแลเด็กทารกแรกเกิด และมีระยะเวลารอคอย 280 วัน

AXA

ประกันค่าคลอดบุตรและการตั้งครรภ์จาก AXA มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 15,000 – 120,000 บาท คุ้มครองภาวะแทรกซ้อน 480,000 บาท (เฉพาะแผนสูงสุด) ไม่คุ้มครองการดูแลเด็กทารกแรกเกิด และมีระยะเวลารอคอย 10 เดือน

LMG Insurance.

ประกันค่าคลอดบุตรและการตั้งครรภ์จาก LMG Insurance. มอบความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 100,000 – 150,000 บาท บาท ไม่คุ้มครองถึงภาวะแทรกซ้อน การดูแลเด็กทารกแรกเกิด และมีระยะเวลารอคอย 280 วัน  

เปรียบเทียบประกันคลอดบุตร

แผนประกันสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์

สำหรับเหล่าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ก็อยากมีประกันที่คุ้มครองทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อยติดตัวไว้ ยังคงมีอีกหนึ่งทางเลือกในการทำประกัน คือ การทำประกันสุขภาพสำหรับตัวคุณแม่ และเพิ่มลูกน้อยเข้ามาอยู่ในความคุ้มครองในภายหลัง เมื่อบุตรคลอดออกมาแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าบุตรมีการคุ้มครองที่ราบรื่น โดยที่จะต้องแจ้งว่าจะเพิ่มลูกน้อยก่อนกำหนดคลอด และมีระยะเวลารอคอย 15 วัน

ประกันสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ขอแนะนำ

สำหรับประกันจาก LUMA ในแผน Hi5 และแผน PRIME จะมีสิทธิพิเศษที่จะมอบความคุ้มครองความผิดปกติที่เกิดขึ้นแต่กำเนิด เป็นวงเงิน 25,000 บาทต่อปี สำหรับแผน Hi5 และวงเงิน 100,000 – 600,000 บาทต่อปี สำหรับแผน PRIME

ประกันสำหรับคุณแม่ จะเลือกอย่างไรดี?

LUMA เราเข้าใจดีว่าสำหรับคุณแม่นั้นการเลือกทำประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถตัดสินใจแบบเร่ง ๆ ได้ จำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระยะเวลารอคอย ความคุ้มครองที่ได้รับ วงเงินความคุ้มครอง โรงพยาบาลที่เข้ารักษา เป็นต้น

ทาง LUMA ขอแนะนำสิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกแผนประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ ดังนี้

  • ระยะเวลารอคอย นานแค่ไหน
  • ความคุ้มครอง วงเงินความคุ้มครองที่ได้รับ เพียงพอหรือเหมาะสมกับคุณหรือไม่
  • เครือข่ายของบริษัทประกันภัย มีโรงพยาบาลไหนที่สามารถเข้ารักษาได้บ้าง
  • การชำระเงินค่าเบี้ยประกัน มีทางเลือกอะไรที่ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้บ้าง

สรุป

คุณแม่หรือว่าที่คุณแม่หลาย ๆ คนคงจะได้เห็นกันไปแล้วว่าประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์แผนไหนที่ตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด แต่ก็อย่าลืมว่า ก่อนที่เลือกซื้อประกันใด ๆ อย่าลืมที่จะอ่านรายละเอียดในกรมธรรม์ของประกันแผนนั้น ๆ ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนซื้อ รวมไปถึงเลือกทำประกันกับบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นคง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถเคลมประกันได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ 

อ่านเพิ่มเติม:

Last update: 

Table of Contents
DBD logo

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เลขที่ 0105555036794

OIC logo

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย เลขที่00008/2555  

ใบอนุญาตนายหน้าประกันภัย เลขที่ ช00012/2564

BOI logo

ได้รับการรับรองจาก BOI 2927/2555

บริษัท ลูม่า แคร์ จำกัด, 57 ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ชั้น 9 ยูนิต 912 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

Copyright © 2025 lumahealth.com. All Rights Reserved.   นโยบายความเป็นส่วนตัว