ประกันเดินทางไอซ์แลนด์

คนที่วางแผนเดินทางและพำนักอาศัยระยะสั้นในประเทศไอซ์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ เยี่ยมเพื่อน ติดต่อธุรกิจ หรือเรียนคอร์สระยะสั้น จำเป็นต้องซื้อประกันเดินทางไอซ์แลนด์ทุกครั้ง เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของเอกสารที่จะใช้ยื่นขอวีซ่าเชงเก้น ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับเข้าประเทศกลุ่มเชงเก้น ที่สำคัญประกันเดินทางฉบับดังกล่าวต้องผ่านการอนุมัติ Schengen Approved Visa โดยมีวงเงินคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 30,000 EUR หรือ 1.5 ล้านบาท หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดทางสถานทูตจะไม่อนุมัติให้ผ่านและต้องดำเนินการจองคิวใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องเสียเวลาอย่างมาก

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อประกันเดินทางไอซ์แลนด์ปกติแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ขึ้นอยู่กับความถี่ในการเดินทางสู่ประเทศดังกล่าว ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

1. ประกันเดินทางรายเที่ยว – รูปแบบของประกันเดินทางที่จะให้ความคุ้มครองเฉพาะช่วงเวลาที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น เหมาะกับคนที่เดินทางไปไอซ์แลนด์ไม่บ่อยนักเฉลี่ยไม่เกิน 2 ครั้ง / ปี ราคาถูก ความคุ้มครองเบื้องต้นมีให้ครบถ้วนตามแผนกรมธรรม์ที่ระบุเอาไว้
2. ประกันเดินทางรายปี – รูปแบบของประกันเดินทางที่จะให้ความคุ้มครองตลอด 1 ปี นับตั้งแต่วันเริ่มต้นคุ้มครอง เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางไปไอซ์แลนด์บ่อย เฉลี่ยตั้งแต่ 3 ครั้ง / ปีขึ้นไป แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมในการเดินทางแต่ละครั้งต้องอาศัยอยู่ในไอซ์แลนด์ไม่เกิน 90 วัน และเข้าประเทศไอซ์แลนด์ได้ไม่เกิน 3 ครั้ง นับตั้งแต่ออกนอกประเทศไทย 1 รอบ

ในการซื้อประกันเดินทางไอซ์แลนด์ แนะนำว่าควรเลือกซื้อก่อนถึงวันกำหนดยื่นขอวีซ่าเชงเก้นอย่างน้อย 7-10 วัน เพื่อให้ทางบริษัทประกันจัดการเตรียมเอกสารกรมธรรม์ตัวจริงต่าง ๆ ให้ครบถ้วน พร้อมทำการส่งเอกสารไปยังที่อยู่ของผู้รับปลายทาง จากนั้นก็สามารถนำไปใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าได้เลย ด้วยขั้นตอนต่าง ๆ กับทางสถานทูตต้องครบถ้วน หากมีข้อผิดพลาดใดก็ตามจะไม่สามารถดำเนินการได้และต้องจองคิวใหม่อีกครั้งภายหลังซึ่งเป็นเรื่องที่เสียเวลาอย่างมาก จึงแนะนำให้ซื้อเร็วเข้าไว้ก่อนจะดีที่สุด

1. ต้องซื้อกับบริษัทประกันที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้ เป็นพันธมิตรกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น บริษัทประกันอื่น สนามบิน สายการบิน โรงพยาบาล เพื่อให้การประสานงานเมื่อต้องเคลมประกันเป็นเรื่องง่ายขึ้น
2. เลือกซื้อแผนประกันเดินทางที่เหมาะกับตนเอง ไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อแผนราคาแพงที่สุด แต่ต้องประเมินไลฟ์สไตล์ การเดินทาง หรือสถานที่ที่จะเดินทางไปมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน
3. ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันเดินทางไอซ์แลนด์ที่จะซื้อ โดยเฉพาะเรื่องของข้อกำหนด เงื่อนไข ข้อยกเว้น เพื่อลดข้อผิดพลาดและความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นได้
4. ทำการซื้อประกันเดินทางผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ ไม่ถูกโกง เช่น การซื้อผ่าน Official ของบริษัทประกัน การซื้อผ่านตัวแทนบริษัทประกัน หรือการซื้อผ่านช่องทางคนกลางที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
5.  

ยืนยันว่าการเลือกซื้อประกันเดินทางไอซืแลนด์มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะตามที่ได้อธิบายเอาไว้ตั้งแต่แรกเรื่องของค่าครองชีพในทวีปยุโรปสูงมาก ยิ่งไอซ์แลนด์เป็นประเทศเกาะด้วยแล้ว บ่อยครั้งค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้นเป็นเรื่องปกติ การมีประกันเดินทางไอซ์แลนด์จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นหากต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากปัจจัยต่าง ๆ ที่มีสิทธิ์เป็นได้ระหว่างพำนักอาศัยแม้เป็นช่วงสั้น ๆ ก็ตาม ยังไม่นับรวมกับความคุ้มครองด้านอื่น ๆ ทั้งเกี่ยวกับปัญหาเที่ยวบินดีเลย์ ไฟล์ทบินยกเลิก สัมภาระสูญหาย เสียหาย ล่าช้า เอกสารเดินทางเสียหาย การถูกปล้น จี้ ชิงทรัพย์ และที่สำคัญยังต้องใช้เป็นส่วนหึ่งของการยื่นขอวีซ่าเชงเก้นเพื่อเข้าประเทศอีกด้วย

เมื่อเกิดเหตุให้ต้องทำการเคลมประกันเดินทางไอซ์แลนด์ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องยุ่งยากใด ๆ ทั้งสิ้น หากเป็นการเจ็บป่วย บาดเจ็บแบบผู้ป่วยนอก แนะนำให้สำรองจ่ายด้วยตนเองไปก่อนแล้วจึงค่อยนำเอกสารทั้งใบรับรองแพทย์และใบเสร็จรับเงินมาทำการเบิกเคลมเมื่อกลับถึงเมืองไทย แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยในต้องรีบแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่สายด่วนรู้ทันที อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เจ้าหน้าที่จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คุณรักษาตัวได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องสำรองจ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ขณะที่การเคลมประกันเรื่องอื่น ๆ ทั้งการเจอเที่ยวบินล่าช้า ดีเลย์ ไฟล์ทบินยกเลิก สัมภาระสูญหาย เสียหาย ล่าช้า การถูกปล้น จี้ ชิงทรัพย์ เอกสารเดินทางเสียหาย ฯลฯ แนะนำให้ขอเอกสารยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สายการบิน สนามบิน ใบรายการบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ เพื่อประกอบการยื่นขอเคลมประกันตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้

เมื่อเกิดเหตุให้ต้องทำการเคลมประกันเดินทางไอซ์แลนด์ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องยุ่งยากใด ๆ ทั้งสิ้น หากเป็นการเจ็บป่วย บาดเจ็บแบบผู้ป่วยนอก แนะนำให้สำรองจ่ายด้วยตนเองไปก่อนแล้วจึงค่อยนำเอกสารทั้งใบรับรองแพทย์และใบเสร็จรับเงินมาทำการเบิกเคลมเมื่อกลับถึงเมืองไทย แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยในต้องรีบแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่สายด่วนรู้ทันที อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เจ้าหน้าที่จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คุณรักษาตัวได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องสำรองจ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ขณะที่การเคลมประกันเรื่องอื่น ๆ ทั้งการเจอเที่ยวบินล่าช้า ดีเลย์ ไฟล์ทบินยกเลิก สัมภาระสูญหาย เสียหาย ล่าช้า การถูกปล้น จี้ ชิงทรัพย์ เอกสารเดินทางเสียหาย ฯลฯ แนะนำให้ขอเอกสารยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สายการบิน สนามบิน ใบรายการบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ เพื่อประกอบการยื่นขอเคลมประกันตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้