สิ่งของต้องห้าม หรือ ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินก็มีความหมายในตัวเองชัดเจนอยู่แล้วว่าสายการบินนั้น ๆ ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำขึ้นเครื่องบินเป็นอันขาด ซึ่งจะมีการระบุเบื้องต้นเอาไว้ชัดเจนทั้งมีไว้ในกระเป๋าสัมภาระสำหรับการเช็กอินโหลดเข้าใต้ท้องเครื่อง และสัมภาระถือขึ้นเครื่อง ถือเป็นข้อปฏิบัติสากลที่ส่วนใหญ่แทบทุกสายการบินใช้เหมือนกันหมด ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้าย เรื่องไม่คาดฝัน อุบัติเหตุ ไปจนถึงรบกวนผู้โดยสารคนอื่นขณะกำลังเดินทาง หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามก็ต้องรับโทษตามที่กำหนดด้วยเช่นกัน
ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินในกระเป๋าเช็กอิน มีอะไรบ้าง?
เริ่มจากของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินในกระเป๋าเช็กอิน หมายถึง ไม่สามารถนำสิ่งของชิ้นดังกล่าวใส่กระเป๋าที่เตรียมโหลดใต้ท้องเครื่องได้ หากตรวจพบทางพนักงานจะขอให้นำออก ได้แก่
- สัตว์เลี้ยงทุกประเภทแม้จะมีขนาดเล็ก เช่น แมลง ปลา เต่า
- พืชพันธุ์ ต้นไม้ ที่เป็นของต้องห้ามในประเทศปลายทาง
- แบตเตอรี่สำรองทุกความจุ รวมถึงสิ่งของที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นส่วนประกอบ เพราะอาจทำให้เกิดไฟไหม้ หรือระเบิด
- สารเคมีอันตราย หรือวัตถุอันตราย วัตถุไวไฟ วัตถุที่อาจทำให้เกิดการระเบิด ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
- สารเสพติดทุกประเภท
- อุปกรณ์ทุกประเภทที่มีลักษณะคล้ายอาวุธ เช่น ปืน กระสุนปืน
- อาหารประเภทเนื้อสัตว์และของสด
- สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หรือสินค้าผิดกฎหมายทุกประเภท
- เครื่องประดับ ของมีมูลค่าสูง
- แม่เหล็กขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์ที่อาจทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก
- สิ่งของต้องห้ามอื่น ๆ ที่ไม่สามารถนำเข้าไปยังประเทศปลายทางได้
ทั้งนี้ยังมีสิ่งของบางประเภทที่ไม่ควรโหลดใต้ท้องเครื่องแม้ไม่ได้มีข้อกำหนดระบุเอาไว้ เช่น สิ่งของที่มีแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบ เพราะอาจทำให้เกิดความร้อน เกิดประกายไฟ และการระเบิดได้ สิ่งของแตกหักง่าย เป็นต้น
ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินในกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง
ส่วนของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินซึ่งไม่สามารถพกไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องของผู้โดยสารได้ก็มีลิสต์ข้อมูลที่ต้องเช็กทุกครั้งก่อนขึ้นเครื่อง ดังนี้
- ของเหลว ที่มีปริมาณเกิน 100 มล. หรือรวมกันทั้งหมดเกิน 1,000 มล. ยกเว้นของเหลวบางประเภทที่อนุโลมได้ เช่น ยาประจำตัว อาหารที่จำเป็นต้องพกพาตามคำสั่งแพทย์ อาหารหรือนมสำหรับเด็ก
- แบตเตอรี่สำรอง ความจุเกิน 32,000 mAh หากความจุระหว่าง 20,000-32,000 mAh พกพาได้ไม่เกินคนละ 2 ชิ้น ความจุต่ำกว่า 20,000 mAh สามารถพกพาขึ้นเครื่องได้
- อาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ทุเรียน ปลาร้า อาหารทะเลตากแห้ง เพราะอาจส่งกลิ่นรบกวนผู้โดยสารคนอื่น
- ของมีคมและสิ่งที่อาจเป็นอาวุธได้ทุกชนิด เช่น มีดโกน มีดพก กรรไกร กรรไกรตัดเล็บ ไม้ตียุงไฟฟ้า รวมถึงบางสายการบินยังไม่อนุญาตให้นำขาตั้งกล้องพกพาขึ้นไปบนเครื่อง
- วัตถุไวไฟ วัตถุที่อาจทำให้เกิดการระเบิด เช่น ไฟแช็ก ไม้ขีดไฟ พลุ ประทัด สีสเปรย์
- สารเคมีที่อาจเป็นอันตราย เช่น สารฟอกขาว สารหนู น้ำกรด สารกำจัดแมลง ทั้งรูปแบบน้ำและผง เพราะอาจทำให้เกิดเหตุอันตรายกับผู้โดยสารคนอื่นระหว่างเดินทาง
- เนื้อสัตว์ ของสดที่ผ่านการแช่แข็ง และอาหารสดต้องห้ามของประเทศปลายทาง
- ยาเสพติดผิดกฎหมายทุกประเภท รวมถึงกัญชาซึ่งบางประเทศไม่อนุญาตให้นำเข้าเด็ดขาด
- สัตว์เลี้ยงและสัตว์ทุกประเภท
- อุปกรณ์กีฬาที่อาจใช้เป็นอาวุธได้ เช่น ไม้กอล์ฟ ไม้เทนนิส ไม้แบดมินตัน แนะนำให้โหลดใต้ท้องเครื่อง
- แม่เหล็กขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์ที่อาจทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก
- อุปกรณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย เช่น กระบอง กุญแจมือ อาวุธปืน วิทยุสื่อสาร สนับมือ เครื่องช็อตไฟฟ้า สเปรย์พริกไทย
- สิ่งของละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิ่งของผิดกฎหมาย
- อื่น ๆ ที่อาจตรวจพบและไม่ได้รับอนุญาต เช่น สิ่งของแตกหักง่าย น้ำแข็งแห้ง เครื่องประดับ หรือสิ่งของมูลค่าแพง
บทลงโทษและมาตรการเมื่อผู้โดยสารปฏิบัติผิดกฎ
เมื่อของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินทั้งแบบอยู่ในกระเป๋าเช็กอินโหลดใต้ท้องเครื่องหรือพกพาขึ้นเครื่องก็ตามไม่ได้รับอนุญาตแต่ยังฝ่าฝืนผู้โดยสารคนดังกล่าวก็จะต้องรับบทลงโทษตามมาตรการที่สนามบินหรือสายการบินนั้น ๆ ระบุเอาไว้ โดยขอยกตัวอย่างจากสนามบินในเมืองไทย
- กรณีพบเจอด้านหน้าทางเข้าของด่านตรวจสนามบินขาออกประเทศต้นทาง เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ยึดหรือไม่อนุญาตให้สิ่งของชิ้นดังกล่าวผ่านการตรวจจนกว่าสิ่งของชิ้นนั้นจะถูกทิ้งหรือได้รับการทำลาย หากผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามกฎ ขัดขึ้น ขัดขวาง หรือหลีกเลี่ยงการตรวจค้น ผู้โดยสารจะได้รับโทษทางกฎหมายจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- กรณีหลุดลอดจากด่านตรวจสนามบินด้านนอกเข้ามาถึงภายในแล้วมีการตรวจพบ ผู้โดยสารต้องได้รับโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และต้องทิ้งหรือทำลายสิ่งของชิ้นนั้น
- กรณีสิ่งของหลุดไปจนถึงสนามบินปลายทางและมีการตรวจพบโดยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจขาเข้าเมือง หรือตรวจพบระหว่างอยู่บนเครื่องบิน การระวางโทษจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดกฎหมายของสนามบินหรือประเทศนั้น ๆ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการส่งรายงานพร้อมส่งมอบตัวผู้กระทำผิดหลังเครื่องลงถึงสนามบินหรือขณะตรวจพบให้กับฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
เคล็ดลับในการปฏิบัติตามกฎของสายการบิน
จริง ๆ แล้วเคล็ดลับในการปฏิบัติตนเองให้เป็นไปตามกฎของสายการบินต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่ไม่พกพาสิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งของต้องห้ามทุกประเภทที่ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบินทั้งสัมภาระเช็กอินโหลดใต้ท้องเครื่องและสัมภาระพกขึ้นเครื่อง เท่านี้ก็สามารถเดินทางได้อย่างสบายใจ หรือในกรณีลืม ไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่รู้ว่าไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ก็แค่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทิ้ง ทำลาย เพียงเท่านี้ก็หมดความกังวลใจในทุกการเดินทาง ไม่กระทำผิดกฎหมายใด ๆ อย่างแน่นอน
สรุป
ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินทุกประเภทที่ระบุเอาไว้ถือเป็นข้อกำหนดที่ผู้โดยสารทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติตามเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร ลูกเรือ และเจ้าหน้าที่ทุกคนระหว่างที่กำลังทำการโดยสารเครื่องบิน หากไม่กระทำตามจะถือเป็นพฤติกรรมผิดกฎหมายและต้องได้รับโทษตามข้อกำหนดของสถานที่ที่พบเจอ ดังนั้นเพื่อความสบายใจในทุกการเดินทางแนะนำให้ตรวจเช็กสิ่งของทุกชิ้นทั้งในกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องและกระเป๋าพกขึ้นเครื่องอย่างละเอียด ไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย หรือผิดตามข้อห้ามใด ๆ อยู่เป็นอันขาด