เมื่อต้องออกเดินทางโดยเฉพาะการไปยังต่างประเทศ อีกไอเทมสำคัญที่เหล่านักเดินทางขาดไม่ได้นั่นคือ “กระเป๋าเดินทาง” เพื่อใส่สัมภาระ สิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ระหว่างใช้ชีวิตในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย อย่างไรก็ตามหนึ่งในปัญหาที่มักเกิดขึ้นได้ตั้งแต่การโดยสารเครื่องบินไปจนถึงระหว่างท่องเที่ยว พำนักอาศัย ใช้ชีวิตในต่างถิ่นนั่นคือ “กระเป๋าเดินทางเสียหายตอนเดินทาง” คำถามคือถ้ากระเป๋าเดินทางเสียหายตอนเดินทาง ทำอย่างไร แล้วกรณีมีประกันเดินทางสามารถรับเคลมได้หรือไม่ ลองหาคำตอบกันเลย!
กระเป๋าเดินทางเสียหายตอนเดินทาง เรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา กรณีที่คุณไปต่างประเทศแล้วเจอปัญหากระเป๋าเดินทางเสียหายตอนเดินทางก็มีสิทธิ์พบเจอเสมอ เช่น กระเป๋าแตก ซิปแตก ซิปขาด ล้อหัก ด้ามลากหลุดเสียหาย และอื่น ๆ อันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าสภาพของกระเป๋าเดินทางไม่เหมือนเดิม โอกาสที่สัมภาระภายในจะหลุดออกมาภายนอกหรือสูญหายมีสูง ซึ่งสาเหตุของความเสียหายมีได้ทั้งหล่นกระแทกพื้น ถูกของแข็งหรือของหนักกระแทกใส่หรือวางทับจนไม่สามารถรับน้ำหนักไหว การเข็นหรือลากผิดวิธี เข็น-ลากชนเข้ากับของแข็ง ใส่ของเยอะหรือหนักเกินไป ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ทุกการเดินทางจึงต้องระวังให้ดีเสมอ
กระเป๋าเดินทางเสียหายตอนเดินทาง ทำอย่างไรดีนะ?
เมื่อคุณเกิดปัญหากระเป๋าเดินทางเสียหายตอนเดินทาง ต้องแยกกรณีให้ชัดเจนว่าเป็นลักษณะความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับสายการบินหรือไม่ และขั้นตอนที่หลายคนสงสัยว่าถ้ากระเป๋าเดินทางเสียหายตอนเดินทาง ทำอย่างไรดีนะ? ก็มีคำแนะนำมาบอกต่อแล้ว
กระเป๋าเดินทางเสียหายจากเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายการบิน
กรณีนี้ต้องตรวจสอบรายละเอียดของกรมธรรม์ที่คุณซื้อประกันเดินทางต่างประเทศเอาไว้ว่าให้ความคุ้มครองมากน้อยเพียงใด มีเงื่อนไขเพิ่มเติมอะไรหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่คำว่าสินทรัพย์เสียหายโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายการบินประกันเดินทางมักไม่ค่อยครอบคลุมเท่าใดนัก ยกเว้นกรณีสูญหายจากการโจรกรรม ปล้นชิงทรัพย์ ซึ่งต้องมีหลักฐานการแจ้งความชัดเจน อย่างไรก็ตามถ้าอ่านแล้วมีเงื่อนไขการรับเคลมเรื่องสัมภาระเสียหายทุกกรณีครอบคลุมด้วยก็ทำตามขั้นตอนได้เลย
- 1. ติดต่อบริษัทประกันที่คุณซื้อประกันเดินทางเอาไว้พร้อมแจ้งรายละเอียดเบื้องต้น
- 2. กรอกเอกสารการยื่นเคลมประกันสินทรัพย์เสียหายเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ระบุข้อมูลทุกอย่างให้ครบถ้วน เช่น สังเกตเจอวันไหน จุดไหน
- 3. ถ่ายรูปเพื่อใช้แนบเป็นหลักฐาน รวมถึงหากมีสิ่งของอื่นสูญหายให้ระบุและพยายามหาหลักฐานมาแสดงให้มากที่สุด เช่น ใบเสร็จการซื้อสิ่งของดังกล่าว
- 4. แนบเอกสารการเดินทางที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปกับบริษัทประกัน เช่น สำเนาพาสปอร์ต บอร์ดดิ้งพาส สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร ใบเสร็จซื้อสินค้าที่สูญหาย หรือใบเสร็จกระเป๋าเดินทางใบที่เสียหาย เอกสารแบบฟอร์มการเคลม เป็นต้น
- 5. ยื่นข้อมูลทั้งหมดให้กับบริษัทประกัน แล้วรอผลการพิจารณา อย่างไรก็ตามคุณสามารถดำเนินการได้อย่างช้าสุดหลังกลับจากการเดินทางทริปดังกล่าวไม่เกิน 7 วัน
กระเป๋าเดินทางเสียหายจากเหตุสุดวิสัยของสายการบิน
กรณีแรกมักเป็นสิ่งที่พบเจอได้บ่อยมากเมื่อนำกระเป๋าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่อง ปรากฏเมื่อถึงปลายทางแล้วรอรับกระเป๋า สิ่งที่เห็นคือรอยแตกร้าว และอื่น ๆ ซึ่งกรณีที่ก่อนโหลดยังไม่มีปัญหาอะไรก็แสดงว่าจุดเกิดเหตุต้องอยู่ระหว่างการขนขึ้นใต้ท้องเครื่องแบบไม่ต้องสงสัย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสิ่งที่คุณควรต้องทำมีดังนี้
- 1. ตรวจสอบกระเป๋าเดินทางทุกครั้งเมื่อหยิบลงจากสายพาน
หลังจากกระเป๋าเดินทางค่อย ๆ ไหลออกมาจากสายพาน พอถึงจังหวะที่ต้องหยิบลงอย่าพึ่งเคลื่อนย้ายไปไหนไกล ให้ตรวจสอบความผิดปกติของกระเป๋าว่ามีรอยแตกร้าว ซิปหลุด ล้อหลุด ล้อเบี้ยว ด้ามลากหัก ฯลฯ หากไม่มีก็ถือว่าปลอดภัย แต่เมื่อไหร่ที่มีต้องรีบแจ้งกับเคาน์เตอร์ Lost & Found หรือเจ้าหน้าที่ Information ใกล้เคียงสายพานนั้นที่สุดเพื่อให้ช่วยตรวจสอบทันที เหตุผลที่ไม่แนะนำให้ลากกระเป๋าเดินทางไปไกลจากสายพานเพราะอาจเป็นเหตุอ้างให้ทางสายการบินไม่รับผิดชอบได้
- 2. ติดต่อแจ้งรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่
เมื่อพบเห็นและแจ้งเบื้องต้นแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่คุณต้องอธิบายกับเจ้าหน้าที่ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยการติดต่อต้องนำ Passport และ Boarding Pass ไปแสดงด้วย ย้ำอีกครั้งว่าต้องเช็กกระเป๋าเดินทางให้ดี อย่านำออกจากสนามบินแล้วพึ่งพบความเสียหาย ส่วนมากสายการบินจะไม่รับผิดชอบ เพราะมองว่าอาจเสียหายระหว่างที่คุณเดินทางนอกสนามบิน
- 3. รอการออกเอกสาร Damage Report
เอกสาร Damage Report หรือ Property Irregularity Report (PIR) คือ เอกสารการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงระบุรายละเอียดทั้งหมด เช่น ยี่ห้อกระเป๋า สี ลักษณะ ลวดลาย เพื่อยืนยันจุดที่เกิดความเสียหายจากความผิดพลาดของสายการบิน ซึ่งจะมีแจ้งตอนท้ายว่าสายการบินยินดีรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ก่อนจะออกเอกสารดังกล่าวเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบ ถ่ายภาพ และประเมินความเสียหายเบื้องต้น
- 4. เข้าสู่ขั้นตอนการซ่อมแซม
สุดท้ายสายการบินจะทำการซ่อมแซมให้กับคุณซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กรณี โดยเจ้าหน้าที่ทำการประเมินและระบุข้อมูลเอาไว้ในเอกสาร Damage Report ดังนี้
- กระเป๋าเดินทางเสียหายไม่มาก ยังสามารถใช้งานได้ ผู้โดยสารจะได้กระเป๋ากลับไปใช้งานก่อนจากนั้นทางสายการบินจะติดต่อกลับเพื่อนัดวันเข้ามาซ่อมแซมโดยส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปรับแล้วส่งคืนเมื่อแล้วเสร็จ แต่ถ้าผู้โดยสารจะนำไปซ่อมเองต้องพูดคุยกับทางสายการบินให้เข้าใจ โดยสามารถซ่อมได้แค่เฉพาะที่ระบุไว้ใน Damage Report เท่านั้น แล้วนำใบเสร็จค่าซ่อมตัวจริงเบิกจ่ายภายหลังกับทางสายการบิน
- กระเป๋าเดินทางเสายหายหนัก ใช้งานไม่ได้ เช่น กระเป๋าแตกทั้งใบ ปกติสายการบินจะแนะนำการชดเชยให้ 2 วิธี คือ จัดหากระเป๋าเดินทางใบใหม่ทดแทนใบเดิม อาจเป็นสี รุ่น ยี่ห้อ คล้ายกัน หรืออาจชดเชยเป็นมูลค่าตัวเงินตามการประเมินราคาของสายการบิน
แล้วประกันเดินทางจะช่วยกรณีนี้อย่างไร
จากข้อมูลเมื่อกระเป๋าเดินทางเสียหายตอนเดินทาง สังเกตว่าสายการบินเองก็มีความรับผิดชอบให้แบบครบถ้วนทั้งหมด แล้วอย่างนี้ประกันเดินทางจะช่วยอะไรได้อีกบ้าง? คำตอบคือ ประกันเดินทางต่างประเทศที่คุณซื้อจะช่วยเหลือด้านมูลค่าของสินทรัพย์ที่เสียหายหรือสูญหายเพิ่มเติม ซึ่งกรณีนี้คุณจำเป็นต้องขอเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- ยืนยันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสายการบิน
- ตามด้วยการแนบเอกสารแบบเดียวกับที่สินทรัพย์เสียหายหรือสูญหายนอกสนามบิน
- รูปภาพความเสียหายของสินทรัพย์
- เอกสารยืนยันข้อตกลงที่สายการบินได้ชดเชยตามมูลค่าความเสียหายหรือสูญหายบางส่วนแล้วเพื่อประเมินว่าคุณได้รับการชดเชยเป็นจำนวนกี่บาทจากสนามบิน
สรุปความคุ้มครองเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทางของประกันเดินทางต่างประเทศ
- 1. คุ้มครองความสูญเสียหรือสูญหาย
อันมีเหตุเกิดจากอุบัติเหตุ การโจรกรรม ลักทรัพย์ รวมถึงความผิดพลาดจากสายการบินส่งผลให้สัมภาระเสียหาย สูญหาย บางกรมธรรม์อาจครอบคลุมความเสียหายนอกสนามบินก็ถือเป็นข้อดีที่คุณได้ประโยชน์ (แต่มีน้อยมากที่จะรับเงื่อนไขนี้ยกเว้นถูกโจรกรรม ลักทรัพย์)
- 2. คุ้มครองความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง
หากสัมภาระถึงล่าช้าตามจำนวนเวลาที่กำหนด เช่น ถึงช้ากว่า 6 ชั่วโมง นับจากที่ตัวผู้โดยสารเดินทางมาถึงประเทศปลายทาง จะมีค่าชดเชยที่ต้องซื้อสิ่งของจำเป็นสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันให้
- 3. คุ้มครองเอกสารเดินทาง
เช่น ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต เอกสารจองที่พัก ตั๋วยานพาหนะ เกิดความสูญเสียด้วยเหตุดังนี้ โจรกรรม ชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ สูญเสียจากอุบัติเหตุ
- 4. คุ้มครองเงินส่วนตัว
ทั้งธนบัตรหรือเช็คธนาคารสูญหายอันเกิดจากโจรกรรม ชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ แต่ต้องมีใบแจ้งความจากสถานีตำรวจ และครอบคลุมวงเงินไม่เกินที่กำหนดในกรมธรรม์
ซื้อประกันเดินทาง ที่ไหนดี ลดความเสี่ยงกระเป๋าเดินทางเสียหาย
ใครที่มีแผนเดินทางไปเมืองนอก ประกันเดินทางต่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่อย่ามองข้าม หากมีเหตุให้สัมภาระ กระเป๋าเดินทางเสียหายตอนเดินทาง หรือสูญหาย ก็ยังช่วยผ่อนหนักเป็นเบาจากการเคลมประกัน จึงขอแนะนำ “ประกันเดินทาง LUMA GO” จาก LUMA กับราคาเบา ๆ เริ่มต้นจ่ายเพียง 199 บาท ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ บริการช่วยประสานงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน สายด่วนตลอด 24 ชม. แต่ถ้าต้องการความคุ้มครองด้านการเดินทางเพิ่มเติมจ่ายราคาเริ่มต้นแค่ 469 บาท คุ้มครองรวม 3 ล้านบาท (มีแพ็คเกจคุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาท) สมัครง่ายผ่านออนไลน์ ทริปไหนก็อุ่นใจซื้อไว้ไม่ต้องกังวล