จัดเต็มทริปสายมูเกาหลี แอบหนีโอปป้าไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ใครเบื่อสายมูประเทศเพื่อนบ้านอยากบินไปขอพรให้ไกลขึ้น รวมถึงคนที่ชอบเดินทางไปดินแดนกิมจิเพื่อกระทบไหล่โอปป้า ตามรอยซีรี่ย์ทั้งหลาย ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาสัมผัสกับสายมูเกาหลีดูบ้างก็จัดว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะที่นี่เองก็มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้สายมูได้ไปกราบไหว้ขอพรสำเร็จกันอยู่พอสมควร ใครอยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้าง เตรียมเปิดทริปสายมูพร้อมกันเลย

สายมู เกาหลี

ติดตาม ข่าวสาร และ โปรโมชั่นต่างๆ

สายมู เกาหลี, จัดเต็มทริปสายมูเกาหลี แอบหนีโอปป้าไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์

สายมูต้องไหว้วัดพงอึนซา (Bongenusa Temple)

หากคุณเป็นสายมูตัวจริงแล้วมีโอกาสเดินทางถึงเกาหลี สถานที่แรกห้ามพลาดเด็ดขาดนั่นคือ “วัดพึงอึนซา” วัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินแกะสลักองค์ใหญ่สุดของเกาหลีความสูงถึง 23 เมตร รอบองค์ยังรายล้อมด้วยรูปปั้นหินสลักขององค์เจ้าแม่กวนอิมแบบจำลอง และรูปปั้นหินอื่น ๆ มองแล้วเป็นภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่จะพบเห็นบริเวณประตูด้านหน้าคือรูปปั้นเทพเจ้า 4 องค์ สามารถกราบไหว้บูชาด้วยกระเช้าดอกไม้ได้ ส่วนตรงประตูทางออกก็ยังมีรูปปั้นพระสังกัจจายน์สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา กิจการก้าวหน้ารุ่งเรือง

ด้วยทำเลของวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ย่านกังนัม ใจกลางกรุงโซล ผู้คนส่วนใหญ่ที่แวะเวียนมากราบไหว้ขอพรสำเร็จจึงมีหลายกลุ่มตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ หากเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่สามารถบูชาเทียนตามนักษัตรและการเขียนขอพรแปะติดกับโคมไฟจิ๋วด้านหน้าวัดเพิ่มสีสันความสวยงามให้กับวัดแห่งนี้เข้าไปอีก แต่แอบกระซิบว่าคนจะเยอะมาก

การเดินทางสุดง่ายดายจะนั่งรถไฟใต้ดินสาย 9 ลง  Bongenusa Station Exit 1 ก็ได้ นั่งรถไฟใต้ดินสาย 7 ลง Cheongdam Station Exit 2 ก็สะดวก หรือเลือกนั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลง Samseong Station Exit 6 ก็ถึงวัดเช่นกัน ไหว้พระเสร็จแล้วไปช้อปปิ้งกันต่อได้แบบสบายใจ

ทริปสายมูไหว้พระกันที่วัดซินอึงซา (Sinhuengsa Temple)

ลุยทริปสายมูกันต่อกับวัดที่มีความเก่าแก่มากสุดของเกาหลี สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 652 ยุคอาณาจักรชิลลา นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่วัดแห่งนี้ยังคงความงดงามกับสถาปัตยกรรมและการตกแต่งแบบชิลลาซึ่งเป็นการตกแต่งแบบเกาหลีผสมกับวัฒนธรรมจีนเอาไว้ได้แบบน่าประทับใจมาก เมื่อถึงวัดแห่งนี้แล้วสิ่งที่ต้องทำคือการกราบไหว้พระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางแจ้งซึ่งคนเกาหลีเชื่อว่าองค์ท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ขอพรสิ่งใดก็มักได้รับกลับมาเสมอ สิ่งของยอดนิยมในการกราบไหว้จะเป็นเทียนเล่มใหญ่กับข้าวสาร หลังไหว้พระเสร็จเรียบร้อยอย่าลืมตักน้ำมนต์ล้างมือล้างหน้าเพื่อความเป็นสิริมงคลกันด้วย

อีกจุดเด่นของวัดแห่งนี้คือบรรยากาศอันแสนงดงาม ฉากหลังเป็นภูเขาสูงใหญ่อันเขียวขจีเนื่องจากตัววัดตั้งอยู่บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน ส่วนจุดถ่ายรูปยอดนิยมคือประตูทั้ง 4 ทิศ ซึ่งมีท้าวจตุโลกบาลเฝ้าอยู่ทั้ง 4 จุด การเดินทางจากกรุงโซลต้องนั่งรถบัส Dongseoul Bus Terminal โดยระบุว่าจะลง Sokcho เมื่อสุดสายที่ Sokcho Intercity Bus Terminal ก็ข้ามฝั่งมารอรถบัสท้องถิ่นสาย 7 นั่งเข้าไปในอุทยานได้เลย

สายมูเกาหลีต้องไม่พลาดวัดแฮดอง ยงกุงซา (Haedong Yonggungsa Temple)

หากคุณคือสายมูเกาหลีที่อยากเที่ยวกับบรรยากาศทางตอนใต้ขอแนะนำวัดในเมืองปูซานแห่งนี้เลย ตัววัดตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดคยองซัง ความงดงามลำดับแรกที่แตกต่างจากวัดอื่น ๆ คือถูกสร้างขึ้นบนโหดหินริมทะเลจึงกล้าการันตีความสวยงามแบบไม่ต้องเกรงใจใคร (วัดอื่นส่วนใหญ่ของเกาหลีมักสร้างตามริมภูเขา) ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่คาดว่าน่าจะถูกสร้างตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 1351 – 1374 ก่อนได้รับการบูรณะใหม่อีกครั้งเมื่อปี ค.ศ. 1970 คนจะเนืองแน่นมาก ๆ ในช่วงปีใหม่เพื่อชมแสงแรกของปี รวมถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิดอกพ็อดกด (ซากุระ) จะบานสะพรั่งสวยงามเกินต้าน

สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิภายในวัดจะมีอยู่เยอะพอสมควร เช่น เจดีย์ 3 ชั้น พระพุทธรูปสีทอง รวมถึงสิงโต 4 ตัวหันหน้าออกทะเล โดยสิงโตแต่ละตัวถูกแทนด้วยความยินดี โกรธ สุข และเศร้า ใครอยากให้ชีวิตมีแต่เรื่องดี ๆ เข้าหาก็ลองแวะเวียนเปิดทริปสายมูมาสักการะกันได้เลย การเดินทางแนะนำให้นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ของปูซานลง Haeundae Station Exit 7 แล้วต่อรถบัสท้องถิ่นสาย 181 ลงป้าย Yonggungsa Temple National Fisheries Research & Development Institute เดินต่ออีกไม่เกิน 3 นาที ก็ถึงวัดแล้ว

สายมู เกาหลี

ขอพรสำเร็จที่วัดแฮอินซา (Haeinsa Temple)

ตามมาขอพรสำเร็จกันต่อที่วัดแฮอินซาซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “อารามแห่งสมาธิอันแสนล้ำลึกดุจนที” สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 802 ยุคสมัยอาณาจักรชิลลาปกครอง อันถือเป็นช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองมากในดินแดนเกาหลี สถาปัตยกรรมภายในวัดจึงยังคงความเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างน่าสนใจเน้นก่อสร้างจากอิฐและไม้เป็นหลัก อัดแน่นด้วยวิหารถึง 75 แห่ง และกุฏิไม้อีก 14 หลัง ชมความสวยงามของงานแกะสลักไม้ยุคโบราณหาชมยาก โคมไฟหิน ภาพเขียนบนเจดีย์หิน และอื่น ๆ อีกมากมาย

จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือเป็นสถานที่เก็บแผ่นไม้สลักพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาเกาหลีซึ่งมีอายุยาวนานกว่า 700 ปี ถูกสร้างขึ้นเพื่อบันทึกคำสั่งสอนขององค์พระพุทธเจ้าฉบับสมบูรณ์มากสุดของเอเชียตะวันออก ใช้เวลาจารึกนานถึง 16 ปี ระหว่าง ค.ศ. 1236 – 1251 รวมทั้งสิ้น 81,258 แผ่น โดยทางองค์การยูเนสโกได้ทำการขึ้นทะเบียนแผ่นไม้สลักพิมพ์ดังกล่าวให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกมาตั้งแต่ปี 1995 แถมยังเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษามากกว่า 300 รูป สามารถแวะเวียนไปกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ด้านในกันได้เลยสำหรับสายมูทุกคน

วัดแฮอินซาตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติคายาซาน เมืองฮับชอน จังหวัดเกียงซังนัม-โด แนะนำให้นั่งรถไฟมาลง Gimcheon Gumi Station แล้วต่อแท็กซี่เข้าไปถึงวัดจะสะดวกที่สุด

สายมูแวะไปไหว้พระที่วัดวัดเบียวเมียวซา (Beomeosa Temple)

วัดอีกแห่งทางตอนเหนือของเมืองปูซาน ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาคึมจองซาน มีอายุเก่าแก่มากกว่า 1,300 ปี โดดเด่นด้วยการก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมแบบพุทธแท้ ๆ โอบล้อมด้วยต้นไม้สุดร่มรื่นและเขียวขจี ผู้คนส่วนมากจึงนิยมมานั่งสมาธิเพื่อฝึกจิตของตนเองอยู่เสมอ บรรยากาศเงียบสงบพร้อมกับความสวยงามตามสไตล์เกาหลี นอกจากการกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดซึ่งมีกระจายอยู่หลายจุดมาก สายมูยังได้สนุกกับกิจกรรมเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น พิธีชงชาดั้งเดิมของคนเกาหลี เดินชมวัตถุโบราณที่ถูกนำมาจัดแสดงเอาไว้ เป็นต้น

อีกความพิเศษของวัดแห่งนี้คือการเดินทางไม่ได้ยุ่งยากเลย สามารถนั่งรถไฟจาก Busan Station มาลง Beomeosa Station แล้วต่อแท็กซี่จะสะดวกมากสุด ใช้เวลาไม่เกิน 50 นาที จากตัวเมืองปูซาน สายมูเกาหลีแวะมาด่วน

ขอพรสำเร็จได้จริงที่วัดมโยกักซา (Myogaksa Temple)

อยากขอพรสำเร็จในทุกสิ่งต้องแวะวัดแห่งความสุขสงบแห่งนี้เลย ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของภูเขานักซาน กรุงโซล ซึ่งคนเกาหลีเชื่อว่าจุดที่ตั้งของวัดเป็นฮวงจุ้ยที่ดีและส่งผลบวกกับชาวเมืองมาช้านาน ช่วยนำพาเอาความสุขสงบให้กับผู้คนจึงไม่แปลกที่วัดจะได้รับความนิยมในการเดินทางมากราบไหว้กันไม่ขาดสายสำหรับสายมูทั้งคนเกาหลีและต่างชาติโดยเฉพาะคนไทย ภายในวัดมีทั้งสถาปัตยกรรมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบสักการะเยอะมาก เช่น ห้องโถงพระธรรมเทศนานักกะ พระพุทธรูปภายในถ้ำซอกกูลัมซึ่งเชื่อว่าสร้างขึ้นมายาวนานกว่าพันปี ตั้งแต่ปลายยุคศตวรรษที่ 9 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติเกาหลี  

รวมถึงบริเวณผาหินภูเขานักซานเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ผ่านการแกะสลักบนผาหิน หรือแม้แต่รอบวัดก็มีศาลเจ้าหลายแห่งให้ได้กราบไหว้ เช่น ศาลเจ้าแทบุล ศาลเจ้าวอนทง ศาลาซันชิน และอื่น ๆ การเดินทางไม่ยุ่งยากสามารถนั่งรถไฟใต้ดินลง Sinseoldong Station Exit 12 แล้วเดินต่อประมาณ 300 เมตร ก็ถึงแล้ว

นี่คือจุดน่าสนใจสำหรับสายมูทั้งหลายที่อาจเบื่อสายมูประเทศเพื่อนบ้านอยากลองไปขอพรสำเร็จไกลถึงเกาหลีก็ลองเช็กลิสต์กันเลย อย่าลืมตรวจเอกสารอย่างละเอียดสำหรับการขอวีซ่าเกาหลี และ ห้ามลืมสิ่งสำคัญอีกเรื่องเมื่อต้องไปเมืองนอกทุกครั้งนั่นคือ ประกันเดินทางไปเกาหลี เพื่อความอุ่นใจไร้กังวลทุกทริป จึงขอแนะนำ ประกันเดินทางต่างประเทศ ราคาเบา ๆ เพียง 199 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท คุ้มครองโควิด-19 สมัครง่ายผ่านออนไลน์ พร้อมบริการช่วยประสานงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน สายด่วนตลอด 24 ชม. เที่ยวให้สนุกและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันเลย

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางในเกาหลีใต้:

Last update: 

Table of Contents

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เลขที่ 0105555036794

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย เลขที่00008/2555  

ใบอนุญาตนายหน้าประกันภัย เลขที่ ช00012/2564

BOI logo

ได้รับการรับรองจาก BOI 2927/2555

บริษัท ลูม่า แคร์ จำกัด, 57 ปาร์ควินเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ชั้น 9 ยูนิต 912 ถนนวิภาวดี แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10330

Copyright © 2024 lumahealth.com. All Rights Reserved.   นโยบายความเป็นส่วนตัว