“อิตาลี” ประเทศในฝันของหลาย ๆ คนที่ครั้งหนึ่งอยากมีโอกาสเดินทางไปสัมผัสความสวยงามของสถานที่สวย ๆ สิ่งปลูกสร้างประวัติศาสตร์บ่งบอกเรื่องราวความรุ่งเรืองในอดีต ไปจนถึงการมองหาอาหารแสนอร่อยทานกันแบบจุใจ ใครวางแผนเอาไว้ว่าปีนี้จะต้องไปยังดินแดนรองเท้าบูทให้จงได้ จะขอแนะนำ 5 ที่เที่ยวอิตาลียอดฮิต 2024 เที่ยวอิตาลีกันให้สนุกสุดมัน เปิดโลกใบใหม่ของชีวิต เรียนรู้ประสบการณ์กันแบบจัดเต็มไปเลย
หอเอนเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa)
หากเอ่ยถึงแลนด์มาร์กสำคัญและเปรียบได้กับสัญลักษณ์ของประเทศยังไงก็ต้องไม่พลาดกับ “หอเอนแห่งเมืองปิซ่า” อย่างแน่นอน ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1173 เพื่อเป็นหอระฆังสำหรับใช้งานภายในเมือง แต่ด้วยดินของพื้นที่บริเวณดังกล่าวนิ่มจึงเกิดการยุบตัวระหว่างก่อสร้างไปถึงชั้น 3 ส่งผลให้การสร้างต้องพักไปชั่วคราว
แม้จะมีการพักก่อสร้างไปหลายรอบแต่ท้ายที่สุดก็เสร็จเป็นหอระฆังอันสมบูรณ์แบบและแปลกตามากที่สุดในโลกกับทรงกระบอก 8 ชั้น ความสูง 55.58 เมตร ความเอียงจากพื้นราว 3.97 องศา โครงสร้างสถาปัตยกรรมหินอ่อน มีขั้นบันได 293 ขั้น และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สามารถถ่ายรูปคู่สวย ๆ รวมถึงขึ้นไปชมความงดงามของอาคารและวิวด้านบนได้เลย ค่าเข้าอยู่ที่คนละ 20 EUR
เวลาเปิด-ปิด: วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น.
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Pisa S. Rossore แล้วเดินต่ออีกไม่เกิน 5 นาที
พิกัด: กดดูพิกัด
คลองเมืองเวนิส (Venice Canal)
หรือจะเรียกว่า คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal / Canalazzo) ก็ได้เช่นกัน ถือเป็นคลองขนาดใหญ่ในเมืองเวนิส และเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนต่างก็อยากแวะเวียนมาให้จงได้ ถือเป็นคลองเส้นหลักสำหรับใช้ในการคมนาคมขนส่งทั้งผู้คนและสิ่งของในเมือง ไฮไลท์สำคัญของการเที่ยวอิตาลีที่นี่คงหนีไม่พ้นการนั่งเรือชมบรรยากาศริม 2 ฝั่งคลองที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นอิตาลียุคเก่าไม่ว่าจะเป็นลักษณะบ้านเรือน วิถีชีวิตของผู้คนเอาไว้ได้อย่างลงตัวมาก
สำหรับคนที่สนใจล่องเรือต้องทำการติดต่อกับบริษัททัวร์ให้เรียบร้อย เลือกแพ็คเกจได้ตามต้องการ ซึ่งเรือยอดฮิตต้องยกให้กับ “กอนโดล่า (Gondola)” แต่ถ้าใครแค่อยากเดินถ่ายรูปชิล ๆ ก็ไม่มีปัญหา ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น และยังสามารถหาของอร่อยทานได้อีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชม.
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Santa Lucia เมื่อเดินขึ้นมาก็จะพบกับคลองเวนิสทันที
พิกัด: กดดูพิกัด
โคลอสเซียม (Colosseum)
ที่เที่ยวอิตาลียอดนิยมได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สนามกีฬายุคโบราณที่ในอดีตเป็นที่กักขังนักโทษและกบฏ บ่อยครั้งพวกเขาต้องเจอการต่อสู้อันแสนโหดร้ายทารุณกับสิงโต เสือ การฆ่าฟันกันเองเพื่อให้มีผู้เหลือรอด สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยจักรพรรดิเวสเปเซี่ยนแห่งจักวรรดิโรมันก่อนแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 80 มีลักษณะเป็นอัฒจันทร์วงกลมก่อสร้างจากอิฐ หิน ทราย สามารถจุคนได้มากกว่า 50,000 คน
ปัจจุบันนอกจากเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตยังเป็นสถานที่แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการลงโทษหากมีการตัดสินประหารชีวิตหรือยกเลิกการประหารชีวิตจากที่ใดก็ตามบนโลก ไฟสีเหลืองจะถูกเปิดส่องสว่างเสมือนสัญลักษณ์พิเศษอีกด้วย ค่าเข้าชม 16 EUR
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 08.30 – 19.00 น.
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Termini Line B ลงสถานี Piramide Station เดินต่ออีกไม่เกิน 10 นาที
พิกัด: กดดูพิกัด
น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain)
น้ำพุที่ถูกสร้างตามสถาปัตยกรรมแบบบาโรกขนาดใหญ่สุดของกรุงโรม สูง 85 ฟุต ยาว 65 ฟุต ตั้งอยู่บริเวณทาง 3 แพร่ง ที่ทุกวันนี้คือพื้นที่บรรจบกันของ Acqua Vergine, Aqua Virgo และสะพานส่งน้ำโรมันโบราณ สร้างขั้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1732 ก่อนแล้วเสร็จในอีก 30 ปีต่อมา
ความสวยงามของน้ำพุแห่งนี้ต้องยกให้กับรูปปั้นหลากสไตล์ เช่น เทพเข้าเนปจูนขี่ม้าติดปีก เทพไททันครึ่งคนครึ่งปลา ว่ากันว่าหากใครโยนเหรียญลงไปในน้ำพุได้สำเร็จจะมีโอกาสกลับมาเยือนอีกครั้ง ถือเป็นงานประติมากรรมชั้นเอกที่ควรค่ากับการแวะเวียนมาเยี่ยมชมสักครั้งแบบไม่ต้องมีข้อสงสัยอื่นใดทั้งสิ้น
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชม.
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Metro Line A ลงสถานี Barberini Station เดินตามป้ายบอกทางไปน้ำพุได้เลย
พิกัด: กดดูพิกัด
มหาวิหารนักบุญเปโตร (Basilica Sancti Petri)
หรือ มหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา (St. Peter’s Basilica) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกต่างเลื่อมใสศรัทธา มหาวิหารขนาดใหญ่สุดในอิตาลี สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 4 ซึ่งใช้เวลายาวนานกว่า 120 ปี บนพื้นที่กว่า 14 ไร่ สามารถจุผู้คนได้กว่า 60,000 คน เป็นสถานที่ฝังศพของนักบุญเปโตร บิชอปและสันตะปาปาองค์แรกของกรุงโรม และปัจจุบันก็ยังคงเป็นสถานที่ฝังศพขององค์สันตะปาปามากกว่า 90 องค์
ใครไปเที่ยวอิตาลีที่นี่สามารถเข้าไปชมความงดงามของศิลปะสไตล์บาซิลากาภายใน รวมถึงรูปปั้นต่าง ๆ ได้เลย ส่วนบริเวณลานด้านหน้าหรือ St. Peter’s square แล้วมองเข้าไปยังตัววิหารก็งดงาม เป็นลักษณะลานวงกลมกว้าง ๆ โอบล้อมด้วยเสาหินโบราณขนาดยักษ์ และมีเสา Obelisk อยู่ตรงกลาง ถ่ายรูปกันเพลินแน่ ค่าเข้าไปด้านในพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ 19.50 EUR
เวลาเปิด-ปิด: เดือนตุลาคม – มีนาคม เปิด 07.00 – 18.00 น. เดือนเมษายน – กันยายน เปิด 07.00 – 19.00 น.
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Metro Line A ลงสถานี Ottaviano แล้วเดินตรงเข้าไปตามเส้นทางไม่เกิน 10 นาที
พิกัด: กดดูพิกัด
นี่คือทั้ง 5 ที่เที่ยวอิตาลี 2024 ยอดฮิตที่ห้ามพลาดเด็ดขาด แต่เหนือสิ่งอื่นใดทุกครั้งที่คุณต้องเดินทางไปต่างประเทศ อย่าลืมเพิ่มความสบายใจให้กับตนเองด้วยการซื้อ “ประกันเดินทางอิตาลี” ไว้ด้วย ซึ่งใครที่กำลังมองหาประกันเดินทางต่างประเทศ ขอแนะนำ ประกันเดินทางต่างประเทศ จาก LUMA สำหรับคนที่เตรียมวางแผนไปยังประเทศกลุ่มเชงเก้น ใช้เพื่อยื่นขอวีซ่า คุ้มครองโควิด-19 ได้ ที่สำคัญสามารถซื้อประกันเดินทางต่างประเทศนี้ผ่านระบบออนไลน์อย่างง่ายดาย ราคาเริ่มต้นเพียง 55 บาท พร้อมการคุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาท คุ้มค่าขนาดนี้จะกี่ทริปก็อุ่นใจแน่นอน