ท้องแล้ว ควรซื้อประกันแบบไหน?

เนื่องจากช่วงระหว่างการตั้งครรภ์นั้นเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หลาย ๆ คนจึงอยากมีประกันสุขภาพติดตัวไว้เพื่อความอุ่นใจ แต่หลาย ๆ คนก็อาจจะยังไม่รู้ว่า ถ้าตั้งครรภ์แล้วควรซื้อประกันแบบไหนดี วันนี้ LUMA หาคำตอบมาให้แล้ว มาตามอ่านกันได้เลย 

ประกันที่เหมาะกับเหล่าคุณแม่

ประกันที่เหมาะกับเหล่าว่าที่คุณแม่ก็คือ ประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นประกันที่คุ้มครองการเจ็บป่วยต่าง ๆ  ในระหว่างการตั้งครรภ์ จนไปถึงคุ้มครองค่าตรวจประจำเดือน ค่าคลอดบุตร บางบริษัทประกันยังครอบคลุมถึงภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และการดูแลเด็กทารกแรกเกิดอีกด้วย

ถ้าตั้งครรภ์แล้ว ควรซื้อประกันแบบไหน 

โดยปกติแล้ว ประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ จะสามารถทำได้ในตอนที่วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือหมายถึงยังไม่ได้ตั้งครรภ์ เนื่องจากประกันเหล่านี้จะต้องมีระยะเวลารอคอยอย่างน้อย 9 เดือน รวมไปถึงการตั้งครรภ์ ก่อนที่ประกันจะเริ่มคุ้มครอง ถือเป็นภาวะที่เป็นมาก่อน หรือ pre-existing ดังนั้น หากท้องแล้วหรือตั้งครรภ์แล้ว ก็ไม่สามารถทำประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ประเภทนี้ได้  

ถึงแม้ว่าจะท้องแล้วหรือตั้งครรภ์แล้ว แต่อยากมีประกันที่คุ้มครองทั้งตัวคุณแม่และตัวลูกน้อยติดตัวไว้ ก็ยังมีอีกหนึ่งทางเลือก คือ การซื้อประกันสุขภาพสำหรับตัวคุณแม่เอง และเพิ่มลูกน้อยเข้ามาอยู่ในความคุ้มครองในกรมธรรม์ภายหลังในตอนที่ลูกน้อยคลอดออกมาแล้ว โดยคุณแม่จะต้องแจ้งกับผู้รับประกันว่าจะเพิ่มลูกน้อยเข้าไปในกรมธรรม์ก่อนกำหนดคลอด และมีระยะเวลารอคอย 15 วันหลังจากคลอด  สำหรับราคาค่าเบี้ยขอเด็กแรกเกิด จะถูกคำนวณแบบ Pro- Rate ตามระยะเวลาที่เหลือของกรมธรรม์ของคุณแม่

ดังนั้น คุณแม่จึงควรเลือกประกันสุขภาพที่มอบความคุ้มครองที่หลากหลายและครอบคลุมมากที่สุด เพื่อที่คุณแม่จะได้มีความอุ่นใจว่าหากเกิดเหตุต้องเจ็บป่วยขึ้นมา จะได้อยู่ในความดูแลของแพทย์ และไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่ายส่วนเกิน รวมถึงลูกน้อยก็จะได้รับความคุ้มครองไปด้วย  

ท้องแล้วควรซื้อประกันแบบไหน

แนะนำแผนประกันสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แล้ว 

วันนี้ ทาง LUMA ขอมาแนะนำแผนประกันสุขภาพสำหรับคุณแม่ที่ท้องแล้วหรือตั้งครรภ์แล้ว มีที่ไหนบ้าง มาดูกัน 

ประกันสุขภาพสำหรับคุณแม่ที่ท้องหรือตั้งครรภ์แล้ว ทาง LUMA ขอแนะนำ 

สำหรับประกันสุขภาพจาก LUMA ในแผน Hi5 และแผน PRIME นั้น สำหรับแผน Hi5 มอบความคุ้มครองผู้ป่วยใน (IPD) วงเงิน 5 ล้านบาท  มอบความคุ้มครองผู้ป่วยใน (IPD) และวงเงินตั้งแต่ 10ล้าน – 50 ล้านบาท ในส่วนของแผน PRIME  นอกจากนี้ ทั้งสองแผนยังมีสิทธิพิเศษที่จะมอบความคุ้มครองความผิดปกติที่เกิดขึ้นแต่กำเนิด เป็นวงเงิน 25,000 บาทต่อปี สำหรับแผน Hi5 และวงเงิน 100,000 – 600,000 บาทต่อปี สำหรับแผน PRIME 

หากต้องการอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสุขภาพสำหรับคุณแม่ สามารถอ่านได้ที่ LUMA เปรียบเทียบประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์ ปี 2567 คุณแม่ ๆ ต้องดู! 

ท้องแล้วควรซื้อประกันแบบไหน

สรุป 

คุณแม่หรือว่าที่คุณแม่หลาย ๆ คนคงจะได้รู้แล้วว่าถ้าท้องแล้วหรือตั้งครรภ์แล้ว ควรซื้อประกันแบบไหนจะเหมาะสมที่สุด แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าจะซื้อประกันอะไรก็ตาม ก่อนที่จะซื้อก็ควรที่จะอ่านรายละเอียดในกรมธรรม์ของประกันให้ละเอียดก่อนซื้อ ดูความคุ้มครองที่ตอบโจทย์กับตัวเองมากที่สุด และเลือกทำประกันกับบริษัทประกันที่เชื่อถือได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีปัญหาในตอนที่ต้องเคลมประกันในภายหลัง     

อ่านเพิ่มเติม:

Last update: 

Table of Contents
DBD logo

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เลขที่ 0105555036794

OIC logo

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย เลขที่00008/2555  

ใบอนุญาตนายหน้าประกันภัย เลขที่ ช00012/2564

BOI logo

ได้รับการรับรองจาก BOI 2927/2555

บริษัท ลูม่า แคร์ จำกัด, 57 ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ชั้น 9 ยูนิต 912 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

Copyright © 2025 lumahealth.com. All Rights Reserved.   นโยบายความเป็นส่วนตัว