การอยู่บ้านช่วงวิกฤตไม่ได้หมายความว่าคุณต้องกินแต่อาหารที่ปรุงลวกๆ การทำอาหารที่บ้านช่วยให้คุณมีกิจกรรมทำและปลดปล่อยจิตใจจากความวิตกกังวลในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ หากคุณเตรียมวัตถุดิบเข้าครัวไว้แล้ว ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลงมือทำสารพัดเมนูที่คุณชอบ
ในช่วงที่มีไวรัสระบาด คุณต้องการอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและปลอดภัยจากการเจ็บป่วย ถ้าเย็นนี้คุณอยากทำอาหารทานเอง ลองซื้ออาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อไปนี้ที่ร้านค้าใกล้บ้านคุณดูสิ

บรอกโคลี
บรอกโคลีมีชื่อเสียงว่าเป็นสุดยอดอาหารและสามารถนำไปใช้ทำอาหารได้หลากหลายเมนูนอกจากนี้ยังหาซื้อได้ง่ายจากตลาด แคลอรี่ต่ำ เต็มไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ กุญแจสำคัญในการรักษาสารอาหารและพลังงานให้คงเดิมคือใช้บรอกโคลีสดและปรุงให้ไม่สุกเกินไป
วิธีเลือกซื้อและเก็บรักษาบรอกโคลี:
เมื่อซื้อบรอกโคลี ให้เลือกดอกที่เนื้อแน่น กระชับ และมีสีเขียวเข้ม ไม่ควรเลือกดอกที่มีชิ้นส่วนร่วนหลุด เปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือเหี่ยวเฉา บรอกโคลีอาจกลายเป็นเนื้อไม้หรือเป็นเส้นใยหากเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน ใส่หัวบรอกโคลีไว้ในถุงที่ไม่รัดแน่น หรือถุงมีรู และนำไปเก็บในลิ้นชักเก็บผักในตู้เย็น ล้างบรอกโคลีก่อนรับประทานอาหารเท่านั้น เพราะบรอกโคลีที่เปียกอาจเกิดเชื้อราและหลุดเป็นชิ้นๆ ได้
กระเทียม
กระเทียมถูกนำมาใช้ในเกือบทุกเมนูอาหารทั่วโลก และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ในยุคโบราณ กระเทียมยังถูกนำมาใช้แก้อาการติดเชื้อ ผลการศึกษาพบว่ากระเทียมอาจช่วยลดความดันโลหิตและชะลอการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงได้ สารประกอบที่มีซัลเฟอร์ เช่น อัลลิซินในกระเทียมอาจมีคุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
วิธีเลือกซื้อและเก็บรักษากระเทียม:
เลือกซื้อกระเทียมหัวที่ไม่มีตำหนิ ผิวแห้ง และกลีบกระเทียมแน่น เก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง ไม่เก็บในตู้เย็น กระเทียมที่เป็นหัวสามารถเก็บได้นานหลายเดือน กลีบกระเทียมควรใช้ให้หมดภายใน 10 วัน การกินกระเทียมดิบวันละกลีบจะทำให้คุณได้รับสารอัลลิซินในปริมาณที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ขิง
ผู้คนในหลากหลายวัฒนธรรมรวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะดื่มชาขิงอุ่น ๆ เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ ขิงจึงเป็นอาหารที่พบได้ง่ายตามตลาดสดและร้านค้าต่างๆ เนื่องจากขิงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระได้ดี จึงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและลดการอักเสบ
วิธีเลือกซื้อและเก็บรักษาขิง:
เลือกซื้อขิงที่ไม่มีตำหนิ เนื้อแน่นและเรียบเนียน ขิงที่มีผิวเหี่ยวย่นบ่งบอกว่าขาดน้ำมาระยะหนึ่งแล้วและไม่ควรนำมาใช้ หากต้องการรักษาความสด ขิงจะอยู่ได้สามสัปดาห์เมื่อเก็บไว้ในถุงหรือภาชนะสุญญากาศแล้วนำไปแช่ในช่องแช่ผักผลไม้ในตู้เย็น หากต้องการเก็บไว้นานกว่า 3 เดือน ให้ห่อด้วยพลาสติก ใส่ในถุงสุญญากาศแล้วแช่แข็ง
มะละกอ
มะละกอเป็นผลไม้เมืองร้อนชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยวิตามินซีตามธรรมชาติ มะละกอมีเอนไซม์ย่อยอาหารที่เรียกว่าปาเปนซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ นอกจากนี้มะละกอยังมีโพแทสเซียม วิตามินบี และโฟเลตในปริมาณที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน
วิธีเลือกซื้อและเก็บรักษามะละกอ:
มองหามะละกอที่ส่วนใหญ่เป็นสีเหลืองหรือลูกที่สุกเต็มที่ เมื่อกดเบาๆ เนื้อต้องแน่น มีผิวเรียบเนียน ไม่ควรซื้อมะละกอที่มีตำหนิ รอยตัด หรือเนื้อนิ่มเกินไป หากต้องการรับประทานทีหลัง ให้ใส่ถุงแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น สามารถเก็บได้นานหนึ่งสัปดาห์ หากต้องการเร่งให้มะละกอสุกเร็วขึ้น ให้ใส่ไว้ในถุงกระดาษสีน้ำตาลแล้ววางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง
ขมิ้น
ขมิ้นเป็นที่รู้จักว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารอินเดียและตะวันออกกลางหลายชนิด สีเหลืองสดใสและเครื่องเทศรสขมถูกใช้มานานหลายชั่วอายุคนเพื่อต้านการอักเสบ มีงานวิจัยหลายงานที่พบว่าเคอร์คูมินในขมิ้นช่วยลดความเสียหายของกล้ามเนื้อเนื่องจากการออกกำลังกายได้
วิธีเลือกซื้อและเก็บรักษาขมิ้น:
เลือกเหง้าที่เนื้อแน่นและสด เพราะอุดมไปด้วยสารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ควรซื้อขมิ้นที่มีเนื้อนิ่ม แห้ง และเหี่ยวเฉา หากต้องการเก็บไว้หนึ่งหรือสองสัปดาห์ ให้ใส่ถุงพลาสติกหรือภาชนะสุญญากาศแล้วนำไปใส่ในตู้เย็น แต่ถ้าอยากเก็บได้นานเป็นเดือน ควรนำไปแช่แข็ง
สามารถปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และมีประโยชน์ได้เอง และหากคุณกำลังมองหาประกันสุขภาพ สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อรับใบเสนอราคาได้ฟรีทันที
อ่านเพิ่มเติม:
- อาหารไขมันดี – รวมอาหารที่ประกอบไปด้วยไขมันดีต่อร่างกาย
- Plant-based food – ทำความรู้จักอาหารจากพืชและประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม