“เวียดนาม” หนึ่งในประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นสำคัญทั้งเรื่องความสะดวก ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ชั่วโมง บวกกับธรรมชาติสดใหม่ ผู้คนน่ารัก อาหารน่าลอง และอีกมากมาย แต่สำหรับใครที่วางแผนอยากไปเที่ยวเวียดนามครั้งแรก แต่ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมตนเองยังไงบ้าง ลองมาเช็กลิสต์การเตรียมไปเวียดนามแบบครบถ้วนทุกเรื่อง นอกจากผ่าน ตม. ได้อย่างง่ายดาย ยังเที่ยวสนุก สร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืมอีกด้วย!
เอกสารที่ต้องเตรียมไปเวียดนาม
เริ่มต้นกันด้วยเอกสารเข้าเวียดนามที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจะต้องจัดเตรียมให้พร้อม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบและส่งกลับประเทศจากด่านตรวจคนเข้าเมือง ประกอบไปด้วย
- หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) มีอายุใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- ตั๋วเครื่องบินขาเข้าและออกเวียดนาม
- ใบจองที่พัก โรงแรม ตลอดระยะเวลาที่พำนักอาศัย
- แผนการท่องเที่ยวเบื้องต้น (ภาษาอังกฤษ) หากถูก ตม. ร้องขอ
ทั้งนี้ปัจจุบันการไปเที่ยวเวียดนามสำหรับคนไทยไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า และไม่ต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิดใด ๆ แล้ว หากเตรียมเอกสารเข้าเวียดนามได้ครบถ้วนตามที่ระบุก็พร้อมเที่ยวกันเลย
การจองตั๋วเครื่องบินไปเวียดนาม
ด้วยประเทศเวียดนามมีหลายพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเวียดนามเหนือ เวียดนามกลาง และเวียดนามใต้ ดังนั้นก่อนจองตั๋วเครื่องบินจึงต้องรู้ว่าจะเดินทางไปยังจุดใด ซึ่งหลัก ๆ แล้วสนามบินเวียดนามที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมจะประกอบไปด้วย
- ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย (Noi Bai International Airport) ฮานอย เวียดนามเหนือ
- ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง (Da Nang International Airport) ดานัง เวียดนามกลาง
- ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport) โฮจิมินห์ ซิตี้ เวียดนามใต้
ส่วนสายการบินจากเมืองไทยที่บินตรงไปยังสนามบินต่าง ๆ ในประเทศเวียดนามก็มีอยู่เยอะมาก สามารถเลือกไฟล์ทที่ตอบโจทย์การเดินทางของตนเองได้เลย เช่น Air Asia, VietJet Air, Thai Airways, Vietnam Airlines, Viettravel Airlines, Bangkok Airways เป็นต้น
ขณะที่การจองตั๋วเครื่องบินไปเวียดนามสามารถเลือกได้ตามความสะดวกของแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นการจองตรงกับสายการบิน การจองผ่านบริษัทคนกลาง แต่ทั้งนี้ต้องเลือกให้รอบคอบ ใช้บริการเฉพาะคนกลางที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น
ประเภทที่พักในเวียดนามและวิธีจอง
สำหรับประเภทของที่พักเวียดนามก็ไม่ได้ต่างจากเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักท่องเที่ยวว่าชื่นชอบแบบไหน มีงบเท่าไหร่ หรือบริเวณที่ต้องการพักมีลักษณะห้องพักแบบใด หากคุณต้องการที่พักเวียดนามราคาถูกก็จะจำกัดอยู่ในหมวดของเกสต์เฮ้าส์ซึ่งมีทั้งแบบการให้ห้องน้ำรวม การนอนรวม (ราคาถูกมาก) หรือนอนห้องส่วนตัว มีห้องน้ำส่วนตัวแต่ขนาดเล็ก
ใครอยากพักระดับดีขึ้นมาสักนิดก็เลือกเป็นโรงแรมเกรด 2-3 ดาว สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานมีให้ เช่น เครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำในตัว อาหารเช้า เป็นต้น ส่วนคนที่เน้นอยู่สบายที่เวียดนามก็มีโรงแรมหรูระดับ 4-5 ดาว ให้ได้จองเช่นกัน แต่ส่วนมากมักอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น ฮานอย โฮจิมินห์ ซิตี้ และดานัง
วิธีจองที่พักเวียดนามสามารถจองได้ตรงกับทางที่พักผ่านช่องทางหลัก เช่น เว็บไซต์ Social Media หรือจะจองผ่านตัวแทนต่าง ๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกันดีก็ตามสะดวก ระบุวันเข้าพักให้ชัดเจน ถูกต้อง ป้องกันความผิดพลาดจะได้ไม่เสียเงินเพิ่มโดยใช่เหตุ
สิ่งอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมก่อนไปเวียดนาม
ข้อมูลหลัก ๆ ในการเตรียมไปเวียดนามที่ระบุไว้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะเอกสารเข้าเวียดนามอย่าง Passport อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งอื่นเพิ่มเติมซึ่งนักท่องเที่ยวควรเตรียมให้พร้อมเพื่อทริปอันแสนพิเศษ สนุกได้ตั้งแต่เริ่มเดินทางจนถึงวันกลับ ดังนี้
1. ซิมมือถือ
ด้วยยุคนี้การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งสำคัญมาก การซื้อซิมเวียดนามเพื่อเตรียมไปเวียดนามจึงขาดไม่ได้เป็นอันขาด ปัจจุบันซิมการ์ดเวียดนามสำหรับนักท่องเที่ยวก็มีอยู่หลายเจ้ามาก เช่น Vinaphone, Viettel ซึ่งการซื้อสามารถซื้อได้ทั้งตัวแทนขาย คนกลางในเมืองไทยแล้วไปรับที่สนามบินปลายทาง (ระบุสนามบินตอนจองซื้อให้ถูกต้อง) หรือใครจะไปซื้อที่สนามบินปลายทางเลยก็มีให้เลือกด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ไม่สะดวกเปลี่ยนหรือถอดซิมมือถือ เน้นความสะดวก ลงเครื่องแล้วใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันทีก็สามารถเลือกใช้บริการ Roaming จากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือเมืองไทยที่ตนเองเป็นลูกค้าอยู่ หรือจะซื้อ Pocket Wi-Fi ไปใช้งานก็ตามสะดวกเลย
2. การเตรียมเงินสด บัตรเครดิต และบัตรเดบิต
สำหรับสกุลเงินที่ใช้ในเวียดนามจะเรียกว่า เงินดอง (VND) ซึ่งที่ประเทศเวียดนามร้านค้าทั่วไป หรือร้านสตรีทฟู้ดจะยังนิยมรับเป็นเงินสด จึงควรคำนวณเงินที่จะใช้แต่ละวันให้ดีแล้วแลกให้เรียบร้อย ขณะที่บัตรเครดิต และบัตรเดบิตต่าง ๆ สามารถใช้งานได้กับร้านค้าขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โรงแรม ที่พัก ห้างสรรพสินค้า ซึ่งขอแนะนำให้เลือกบัตรที่มีแคมเปญใช้จ่ายต่างประเทศไม่เสียค่าธรรมเนียมจะดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นรูดซื้อสินค้าหรือกดเงินสดก็ตาม
3. การเดินทางในเวียดนาม
ปัจจุบันเวียดนามยังไม่มีรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดิน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงนิยมใช้รถโดยสารขึ้น-ลงตามป้ายรถประจำทาง ส่วนใครเน้นความสะดวก รวดเร็ว เดินทางง่าย แต่จะเสียเงินแพงกว่าเล็กน้อยสามารถใช้บริการแท็กซี่ รวมถึงแอปพลิเคชัน Grab ก็ได้เช่นกัน รวมถึงเวียดนามยังมีบริการนำเที่ยวพร้อมคนขับรถซึ่งคนขับจะพาคุณไปตามสถานที่ที่กำหนดหรือคุณร้องขอให้แบบครบถ้วน
ส่วนการเดินทางไปต่างเมืองจะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ ได้แก่ การเดินทางด้วยรถไฟ การเดินทางด้วยรถบัส และการเดินทางด้วยเครื่องบิน หรือใครสะดวกเช่ารถขับก็สามารถเลือกตามความต้องการของตนเองได้เลย แต่แอบกระซิบนิดว่าในเมืองหลวงจะมีรถมอเตอร์ไซค์เยอะมากต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
4. ปลั๊กไฟเวียดนาม
เรื่องของปลั๊กเวียดนามขอบอกว่าสบายใจหายห่วงได้เลย เพราะที่นั่นเขาใช้ปลั๊กไฟแบบเดียวกับบ้านเรานั่นคือปลั๊กแบนแบบ 2 ขา เต้าเสียบ 2 รู ขนาดเท่ากัน จะเสียบแบตมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม หรืออื่น ๆ ก็ง่ายดายไม่ต้องมีหัว Adaptor แต่ถ้าใครกลัวใช้งานไม่พอจะพกปลั๊กพ่วงไปด้วยก็ตามสะดวกเลย
แนะนำแผนการท่องเที่ยวเวียดนาม
เมื่อการเตรียมไปเวียดนามพร้อมทุกอย่างแล้วก็ถึงเวลาวางแผนท่องเที่ยวเพื่อความสนุกและตอบโจทย์ทริปอันแสนพิเศษ ซึ่งอย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่าเวียดนามมีอยู่หลายพื้นที่ จึงขอแนะนำสถานที่เที่ยวตามเมืองดัง ๆ ให้ได้รู้จักกันเลย
1. วัดหงอกเซิน (Den Ngoc Son) เมืองฮานอย
วัดเก่าอายุกว่า 300 ปี อยู่บนเกาะเล็ก ๆ ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ ต้องเดินข้ามสะพานไม้สีแดงชื่อ สะพานเทฮุก (สะพานแสงอาทิตย์) วิวโดยรอบสวยงาม และยังได้กราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตด้วย
2. อ่าวฮาลองเบย์ (Halong Bay) เมืองฮาลอง
ห้ามพลาดกิจกรรมล่องเรือในอ่าวฮาลองเบย์ชมวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามของเกาะหินปูนจำนวนมาก มีขนาดแตกต่างกันออกไป รวมถึงยังมีถ้ำสวรรค์และถ้ำนางฟ้าให้ชื่นชมความแปลกตาด้วย หรือใครอยากนั่ง Cable Car ข้ามอ่าวไปยังสวนสนุก Sun World Halong Park ก็ได้วิวมุมสูงน่าประทับใจมาก
3. บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) เมืองดานัง
เมืองแห่งเทพนิยายฝรั่งเศสตั้งอยู่บนภูเขาสูง ต้องใช้การนั่งกระเช้าขึ้นไปประมาณ 40 นาที ระยะทางราว 5,801 เมตร วิวระหว่างทางสวยงามเกินบรรยาย ด้านบนมีกิจกรรมให้ทำเพียบโดยเฉพาะสวนสนุก Ba Na Hills Suns World Fantasy Parks รวมถึงถ่ายรูปสวย ๆ ที่ Golden Bridge
4. ตลาดเบนถัน (Ben Thanh Market) เมืองโฮจิมินห์
สายช้อป ชอบความคลาสสิกต้องไม่พลาดเดินหาของอร่อย ของฝาก เสื้อผ้า งานแฮนด์เมด ไปจนถึงสินค้าพื้นเมืองจากเวียดนามได้ที่นี่ มีครบจบในตลาดเดียว โดยเฉพาะคอกาแฟไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงกับเมล็ดกาแฟหลากสายพันธุ์
5. เมืองฮอยอัน (Hoi An)
เมืองเล็ก ๆ ทางตอนกลางของประเทศในเขตจังหวัดกว๋างนาม ถูกยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกกับอาคารบ้านเรือนสีเหลืองสไตล์เวียดนามที่ยังคงเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีอาหารแสนอร่อยและกิจกรรมให้ทำเยอะมาก
สรุป
การเตรียมไปเวียดนามสิ่งสำคัญสุดคือ เอกสารเข้าเวียดนามอย่างพาสปอร์ต ส่วนการใช้อินเทอร์เน็ตจะเลือกซื้อซิมมือถือ Roaming หรือ Pocket Wi-Fi ก็ได้ทั้งหมด แนะนำให้พกเงินสดมากกว่ารูดบัตร และการเดินทางมีทั้งรถประจำทาง แท็กซี่ Grab หรือซื้อทัวร์พร้อมคนขับก็สะดวกมาก เหนือสิ่งอื่นใดไม่ว่าจะเที่ยวเวียดนามเมืองไหนประกันเดินทางเวียดนามต้องมีติดตัวไว้เสมอ จึงขอแนะนำ “ประกันเดินทาง Luma Go” จาก Luma ซื้อง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ในราคาเริ่มต้นเพียง 199 บาท และยังมีแพ็คเกจให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท คุ้มครองจากเชื้อโควิด-19 มีบริการประสานงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน ติดต่อสายด่วนได้ตลอด 24 ชม. ไปเวียดนามสบายใจ เที่ยวได้แบบเต็มพิกัด