เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ ดินแดนสวรรค์ของคนที่หลงใหลในช็อกโกแลต
สำหรับใครมีความฝันหรือวางแผนให้กับตนเองว่าในอนาคตอันใกล้ต้องมีโอกาส “เที่ยวยุโรป” ให้ได้สักครั้ง “สวิสเซอร์แลนด์” ถือเป็นอีกประเทศที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ทั้งเรื่องของความสวยงามของสถานที่ต่าง ๆ สภาพอากาศโดนใจคนไทย และเหนือสิ่งอื่นใดหากคุณคือหนึ่งในคนที่หลงใหลช็อกโกแลต การเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์แล้วมีโอกาสได้ชิมความอร่อยจากต้นตำรับแท้ ๆ คงเป็นอีกสิ่งที่ Complete ชีวิต ดินแดนสวรรค์สำหรับชาว Chocolate Lover พันธุ์แท้เลยทีเดียวว
ประวัติน่าสนใจของช็อกโกแลตสวิสเซอร์แลนด์
ช็อกโกแลตคือขนมประเภทหนึ่งที่ผลิตขึ้นโดยมีส่วนประกอบสำคัญอย่าง “เมล็ดโกโก้” ก่อนจะผ่านการแปรรูปด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ มีส่วนผสมวัตถุดิบอื่นเพิ่มเติมจนได้รสชาติอันแสนอร่อยที่ทุกคนทานกัน ซึ่งในสวิสเองก็มีการทำภายในครัวเรือนและวางขายอยู่บ้างแล้ว กระทั่งช่วงปี ค.ศ. 1819 François-Louis Cailler ได้เปิดโรงงานผลิตช็อกโกแลตที่มีการนำเอาเครื่องจักรเข้ามาใช้เป็นเจ้าแรกในเมือง Vevey โดยใช้โรงสีเก่าดัดแปลงให้เป็นโรงงานช็อกโกแลตจนแบรนด์ช็อกโกแลต “Cailler” กลายเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่มากสุดของสวิส
นับตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 ช็อกโกแลตสวิสได้มีการถือกำเนิดโรงงานผลิตและแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย เช่น ในปี ค.ศ. 1826 Philippe Suchard เปิดโรงงานใน Serrières ปีเดียวกัน Jacques Foulquier ก็มีการเปิดในกรุงเจนีวา ปี ค.ศ. 1830 Charles-Amédée Kohler มีการเปิดโรงงานช็อกโกแลตในเมือง Lausanne ปี ค.ศ. 1845 Rudolf Sprüngli มีการเปิดโรงงานใน Zurich ปี ค.ศ. 1899 Jean Tobler เปิดโรงงานใน Bern เป็นต้น หรืออย่างในปี ค.ศ. 1875 Daniel Peter มีการผลิตช็อกโกแลตแบบแท่งเป็นครั้งแรก
ความนิยมของช็อกโกแลตในประเทศสวิสยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ในปี ค.ศ. 1901 มีการจัดตั้ง “สหภาพเสรีของผู้ผลิตช็อกโกแลตสวิส” (Union libre des fabricants suisses de chocolat) แม้ในเวลาต่อมาจะมีการแยกออกไปเป็นชื่ออื่นและปิดตัวลงในที่สุด แต่ก็บ่งบอกได้ถึงการให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมช็อกโกแลตอย่างดี
หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ช็อกโกแลตสวิสได้เริ่มแผ่ขยายออกไปในยุโรป จากนั้นจึงค่อย ๆ ออกไปสร้างชื่อเสียงทั่วโลก ปัจจุบันคนสวิสยังคงนิยมชมชอบในการทานขนมชนิดนี้เป็นชีวิตจิตใจ ขณะที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเมื่อมีโอกาสได้เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ก็ต้องไม่พลาดในการแวะซื้อช็อกโกแลตกลับไปเป็นของฝาก
เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ทั้งที ต้องแวะร้านช็อกโกแลตชื่อดังด้วย
หากมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ทั้งทีตามที่บอกว่าสิ่งห้ามพลาดคือการแวะลองชิม ลองทาน และซื้อช็อกโกแลตกลับเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นของฝากคนรู้จักหรือซื้อเอาไว้ทานเองก็ตาม โดยจะขอแนะนำร้านยอดนิยม ดังนี้
1. Laderach
ร้านชื่อดังที่มีสาขาตั้งอยู่ในหลายแห่งตามเมืองใหญ่ของประเทศ รวมถึงสถานีรถไฟหลักก็มีอยู่พอสมควร ก่อตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ. 1962 แถมยังกระจายสาขาออกไปทั่วโลกกว่า 50 แห่ง จุดเด่นสำคัญต้องยกให้กับการมีช็อกโกแลตแผ่นหลากสไตล์ หลายประเภท ให้ได้เลือกสรรกันแบบจุใจ แถมวัตถุดิบที่ใส่ก็อัดแน่นด้วยคุณภาพพร้อมปริมาณคุ้มค่าไม่ว่าจะเป็นอัลมอนด์ แมคคาเดเมีย เฮเซลนัท และอื่น ๆ หรือใครอยากซื้อแบบห่อมีแพ็คเกจสวย ๆ ก็ตามชอบเลย
ขอบคุณรูปภาพประกอบ จาก Facebook – House of Laderach
2. Confiserie Sprüngli
ร้านนี้จะมีทั้งขนมหวานและช็อกโกแลตให้เลือกซื้อเยอะมาก เปิดมายาวนานมากกว่า 180 ปี (ก่อตั้งปี ค.ศ. 1836) มีสาขาอยู่เยอะมากตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ เมื่อเข้าไปแล้วจะพบกับความละลานตาของทั้งขนมหลากชนิด เช่น มาการอง เค้ก และไฮไลท์อย่างช็อกโกแลตสวิส การันตีความอร่อย หอมหวานจากจำนวนผู้คนที่มักเข้าไปซื้อกลับบ้านกันแบบไม่ขาดสายเลยทีเดียว
3. Cailler Chocolate Factory
สำหรับร้านนี้ต้องบอกก่อนว่าออกแนวกึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไปในตัว เพราะนอกจากจะได้เลือกชิมช็อกโกแลตของแบรนด์ Cailler ที่คุณชอบแล้ว ยังมีบางส่วนเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ได้เข้าไปเยี่ยมชมความประวัติต่าง ๆ ก่อนจะกลายเป็นแบรนด์ช็อกโกแลตสวิสเก่าแก่มากสุดในโลก เรียนรู้ขั้นตอนการทำช็อกโกแลตตั้งแต่แรกเริ่ม และของที่ระลึกสวย ๆ ที่ไม่ควรพลาดเป็นอันขาด
4. Du Rhône Chocolatier
ร้านช็อกโกแลตอีกแห่งที่เปิดให้บริการมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1875 ในเมือง Geneva จุดเด่นสำคัญคือช็อกโกแลตภายในร้านจะเลือกใช้เมล็ดโกโก้จากอเมริกาใต้และแอฟริกาตะวันตกเท่านั้น มีผลิตภัณฑ์ให้ได้ช้อปกันแบบจุใจ หลายสไตล์แพ็คเกจ หลากรสชาติความอร่อย ยืนยันว่าคุณจะรู้สึกเพลินไปกับการเดินซื้อจนไม่อยากออกจากร้านกันเลยทีเดียว
ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Facebook – Du Rhone Chocolatier
แนะนำแบรนด์ช็อกโกแลตสวิสชื่อดัง ใครได้ทานต่างก็หลงรัก
1. Callier
แบรนด์ช็อกโกแลตเก่าแก่ที่สุดของสวิส ก่อตั้งมาในปี ค.ศ. 1819 มีหลากสไตล์ หลายรสชาติให้ได้เลือกสรร และยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากทั้งคนในประเทศเองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื้อสัมผัสเข้มข้นทานแล้วประทับใจไม่รู้ลืม
2. Stella Bernrain
เริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1925 พร้อมแนวคิดการเปลี่ยนขนมทั่วไปสู่แบรนด์ความอร่อยระดับ Hi-End คุณภาพทั้งการผลิตและวัตถุดิบที่ใช้จึงมั่นใจได้แบบเต็มร้อย มาพร้อมกับความใส่ใจในทุกมิติ จนได้ออกมาเป็นขนมแสนอร่อยที่คนทั่วโลกต่างยอมรับ
3. Ovomaltine
หลายคนคุ้นเคยกันดีเพราะไม่ใช่แค่ช็อกโกแลตแต่ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย จุดเริ่มต้นของแบรนด์เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1865 Dr. Georg Wander มีการพัฒนาสารสกัดจากมอลต์พร้อมใส่วัตถุดิบอื่นลงไปจนท้ายที่สุดก็ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
ขอบคุณรูปภาพประกอบ จากเว็บไซต์ www.https://www.ovomaltine.com
4. Lindt
อีกแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ ค.ศ. 1845 พัฒนาและคิดค้นจนได้สูตรดีที่สุด เนื้อสัมผัสเข้มข้นจากส่วนผสมคุณภาพสูง เลือกสรรได้ตามชอบไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตนม เฮเซลนัทช็อกโกแลต ดาร์กช็อกโกแลต ฯลฯ ได้ลองชิมแล้วไม่ผิดหวัง
5. Toblerone
โดดเด่นด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ลักษณะภูเขาที่เรียงตัวติดกัน ซึ่งต้นแบบคือภูเขา Matterhorn มาพร้อมกับรสชาติสุดลงตัว ใครได้ทานต่างก็ต้องหลงรัก ไม่แปลกที่จะเป็นอีกแบรนด์ยอดฮิตและทั่วโลกยอมรับในคุณภาพชั้นสูง
6. Frey
แบรนด์ที่เปิดขายมายาวนานกว่า 130 ปี (เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1887) จากการพัฒนาของ 2 พี่น้อง Robert และ Max Frey โดดเด่นด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้ได้เลือกมากกว่า 50 ชนิด จัดเต็มไส้ต่าง ๆ จุใจ ความอร่อยไม่ต้องพูดถึงเลย
7. Favarger
ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1826 โดย Jacques Foulquier ใส่ใจกับทุกขั้นตอนตั้งแต่เรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบ การผลิต มีการคงมาตรฐานของสูตรดั้งเดิมเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกันแบบไม่ลืมเลือน ตอบโจทย์เหล่าบรรดา Chocolate Lover ขนานแท้ ได้ลองแล้วต้องหลงรักแน่
8. Teuscher
แบรนด์ช็อกโกแลตตังของสวิสเปิดวางจำหน่ายตั้งแต่ปี ค.ศ. 1932 จากความคิดและการลงมือทำของ Dolf Teuscher จุดเด่นสำคัญของแบรนด์นี้ต้องยกให้กับการผลิตในลักษณะของช็อกโกแลตบอลด้านในสอดไส้แยมหลากรสชาติ อร่อยโดนใจ แถมแพ็กเกจก็หรูหรา เหมาะกับการเป็นของฝากอย่างยิ่ง
9. Munz
เชื่อว่าคนไทยคงคุ้นเคยกับแบรนด์ช็อกโกแลตนี้กันพอสมควร มีต้นกำเนิดอยู่ที่สวิสผลิตโดย Maestrani ความพิเศษคือมีประเภทของสินค้าให้เลือกสรรกันแบบจัดเต็มมาก มาพร้อมการดีไซน์แพ็กเกจ การพัฒนารสชาติอย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ไม่น่าเบื่ออยู่เสมอ
10. Kagi
เริ่มต้นการผลิตในปี ค.ศ. 1958 โดย Otto Kägi เน้นการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และยังคงผลิตตามสูตรดั้งเดิมที่การันตีความอร่อยมาอย่างยาวนานเกิน 50 ปี โดยเฉพาะการทำเวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลตอันถือเป็น Signature เด็ด กัดคำแรกแทบละลายในปาก อร่อยบอกต่อเลยทีเดียว
ใครไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์อย่าพลาดในการซื้อกลับมาเป็นอันขาด ดินแดนสวรรค์สำหรับคอช็อกโกแลตพันธุ์แท้ อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่คุณเดินทางเที่ยวยุโรปการทำ ประกันเดินทางต่างประเทศ หรือ ประกันเดินทางยุโรป เป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งทาง LUMA เองก็มีประกันเดินทางสวิส มาบอกต่อ ความคุ้มครองสูงถึง 5 ล้านบาท กับราคาเริ่มเพียง 199 บาท ใช้เพื่อยื่นของวีซ่าเชงเก้นง่าย คุ้มครองการรักษาพยาบาลจากโควิด-19 แถมยังสมัครผ่านออนไลน์ได้เพิ่มความสะดวกไปอีกระดับ มีประกันเดินทางสวิสเซอร์แลนด์นี้ไว้อุ่นใจกว่าแน่นอน คุ้มครองกันตลอดทริป เที่ยวได้อย่างมีความสุขทุกวัน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์:
- ขั้นตอนการขอวีซ่า – เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเอกสารการเดินทาง
- 5 เมนูอาหารที่ต้องลอง – อาหารท้องถิ่นเมนูเด็ด
- 5 สิ่งที่ต้องทำ – สถานที่น่าสนใจที่เหมาะกับการเดินทางในทุกฤดูกาล