การมีโอกาสไปเที่ยวไม่ว่าประเทศใดก็ตามอีกกิจกรรมสุดฮิตต้องยกให้กับการช้อปปิ้ง เลือกซื้อของฝาก ของใช้ เสื้อผ้า ขนมต่าง ๆ กลับมายังเมืองไทย ด้วยเหตุผลสำคัญคือนักท่องเที่ยวสามารถทำ Tax Refund คืนภาษีได้ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสินค้าเหล่านั้นถูกกว่าในเมืองไทย ซึ่งใครที่วางแผนกำลังจะไปเที่ยวยุโรปพร้อมเป้าหมายในการช้อปปิ้งแบบมันสะใจ ลองมาเจาะลึกวิธีขอ Tax Refund ของประเทศในกลุ่มเชงเก้น พร้อมข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เอาไว้ใช้เป็นแนวทางที่ถูกต้องกันดีกว่า
ทำความเข้าใจ Tax Refund คืออะไร
Tax Refund คือ การขอคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ แล้วทำการซื้อสินค้าที่วางขายในประเทศเหล่านั้น ซึ่งปกติสินค้าแทบทุกชิ้นจะมีการบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เข้าไปอยู่แล้ว โดยภาษีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ดังนั้นนักท่องเที่ยวผู้ที่ไม่ได้เป็นพลเมืองหรือประชากรของประเทศจึงมีสิทธิ์ได้รับภาษีที่ตนเองต้องจ่ายจากการซื้อของกลับคืนมานั่นเอง อย่างไรก็ตามแต่ละประเทศก็จะมีเงื่อนไขในการขอ Tax Refund แตกต่างกันออกไป เช่น การกำหนดมูลค่าขั้นต่ำเมื่อซื้อสินค้า สกุลเงินที่จะได้รับคืน เป็นต้น
รายละเอียดการขอ Tax Refund กับกลุ่มประเทศเชงเก้น
กลุ่มประเทศเชงเก้นทั้ง 26 ประเทศ จะมีเงื่อนไขในการขอ Tax Refund สำหรับนักท่องเที่ยวแตกต่างกันออกไปบ้างตามมูลค่าการซื้อสินค้า โดยสามารถสรุปยอดเงินและอัตราการขอคืนภาษีได้ ดังนี้
- ขอ Tax Refund ที่ฝรั่งเศส ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 175.01 ยูโร (เครดิตการ์ดขอคืนได้ 12% / เงินสดขอคืน 10.08%)
- ขอ Tax Refund ที่อิตาลี ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 154.94 ยูโร (ขอคืนได้สูงสุด 15.50%)
- ขอ Tax Refund ที่สเปน ขอคืนได้ตั้งแต่ 1 ยูโรแรก (ตั้งแต่ 4% – 21% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่เยอรมนี ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 25 ยูโร (ขอคืนได้ตั้งแต่ 10% – 14.50% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่เนเธอร์แลนด์ ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 50 ยูโร (ขอคืนได้ตั้งแต่10% – 16% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่เดนมาร์ก ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 300 DKK (ขอคืนได้ 25%)
- ขอ Tax Refund ที่สาธารณรัฐเช็ก ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 2001 CZK (ขอคืนได้ตั้งแต่ 12% – 17% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่เบลเยียม ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 125.01 ยูโร (ขอคืนได้ตั้งแต่ 6% – 21% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund โปรตุเกส ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 53 – 61.50 ยูโร (ขอคืนได้ตั้งแต่ 6% – 23% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่ออสเตรีย ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 75.01 ยูโร (ขอคืนได้ตั้งแต่ 10% – 15% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่ฮังการี ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 54,001 HUF (ขอคืนได้ตั้งแต่ 13% – 19% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่โครเอเชีย ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 740 HRK (ขอคืนได้ตั้งแต่ 5% – 25% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่กรีซ ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 50 ยูโร (ขอคืนได้ตั้งแต่ 17% – 24% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่ไอซ์แลนด์ ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 4,000 ISK (ขอคืนได้ตั้งแต่ 7% – 25.50% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่โปแลนด์ ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 200 PLN (ขอคืนได้ตั้งแต่ 5% – 23% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
- ขอ Tax Refund ที่มอลตา ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 100 ยูโร (ขอคืนได้ 11%)
- ขอ Tax Refund ที่สวิตเซอร์แลนด์ ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 300 CHF (ขอคืนได้ 7.70%)
- ขอ Tax Refund ที่นอร์เวย์ หากเป็นอาหารต้องซื้อขั้นต่ำ 290 NOK (ขอคืนได้ 15%) ส่วนสินค้าทั่วไป ต้องซื้อขั้นต่ำ 315 NOK (ขอคืนได้ 25%)
- ขอ Tax Refund ที่ลัตเวีย ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 44 ยูโร (ขอคืนได้ 21%)
- ขอ Tax Refund ที่สโลวาเกีย ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 175.01 ยูโร (ขอคืนได้ 20%)
- ขอ Tax Refund ที่สโลวีเนีย ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 50.01 ยูโร (ขอคืนได้ 22%)
- ขอ Tax Refund ที่ลิทัวเนีย ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 200 LTL (ขอคืนได้ 21%)
- ขอ Tax Refund ที่ลักเซมเบิร์ก ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 74 ยูโร (ขอคืนได้ 15%)
- ขอ Tax Refund ที่เอสโตเนีย ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 38.01 ยูโร (ขอคืนได้ 20%)
- ขอ Tax Refund ที่ฟินแลนด์ ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 40 ยูโร (ขอคืนได้ 24%)
- ขอ Tax Refund ที่ลิกเตนสไตน์ ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 500 CHF (ขอคืนได้ 8%)
ขั้นตอนการขอ Tax Refund ที่ยุโรป ทำอย่างไรบ้าง
มาถึงเรื่องสำคัญของทุกคนที่เดินทางไปเที่ยวในประเทศแถบยุโรปและต้องการขอ Tax Refund ต้องบอกว่าขั้นตอนการขอ Tax Refund ที่ยุโรปแทบทุกประเภทมีความใกล้เคียงกัน สามารถทำตามคำแนะนำเหล่านี้ได้เลย
- 1. แจ้งพนักงานในร้านว่าต้องการขอ Tax Refund จากนั้นนำพาสปอร์ตของผู้ที่ต้องการขอยื่นให้กับพนักงาน
- 2. พนักงานจะให้เอกสารเพื่อกรอกข้อมูล ซึ่งไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก หลัก ๆ แล้วต้องกรอกชื่อ – นามสกุล หมายเลขพาสปอร์ต ที่อยู่ปัจจุบัน ประเทศ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ พร้อมลายเซ็นของผู้ขอ Tax Refund ที่ยุโรป
- 3. พนักงานจะทำการออกใบเสร็จสำหรับใช้ขอ Tax Refund ใส่ซองมาพร้อมกับเอกสารที่คุณกรอกไปก่อนหน้านี้
- 4. ทุกร้านที่ต้องการขอ Tax Refund ให้ทำแบบเดียวกันทั้งหมด
- 5. นำเอกสารจากร้านค้า ได้แก่ ใบเสร็จและแบบฟอร์ม Tax Refund ที่กรอกไว้มายื่นกับเคาน์เตอร์สนามบินที่จะทำการเช็กอิน ระหว่างเจ้าหน้าที่ออก Bording Pass ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการขอ Tax Refund
- 6. นำ Boarding Pass, Passport, ใบเสร็จ และฟอร์ม Tax Refund ไปยังด่านศุลกากร (Custom) ของสนามบิน เพื่อรับการแสตมป์ประทับตรา (กรณีเจ้าหน้าที่ขอดูสิ่งของก็ต้องสำแดงให้ดูด้วย) หากไม่มีปัญหาอะไรของในกระเป๋าก็จะถูกลำเลียงขึ้นสายพานเพื่อนำไปโหลดใต้ท้องเครื่อง
- 7. นำเอกสาร Tax Refund ที่ได้มายังหน้า Gate ทางเข้า จากนั้นก็ไปรับเงินคืนซึ่งจะมีผู้ให้บริการ Tax Refund ในสนามบินหลัก ๆ 2 เจ้า ได้แก่ Premier Tax Free และ Global Blue เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอ Tax Refund ที่ยุโรป
- 1. ในการขอ Tax Refund ที่ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน หรือที่ใดก็ตามในยุโรปจะต้องมียอดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำต่อ 1 บิล ตามที่กำหนดเอาไว้
- 2. แนะนำให้ซื้อเฉพาะกับร้านที่มีสัญลักษณ์ Tax Free หรือร้านที่ระบุว่าขอ Tax Refund ได้
- 3. ในห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าขนาดใหญ่บางแห่งคุณสามารถขอ Tax Refund คืนได้โดยไม่ต้องดำเนินการที่สนามบิน
- 4. สามารถขอ Tax Refund ที่ยุโรปคืนได้ทั้งเป็นเงินสด หรือคืนผ่านบัตรเครดิต (อัตราที่ได้รับอาจแตกต่างกันออกไป)
- 5. กรณีขอ Tax Refund เป็นเงินสดจากห้างหรือร้านค้าต้องเดินทางออกจากยุโรปภายใน 15 – 21 วัน นับตั้งแต่วันดำเนินการ
- 6. ในการขอ Tax Refund ตามปกติ จะได้รับการคืนเป็นสกุลเงินยูโร หรือสกุลเงินตามที่ประเทศเหล่านั้นใช้งาน ซึ่งกรณีขอคืนผ่านบัตรเครดิตจะได้รับเงินเข้าสู่บัตรตั้งแต่ 1 – 4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ
- 7. ปัจจุบันการขอ Tax Refund ที่อังกฤษ ไม่สามารถดำเนินการได้แล้วตามนโยบายของรัฐบาลอังกฤษ
- 8. ในการขอ Tax Refund ที่สวิตเซอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ จะต้องทำการขอก่อนเดินทางออกจากประเทศเท่านั้น เนื่องจากเป็นประเทศเชงเก้นนอกกลุ่ม EU ส่วนกรณีที่คุณเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่ม EU จะสามารถขอ Tax Refund ที่ประเทศปลายทางก่อนบินกลับเมืองไทยในครั้งเดียวได้เลย เช่น ซื้อสินค้าจากเยอรมนีแล้วไปขอ Tax Refund ที่อิตาลี แบบนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องขอจากเยอรมนีก่อน (ทั้งนี้หากจะเดินทางจากประเทศกลุ่ม EU เพื่อไปต่อยังประเทศนอกกลุ่ม EU ก็ต้องขอที่สนามบินก่อนออกจากประเทศกลุ่ม EU ให้เรียบร้อย)
- 9. สินค้าปลอดภาษี ไม่ต้องขอ Tax Refund เช่น ยา อาหาร เครื่องสำอาง ต้องถูกเก็บอย่างมิดชิดและมีสภาพสมบูรณ์ห้ามมีการแกะใช้งานเด็ดขาด
- 10. สนามบินบางแห่งมีตู้อัตโนมัติในการทำ Tax Refund จึงช่วยเพิ่มความสะดวกและความรวดเร็วกับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
สรุป
การขอ Tax Refund ที่ยุโรปหลัก ๆ แล้วมีขั้นตอนดำเนินการใกล้เคียงกันสามารถทำตามคำแนะนำได้เลย มากไปกว่านั้นก่อนจะเดินทางไปเที่ยวยุโรปหรือเที่ยวกลุ่มประเทศเชงเก้น อย่าลืมเลือกซื้อประกันเชงเก้น จาก LUMA มีแผนให้เลือกเยอะ และตรงตามความต้องการในการยื่นวีซ่าเชงเก้น ที่คุ้มครองขั้นต่ำ 30,000 Euro หรือ 1,500,000 บาท