หากเอ่ยถึงเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำหอม “กรุงปารีส” ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นลิสต์อันดับ 1 ที่บรรดาสายแฟชั่น หรือคนรักน้ำหอมเป็นชีวิตจิตใจต้องอยากมีโอกาสเดินทางไปสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง ทั้งความหลากหลายในด้านผลิตภัณฑ์ ใกล้ชิดกับเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์แบบต้นตำรับ และยังเป็นบ้านเกิดของน้ำหอมชื่อดังจำนวนมาก เรียกว่าทริปเที่ยวฝรั่งเศสของคนรักน้ำหอมจะมีความสุขและน่าประทับใจแบบไม่ลืมเลือนเลยทีเดียว
ประวัติของ “น้ำหอม” กว่าจะมาเป็นสินค้าขึ้นชื่อของฝรั่งเศส
หากพูดถึงต้นกำเนิดของน้ำหอมจากหลักฐานที่ค้นพบได้ซึ่งเป็นภาพวาดบนกำแพงโบราณ ต้องย้อนกลับไปกว่า 4,000 ปี ในประเทศอียิปต์ ส่วนใหญ่แล้วเครื่องหอมทั้งหลายมักถูกใช้งานในพิธีกรรมทางศาสนา การบูชาเทพเจ้า หรือพิธีศพต่าง ๆ แต่ถ้าในชีวิตของผู้คนทั่วไปหากต้องการสร้างความหอมให้กับร่างกายตนเองก็มักนำเอาเปลือกไม้ ยางไม้ หรือน้ำมันบางชนิดที่มีกลิ่นหอมผสมน้ำให้เจือจางเล็กน้อยแล้วค่อยประทินร่างกาย
จากนั้นน้ำหอมก็ค่อย ๆ มีวิวัฒนาการตามยุคสมัยมากขึ้น แต่ที่น่าสนใจคือในยุคเปอร์เซียเริ่มมีการนำเอาน้ำหอมมาเพิ่มเติมเทคนิคชั้นสูงบางอย่างเพื่อให้เกิดกลิ่นหอมหวนน่าประทับใจ กระทั่งเวลาผ่านไปเมื่อน้ำหอมเริ่มเข้ามาถึงประเทศฝรั่งเศส เดิมทีเหล่าคนในวังทั้งกษัตริย์ ขุนนางชั้นสูงจะใช้เพื่อสร้างกลิ่นหอมให้กับร่างกาย ผ่านไปสักพักประชาชนทั่วไปก็เริ่มได้สัมผัสถึงสิ่งเหล่านี้ มีการผลิตบรรดาแป้งหอม ถุงมือหอม เทียนหอม
แต่ถ้าเป็นจุดเริ่มของน้ำหอมฝรั่งเศสต้องยกให้กับเมืองกราสส์ (Grasse) เมืองขนาดเล็กทางตอนใต้ของประเทศ ด้วยลักษณะพื้นที่โอบล้อมด้วยหุบเขาจึงเต็มมีทุ่งดอกไม้กลิ่นหอมหวนอยู่เยอะ เมื่อน้ำหอมเริ่มแพร่หลายสู่ผู้คนจึงทำให้เกิดเป็นการผลิตออกขายในช่วงศตวรรษที่ 17 ก่อนจะแผ่ขยายมายังกรุงปารีสเมืองหลวงและมีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน
เที่ยวปารีส เมืองแห่งน้ำหอม ต้องลองสัมผัสกับแบรนด์ท้องถิ่น
สำหรับคนที่สงสัยว่าปกติแล้วที่ปารีสมีร้านขายน้ำหอมอยู่เยอะแค่ไหน ให้ลองนึกภาพร้านส้มตำในเมืองไทยได้เลย คือคุณสามารถหาร้านน้ำหอมได้ทุกจุดบนท้องถนน แทบทุกแยกบนหัวมุมถนน ยิ่งถ้าเป็นในห้างดัง แหล่งท่องเที่ยวไม่ต้องพูดถึง มีสินค้ากลุ่มน้ำหอมหลากสไตล์ หลายรูปแบบ ให้ได้เลือกสรรกันจุใจ ทั้งช้อปทางการของแบรนด์นั้น ๆ หรือร้านที่รวมหลายยี่ห้อเอาไว้
ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงการซื้อน้ำหอมแบรนด์ดังของฝรั่งเศสคงหนีไม่พ้น Chanel, Chloé, Givenchy, Yves Saint Laurent, Louis Vuitton เป็นต้น แต่สำหรับใครที่อยากสัมผัสกับความคลาสสิก แบรนด์ท้องถิ่นชนิดต้องไปซื้อที่ฝรั่งเศสเท่านั้น จะขอแนะนำตัวเลือกยอดนิยมให้ได้ตามรอยกันเลย
1. Annick Goutal
แบรนด์สุดคลาสสิกที่ผู้ให้กำเนิดเดิมทีเป็นนักเปียโนก่อนผันตัวมาสร้างผลิตภัณฑ์น้ำหอม ความเฉพาะตัวแบบไม่เหมือนใครของน้ำหอมแบรนด์นี้ต้องยกให้กับกลิ่นที่อ่อนหวาน สื่อถึงความเป็นหญิงสาวแสนสง่างามได้แบบน่าประทับใจ กลิ่นยอดฮิตคือ Eau d’Hadrien หอมหวานจากพืชตระกูลส้มผ่านแรงบันดาลใจจากการสัมผัสบรรยากาศในประเทศอิตาลี ลองแวะเวียนไปซื้อแล้วคุณจะหลงรัก
2. Caron
แบรนด์ต่อมาถือกำเนิดตั้งแต่ปี 1904 ซึ่งความเฉพาะตัวของพวกเขาเริ่มมาตั้งแต่แรกด้วยการพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากท้องตลาดอย่างสิ้นเชิง เน้นกลิ่นแบบเฉพาะตัวชนิดไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน จนท้ายที่สุดก็ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวัง ซึ่งกลิ่นแนะนำต้องยกให้กับ Narcisse Noir ที่ผสานความรื่นรมของดอกกุหลาบและความบริสุทธิ์จากดอกส้ม บวกด้วยไม้จันทน์ มันดีงามเกินบรรยาย
3. Diptyque
แบรนด์น้ำหอมแบบเฉพาะกลุ่มที่มีชื่อเสียงมากในฝรั่งเศส ก่อตั้งมาในปี 1961 ซึ่งถ้ามองในความแตกต่างพวกเขาคือผู้บุกเบิกน้ำหอม Maison สำหรับสุภาพบุรุษ เพิ่มเติมศิลปะแห่งเรือนร่างและความหอมผ่านประสาทสัมผัสกับรับรู้ มีหลากกลิ่น หลายสไตล์ให้ได้เลือกสรร ชอบแบบไหนลองเข้าไปช้อปกันตามสะดวกเลย ไม่ผิดหวังแน่
ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook – Goutal Paris
ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook – Parums Caron
ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook – diptyque
4. Editions de Parfums Frédéric Malle
จริงแล้วเจ้าของอย่าง Frédéric Malle แยกตัวมาจากครอบครัวที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องน้ำหอม เพราะปู่ของเขาก็คือผู้ก่อตั้งแบรนด์ Christian Dior นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากน้ำหอมของแบรนด์นี้จะมีความแตกต่างและสร้างเอกลักษณ์ให้กับตนเอง ซึ่งกลิ่นยอดนิยมต้องยกให้กับ Musc Ravageur ผสานความลงตัวเอาไว้ด้วยวัตถุดิบชั้นยอด อาทิ มะกรูด ส้มแมนดาริน ไม้จันทน์หอม วานิลลา ฯลฯ
5. Ex Nihilo
แบรนด์และช้อปน้ำหอมสไตล์ปารีเซียงพันธุ์แท้ในกรุงปารีส ก่อตั้งเมื่อปี 2013 ความพิเศษเมื่อได้แวะเวียนมาที่นี่นอกจากได้ซื้อน้ำหอมกลิ่นที่ชอบแล้วยังสามารถดีไซน์ความเฉพาะตัวของตนเองได้อีกต่างหาก สนุกและได้ประสบการณ์ชั้นยอดขั้นสุดไปเลย ซึ่งกลิ่นห้ามพลาดขอยกให้กับ Fleur Narcotique น้ำหอมสำหรับสาว ๆ ที่จัดเต็มทั้งกลิ่นมะกรูดและพีช ให้ความสดชื่นลงตัว เย้ายวนใจจนใครก็หลงใหล
6. Etat Libre d’Orange
ก่อตั้งมาในปี 2006 ก่อนจะค่อย ๆ ได้รับความนิยมและถูกพูดถึงอย่างมากในปัจจุบัน พวกเขาใช้ผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งตอบคำถามทั้งหมดจนใครที่เคยได้สัมผัสต่างก็ยอมรับในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานที่ไม่เคยตก มีการนำเสนอองค์ประกอบของกลิ่นได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งตัวเลือกยอดฮิตต้องยกให้กับ Etat Libre d’Orange สัมผัสถึงความอิสระ แปลกใหม่ ปราศจากแนวคิดแบบเดิม ๆ ที่เคยทำมา
ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook – Etat Libre d’Orange
7. Histoires de Parfums
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2000 เน้นความหรูหรามีระดับและถ้าใครมีโอกาสไปยังช้อปของพวกเขาเสมือนกับเป็นห้องสมุดน้ำหอมก็ไม่เชิง มีทั้งการบอกเล่าเรื่องราวแต่ละรุ่น ที่มาวัตถุดิบต่าง ๆ แรงบันดาลใจ และประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ซึ่งกลิ่นยอดฮิตติดลมบนขอยกให้กับ This Is Not A Blue Bottle 1.2 น้ำหอมกลิ่นไม้ฟลอรัล ใช้งานได้ทั้งชายและหญิง เปิดตัวมาในปี 2017 และเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงเยอะมาก
8. Houbigant Paris
แบรนด์น้ำหอมที่กำเนิดมาตั้งแต่ปี 1775 หรือในยุคศตวรรษที่ 18 ถือเป็นรากเหง้าแห่งความสำเร็จในยุคแรกที่ยังคงยืนหยัดมาจนทุกวันนี้ได้แบบสง่างาม จากเดิมที่เป็นแบรนด์เฉพาะชนชั้นสูงปัจจุบันไม่ว่าใครก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ กลิ่นที่ได้รับความนิยมมากต้องยกให้ Quelques Fleurs การผสมผสานอันแสนลงตัวของดอกไม้หลากชนิด ความเย้ายวนใจในแบบที่ใครได้สัมผัสแล้วไม่มีลืมเลือน
9. Jovoy Paris
หากคุณไปเที่ยวปารีสอาจพบว่านี่คือร้านน้ำหอมเฉพาะกลุ่มชื่อดังในฝรั่งเศสบริเวณเขต 1 แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเริ่มต้นการผลิตมาตั้งแต่ปี 1923 ก่อนจะกลับมาอีกครั้งเมื่อปี 2007 ปัจจุบันมีน้ำหอมสุดพิเศษให้ได้เลือกสรรมากกว่า 26 กลิ่น กลิ่นที่ขอแนะนำต้องไม่พลาด Gardez Moi การผสานกันของไม้หอมและผลไม้อ่อน ๆ ช่วยเพิ่มทีเด็ดในการใช้งานได้แบบน่าปรบมือให้แบบสุด ๆ เลย
10. Parfums de Nicolaï
ปิดท้ายกันด้วยแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่การทุ่มเทผลิตน้ำหอมชั้นยอดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด แม้เวลาผ่านมาเนิ่นนานแต่ก็ยังคงความสง่างามและความคลาสสิกที่หลายคนหลงรักเอาไว้ได้แบบไม่เสื่อมคลาย กลิ่นที่อยากแนะนำให้รู้จักคือ Cap Neroli กลิ่นรสส้มอันแสนรื่นรม ไม่ได้หวานจัดจนเกินไป ผสานกลิ่นอมเปรี้ยวเล็ก ๆ และความหอมจากดอกไม้ ให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด
เที่ยวฝรั่งเศสปลอดภัยต้องทำประกันเดินทางเอาไว้เสมอ
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการไปเที่ยวฝรั่งเศสสัมผัสกลิ่นหอมต้องมนต์เสนห์ของน้ำหอมแห่งปารีสนั่นคือการทำ “ประกันเดินทางต่างประเทศ” ไม่ใช่แค่เรื่องของเอาไว้เป็นหลักฐานทำวีซ่าเชงเก้นเท่านั้น แต่ยังสบายใจตลอดทริปอีกด้วย ซึ่งตัวประกันเดินทางต่างประเทศที่ขอแนะนำต้อง “ประกันเดินทางฝรั่งเศส” จาก LUMA เลือกได้ทั้งแบบรายเที่ยวและรายปี คุ้มครองโควิด-19 ซื้อผ่านออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย รอรับกรมธรรม์ผ่านอีเมล ราคาเริ่มต้นเพียง 55 บาท คุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาท ผ่านการยอมรับจากสถานทูตทั่วโลก คุ้มค่าแบบนี้รอช้าไม่ได้แล้ว
สถานที่น่าสนใจเพิ่มเติมในฝรั่งเศส:
- พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ – ชมผลงานศิลปะระดับโลกและประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส
- Top 5 คาเฟ่ในปารีส – พักผ่อนจิบกาแฟหลังจากเลือกซื้อน้ำหอม
- เมืองนีซ – สำรวจความงดงามของเมืองชายฝั่งที่มีเสน่ห์