5 เรื่องต้องรู้ก่อนไปลุยเที่ยว Universal Studios Singapore

แม้สิงคโปร์จะเป็นเกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของไทยแต่ความก้าวหน้าของพวกเขาติดอันดับโลกรวมถึงยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจเยอะมาก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ชอบความท้าทาย ความน่าตื่นเต้น การไปเที่ยว Universal Studios Singapore คืออีกตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด แต่ก่อนตัดสินใจวางแผนการเดินทางนี่คือ 5 เรื่องต้องรู้เอาไว้เพื่อให้ทริปนี้ของทุกคนสนุกเต็มอรรถรสยิ่งกว่าเดิม! 

  1. 1. ตั๋ว / บัตร Universal Studios Singapore 

เรื่องแรกก่อนจะไปเที่ยวยังไงก็ต้องมีตั๋ว / บัตร Universal Studios Singapore ซึ่งปกติแล้วทางสวนสนุกจะแบ่งราคาเด็กกับผู้ใหญ่ รวมถึงมีการพ่วงโปรโมชั่นที่น่าสนใจเข้ามาให้ในแต่ละช่วงเวลาด้วย หากเป็นการซื้อกับทางเว็บทางการโดยตรงราคาสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติมีดังนี้ 

  • ผู้ใหญ่ อายุ 13 ปี ขึ้นไป 82 SGD 
  • เด็กอายุระหว่าง 4-12 ปี 61 SGD 
  • เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี เข้าฟรี 

อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่วางเป้าหมายเอาไว้แล้วว่าอยากเล่นเครื่องเล่นให้ครบ หรือมีการลิสต์ประเภทเครื่องเล่นที่ห้ามพลาดเอาไว้แต่กังวลจะต้องต่อคิวกันนานก็ยังมีตัวเลือกตั๋วสุดพิเศษอย่าง Universal Express ซึ่งแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้ 

  • Universal Express 50 SGD จะใช้เป็นตั๋วช่องทางพิเศษได้เครื่องเล่นละ 1 ครั้ง (บัตรแบบระบุวัน) แต่ไม่อนุญาตให้ใช้กับ เครื่องเล่น Canopy Flyer และ Treasure Hunter รวมถึงไม่สามารถใช้สิทธิ์ชมการแสดงแถวหน้าได้ 
  • Universal Express Unlimited 80 SGD ใช้เป็นตั๋วช่องทางพิเศษกับเครื่องเล่นได้แบบไม่จำกัด (บัตรแบบระบุวัน) แต่ไม่อนุญาตให้ใช้กับ เครื่องเล่น Canopy Flyer และ Treasure Hunter รวมถึงไม่สามารถใช้สิทธิ์ชมการแสดงแถวหน้าได้ 

สามารถคลิกเข้าไปเช็กราคาเพิ่มเติมได้ หรือใครต้องการตั๋วแบบ Express Pass รวมถึงเช็กโปรโมชั่นอื่น ๆ ผ่าน Klook ก็จัดว่าสะดวก ง่ายดาย และมีโปรสุดพิเศษอีกเยอะมากทีเดียว 

2. การเดินทางไป Universal Studios Singapore 

ด้วยประเทศสิงคโปร์มีขนาดเล็ก รวมถึงรถโดยสารสาธารณะครอบคลุมทุกพื้นที่การการเดินทางไป Universal Studios Singapore จึงเป็นเรื่องง่ายมากไม่ว่าคุณพักตรงจุดไหนของเมืองก็หายห่วง ซึ่ง 2 วิธีหลักสามารถทำตามนี้ได้เลย 

  • นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วง (MRT) ลงสถานี Harbour Front (สุดสาย) จากนั้นเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้า Vivo สังเกตป้าย Sentosa Express จะพาขึ้นสู่ชั้นบนสุดของห้าง แล้วนั่งรถไฟสายSentosa Express ลงสถานี Waterfront Station ได้เลย (วิธียอดนิยมที่สุด) 
  • ใช้เส้นทางเดียวกับแบบแรกเมื่อถึงสถานี Harbour Front ให้ใช้ประตูทางออก B สังเกตป้ายเดินไปตรง HabourFront Tower ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบริการ Cable Car ข้ามสู่เกาะ Sentosa ได้เลย (เน้นการชมวิวสวย ๆ) 

นอกจากการนั่งรถไฟและการนั่งกระเช้าก็ยังสามารถใช้บริการรถบัสสาย Sentosa Express ได้ มีทั้งหมด 3 สาย แต่จะยุ่งยากนักท่องเที่ยวจึงไม่ค่อยนิยม และการเดินข้าม Sentosa Boardway ระยะทางราว 700 เมตร ชมวิวสวย ๆ ระหว่างทางได้แบบสุดชิล 

เที่ยว universal studios singapore
      1. 3. เครื่องเล่นที่ Universal Studios Singapore

      ใครที่วางแผนจะไป Universal Studios Singapore เชื่อว่าเป้าหมายหลักย่อมหนีไม่พ้นการสนุกกับเครื่องเล่นสุดมันจากโซนต่าง ๆ ที่แบ่งเอาไว้ประมาณ 7 โซนหลัก ซึ่งตรงนี้แนะนำให้วางแผนชัดเจนไปเครื่องไหนก่อน-หลัง เพราะทุกวันคนจะเยอะมากและใช้เวลาต่อคิวนานพอสมควร โดยเครื่องเล่นห้ามพลาดประกอบด้วย 

      Battlestar Galactica: HUMAN vs CYLON 

      เครื่องเล่นสุดฮิตและขึ้นชื่อชนิดใครไปเที่ยว Universal Studios Singapore ต้องไม่พลาด รถไฟเหาะ 2 ราง ไขว้สลับกันชนิดแค่เห็นก็เร้าใจ ต้องแยกกันขึ้นทีละฝั่งแถมต้องต่อคิวอยู่พักใหญ่ไม่ต่ำกว่า 30 นาที มีทั้งแบบนั่งเก้าอี้เดี่ยวล็อกตัวห้อยขาลงด้านล่างและนั่งเป็นคู่คล้ายการนั่งเก้าอี้ ตั้งอยู่ตรงโซน Sci-Fi City ทั้งนี้ไม่แนะนำสำหรับคนกลัวความสูงหรือมีโรคประจำตัว 

      TRANSFORMERS The Ride: The Ultimate 3D Battle 

      ตั้งอยู่ในโซน Sci-Fi City เช่นกัน อาจไม่ถึงขั้นหวาดเสียวหรือกรีดร้องอะไรจนสุดเสียงขนาดนั้นแต่ก็เป็นฟิลที่คุณได้สัมผัสกับการต่อสู้แบบ 3D สไตล์ทรานฟอร์เมอร์ส ซึ่งความสมจริงไม่ต้องพูดถึงได้อรรถรสและความเร้าใจแบบขั้นสุด หากใครชอบภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วแนะนำว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เด็ก ๆ ที่สูงตามเกณฑ์กำหนดถ้าไปเที่ยว Universal Studios Singapore ก็เล่นได้ 

      Revenge of the Mummy 

      ตั้งอยู่ที่โซน Ancient Egypt ทุกคนจะได้ต่อคิวลงไปชั้นใต้ดินเพื่อเล่นรถไฟเหาะอันแสนมืดมิดค้นหาสมบัติโบราณแห่งอาณาจักรอียิปต์พร้อมหนีการถูกไล่ล่าจากเหล่าผู้ไม่หวังดี ความพีคคือจะไม่มีทางรู้เลยว่ารถไฟจะออกยังทิศทางไหนเพราะรอบตัวมันช่างมืดมิดสนิท สิ่งเดียวที่สัมผัสได้มีแค่เสียงกรี๊ดของคนรอบข้าง เที่ยว Universal Studios Singapore อย่าพลาด 

      Puss In Boots’ Giant Journey 

      อยู่ในโซน Far Far Away รถไฟเหาะสุดน่าตื่นเต้นแถมเด็ก ๆ ยังเข้าเล่นได้ด้วย แต่ต้องมีความสูงตามเกณฑ์ที่กำหนด เครื่องเล่นนี้สร้างจากแรงบันดาลใจของตัวละคร Puss in Boots ในภาพยนตร์เรื่อง Shreck ได้ฟิลความตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะเด็กที่ยังกลัวอยู่อาจต้องมีผู้ปกครองคอยดูแลใกล้ชิด ที่สำคัญถ้าใครอยากเล่นต้องไปเที่ยว Universal Studios Singapore แห่งเดียวเท่านั้น 

      Canopy Flyer 

      รถไฟเหาะในโซน The Lost World ที่คุณจะได้ชมวิวสวย ๆ ไปบนที่นั่งสุดเสียว บางจุดอาจเจอใบไม้เข้ามาใกล้ชิดก็เป็นอีกความตื่นเต้นอันแสนยอดเยี่ยมมาก โซนนี้ไม่ได้หวาดเสียวมากนัก เด็กที่ไม่กลัวความสูงเล่นได้ แต่ถ้าใครไม่ใช่สายแอดเวนเจอร์ ไม่ชอบความสูง มีโรคประจำตัวก็ไม่แนะนำเหมือนเช่นเคย เป็นอีกไฮไลต์ที่ควรค่ากับการเที่ยว Universal Studios Singapore มาก 

เที่ยว universal studio singapore, 5 เรื่องต้องรู้ก่อนไปลุยเที่ยว Universal Studios Singapore

4. ร้านอาหารและของกิน Universal Studios Singapore 

ไม่ว่าจะเที่ยวที่ไหนก็ตามอาหารยังคงเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ท้องอิ่มเพื่อเติมพลัง ซึ่งใครที่กำลังคิดอยู่ว่าร้านอาหารหรือของกิน Universal Studios Singapore มีอะไรเด็ดบ้างจะขอคัดร้านที่มีความพิเศษพร้อมเมนูห้ามพลาดมาฝากกันด้วย 

  • ร้าน Mel’s Drive-In™ โซน Hollywood ร้านสไตล์ยุค 50 เน้นอาหารสไตล์อเมริกันทานง่าย เมนูฮิต เช่น Bacon Cheeseburger พร้อมเซตมันทอด ราคา16 SGD หรือถ้ามากับเด็ก ๆ ก็สั่ง Kid’s Meal Dino Nuggets with Fries ราคาแค่ 14 SGD เท่านั้น 
  • ร้าน Goldilocks โซน Far Far Away เน้นขายไก่ทอดส่วนของหวานคือไอศกรีม Ben & Jerry’s เซตยอดฮิต เช่น MAMA Bear ไก่ 2 ชิ้น และ น้ำ 1 แก้ว ราคา 16 SGD 
  • ร้าน Marty’s Casa Del Wild Food Court อยู่ในโซน Madagascar เน้นขายอาหารสไตล์อินเดียและมุสลิม เมนูยอดฮิตคือ Dry Curry Chicken Combo และ Fish Curry Combo เพิ่มน้ำดื่มด้วยอยู่ที่เซตละ 16 SGD 
  • ร้าน Discovery Food Court™ โซน The Lost World™ ต้องไม่พลาดเมนู Roasted Chicken Rice หรือข้าวไก่อบ สนนราคา 16 SGD หรือใครเป็นมังสวิรัติก็ยังมี Vegetarian Noodles ราคา 13 SGD 
  • ร้าน Oasis Spice Café™ โซน Ancient Egypt ร้านสไตล์อินเดียเช่นกัน เมนูห้ามพลาด Roasted Chicken Biryani หรือข้าวหมกไก่ย่าง 16 SGD  
  • Loui’s NY Pizza Parlor™ โซน New York ร้านพิซซ่าเริ่มต้นชิ้นละ 11 SGD  

5. ช็อปปิ้งและของฝาก Universal Studios Singapore

ปิดท้ายกับเรื่องของการช็อปปิ้งและการมองหาของฝาก Universal Studios Singapore หิ้วกลับไปเมืองไทย ซึ่งร้านหลักที่คนแวะกันเยอะสุดต้องยกให้กับ The Universal Studios Store ตั้งอยู่บริเวณโซนแรกทางเข้า-ออก (Hollywood) จัดเต็มคอลเล็กชั่นขึ้นอยู่กับธีมและช่วงเวลาที่ทางสวนสนุกคัดสรรว่าจะใช้การ์ตูนตัวไหนเป็นจุดขายหลัก เช่น ยุคของมินเนียน เจ้าตัวสีเหลืองก็จะครองร้านแทบทุกจุด มองหาของที่ระลึก เช่น พวงกุญแจ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ขนม จัดไปเลย ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่แค่ 2 SGD เท่านั้น จ่ายได้ทั้งเงินสด บัตรเครดิต บัตรเดบิต ส่วนตู้ ATM จะตั้งอยู่ด้านนอกของสวนสนุก  

สรุป 

ใครมีเวลาน้อยอยากไปเที่ยวสวนสนุกระดับโลกใกล้เมืองไทยอย่าพลาดที่ Universal Studios Singapore แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าทุกทริปของการไปเมืองนอก ประกันเดินทาง เป็นสิ่งสำคัญมาก จึงอยากแนะนำ ประกันเดินทางสิงคโปร์ ติดไว้ ราคาเริ่มต้นเพียง 199 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท ครอบคลุมติดเชื้อโควิด-19 บริการประสานงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน พร้อมสายด่วนตลอด 24 ชม. สมัครง่ายพร้อมรับกรมธรรม์ผ่านออนไลน์ สะดวกขนาดนี้ไม่ต้องคิดมากแล้ว! 

 

Table of Contents

You May Also Like

วีซ่าออสเตรเลีย
บทความ

อัปเดตการขอวีซ่าออสเตรเลียประเภทท่องเที่ยว ฉบับปี 2024

การไปเที่ยวออสเตรเลียจัดเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของหลายคน นอกจากความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมแล้ว ยังมีเรื่องน่าสนใจทั้งสัตว์ป่า ชุมชนคนไทย และอีกมากมาย ซึ่งใครวางแผนอยากสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่แบบนี้ก็จำเป็นต้องมี “วีซ่าออสเตรเลีย” ก่อนเดินทางเข้าประเทศด้วยเช่นกัน จึงขออัปเดตวิธีขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียและข้อมูลน่าสนใจฉบับปี 2024 ให้ทุกคนทำตามกันเลย ข้อมูลเบื้องต้นในการขอวีซ่าออสเตรเลียประเภทท่องเที่ยว สำหรับผู้ที่สนใจขอวีซ่าออสเตรเลียประเภทท่องเที่ยวจะถูกจัดอยู่ในหมวดของ Visitor Visa สามารถใช้ได้ทั้งจุดประสงค์การท่องเที่ยว ทำธุรกิจ เยี่ยมญาติ รวมถึงการเรียนคอร์สระยะสั้นไม่เกิน 3 …

New Health Standard คืออะไร
บทความ

New Health Standard คืออะไร

ความหมายของ New Health Standard  New Health Standard คือมาตรฐานของประกันสุขภาพแบบใหม่ ที่มีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทำไมถึงต้องเปลี่ยนเป็น New Health Standard? เพื่อสร้างมาตรฐานประกันสุขภาพแบบใหม่ให้เหมาะสมกับสังคมสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากจากเมื่อก่อน …

community rating คือ
บทความ

Community Rating คืออะไร?

Community Rating เป็นหลักการที่ใช้ในการกำหนดระดับค่าเบี้ยประกันหรือค่าบริการทางด้านการแพทย์โดยไม่คำนึงถึงประวัติการเป็นโรคหรือสภาพสุขของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มที่เข้าร่วมโปรแกรมประกันสุขภาพ เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงการรักษาและประกันสุขภาพสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้น โดยทั่วไปการเสนอราคาหรือการเสนอประกันในระบบ Community Rating จะไม่พิจารณาข้อมูลส่วนบุคคลเช่น อายุหรือประวัติการเป็นโรคของผู้เอาประกัน ทำให้ค่าเบี้ยหรือค่าบริการมีความเท่าเทียมกันหรือใกล้เคียงสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ แม้ว่าบางบุคคลอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากกว่าบางคนในกลุ่มก็ตาม หรือบางคนอาจมีอาการเรื้อรังที่ต้องการการรักษาบ่อยมากกว่าคนอื่น แต่ค่าเบี้ยหรือค่าบริการยังคงเท่าเทียมกันสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ หลักการ Community Rating มีจุดประสงค์เพื่อให้มีความยุติธรรมและเสมอภาคต่อทุกคนในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพโดยไม่สนใจสถานะสุขภาพหรือความสามารถในการจ่ายเงินของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มนั้น ๆ โดยมักจะใช้ในระบบประกันสุขภาพของประเทศหรือระบบที่เปิดให้กับสาธารณชนทั่วไปให้เข้าถึงได้ง่าย ๆ …