เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก 2567 เข้าใจง่ายทุกแผน

อัพเดทข้อมูลล่าสุด: 

สุขภาพลูกเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆของคุณพ่อคุณแม่ทุกคน แล้วด้วยโรคต่างๆที่เจอได้ทุกที่ การมีประกันสุขภาพเด็กกลายเป็นเรื่องจำเป็นมากๆ เนื่องจาก เด็กเล็กป่วยได้ง่าย และร่างกายอาจจะยังไม่แข็งแรง ต้องให้ความสำคัญมากๆ เวลาไม่สบาย หรือมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น

 

ค่ารักษา และ ค่าพยาบาลสมัยนี้ นอกจากสูงขึ้นทุกปี ยังมีบริการที่จำกัด ยังคงจำกันได้ดีตอนช่วงที่โรค โควิด – 19 ระบาดหนักๆ โรงพยาบาลเต็มทุกที่ ไม่สามารถรักษากันได้ทั่วมือ มีเงินอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอสำหรับการรักษา การระบาดที่ผ่านมา ทำให้คนไทยหลายๆ คนได้เปิดหูเปิดตา และมองเห็นถึงความสำคัญของการมีประกันสุขภาพ โดยเฉพาะประกันสุขภาพสำหรับเด็กๆ

เปรียบเทียบประกันสุขถาพเด็ก, เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก 2567 เข้าใจง่ายทุกแผน

ประกันสุขภาพเด็กเดี่ยว

ประกันสุขภาพเด็กเดี่ยวคือ ประกันที่มุ่งเน้นให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพสำหรับเด็กโดยเฉพาะ โดยไม่ต้องให้ผู้ปกครอง ทำประกันพร้อมกัน สามารถซื้อความคุ้มครองให้เฉพาะลูกได้ และจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าหมอ และการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ประโยชน์ของประกันนี้คือช่วยลดภาระทางการเงินของผู้ปกครอง ให้การรักษาที่เหมาะสมและรวดเร็วแก่เด็ก และยังสามารถเลือกแผนคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของเด็กได้อีกด้วย

สำหรับเด็กเล็ก การมีประกันสุขภาพเด็กจำเป็นมากๆ เนื่องจาก ภูมิต้านทานยังน้อย เสี่ยงที่จะไม่สบายได้ง่าย และ ในช่วงอายุยังน้อยๆ บางครั้งการรักษาต้องละเอียดอ่อนกว่าผู้ใหญ่ วันนี้ทาง LUMA ได้รวบรวมแผนประกันสุขภาพเด็กสำหรับทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคุ้มครอง ค่าเบี้ยที่ต้องชำระ หรือ นโยบายในการสมัครต่างๆ  

ประกันเด็กเดี่ยว 0-9 ขวบ

ประกันสุขภาพสำหรับเด็กอย่างเดียว โดยไม่ต้องเพิ่มคุณพ่อ หรือ คุณแม่ เข้าไปในแผน ยังพอมีให้เลือก สำหรับเด็กที่อายุ 0-9 ขวบ 

 

แต่ละบริษัทจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงความคุ้มครอง และ ราคา ที่ค่อนข้างแตกต่างกัน บางทีการซื้อประกันสำหรับเด็กอย่างเดียว ราคาอาจจะพอๆ กับ ซื้อความคุ้มครองสำหรับ เด็ก และ ผู้ปกครองในกรมธรรม์เดียวกัน 

 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ LUMA ขอแนะนำ 3 บริษัท ที่ยังสามารถซื้อประกันสุขภาพเด็กเดี่ยวได้

เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก

ประกันเด็กเดี่ยว 10 - 14 ปี

ประกันเด็กสำหรับวัย 10-14 ปีให้ความคุ้มครองและการดูแลที่หลากหลายขึ้นตามวัยที่เติบโต เด็กในช่วงอายุดังกล่าวเริ่มมีความต้องการและความเสี่ยงที่แตกต่างจากวัยเด็กเล็ก

 

ทำให้มีตัวเลือกประกันที่เหมาะสมและครอบคลุมมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็กได้มากขึ้น ราคาเบี้ยประกันก็มีแนวโน้มที่เป็นมิตรมากขึ้นตามอายุ โดยมีแผนประกันที่เน้นการคุ้มครองสุขภาพ ความปลอดภัย และอุบัติเหตุ เพื่อให้เด็กได้เติบโตอย่างมั่นใจและปลอดภัย

 

ทาง LUMA แนะนำ 4 บริษัทที่ตอบโจทย์ให้กับคุณพ่อ คุณแม่ หลายๆ ท่าน

เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก

ประกันเด็กเดี่ยว 15 - 20 ปี

ประกันสุขภาพสำหรับเด็กอายุ 15-20 ปีมีความสำคัญเนื่องจากอายุนี้ยังไม่ถือเป็นผู้ใหญ่ตามกฎหมายไทย ซึ่งต้องอายุ 21 ปีขึ้นไปถึงจะสามารถซื้อประกันเองได้ ประกันสุขภาพในวัยนี้มักเป็นการคุ้มครองจากผู้ปกครองที่ต้องการให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพ อุบัติเหตุ และโรคร้ายแรง
 

การมีประกันสุขภาพช่วยให้มั่นใจว่าเด็กจะได้รับการรักษาและการดูแลที่เหมาะสมเมื่อเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้เด็กมีสุขภาพที่ดีเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

 

วันนี้ LUMA ขอแนะนำ 6 บริษัทที่สามารถตอบโจทย์ในการหาความคุ้มมครองให้กับเด็กโต

เปรียบเทียบประกันสุขถาพเด็ก, เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก 2567 เข้าใจง่ายทุกแผน

เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก พ่วงผู้ปกครอง

ประกันสุขภาพเด็กที่พ่วงผู้ปกครองเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เนื่องจากสามารถเลือกความคุ้มครองได้หลากหลายตามความต้องการของครอบครัว บ่อยครั้งที่การซื้อประกันแบบนี้มีราคาที่เทียบเท่าหรือถูกกว่าการซื้อประกันสุขภาพเด็กแยกเดี่ยว

 

นอกจากนี้ยังมีแผนประกันให้เลือกมากขึ้น ทั้งในด้านความคุ้มครองสุขภาพทั่วไป อุบัติเหตุ และโรคร้ายแรง การมีประกันที่ครอบคลุมทั้งเด็กและผู้ปกครองช่วยให้มั่นใจว่าได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

เปรียบเทียบแผนประกันสบายกระเป๋า

หากมองค่าเบี้ยที่สบายกระเป๋า สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจ คือวงเงินในการรักษาอาจจะไม่สูงมาก โดยเฉพาะเรื่อง ค่าห้องและค่าอาหาร ที่อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการนอนโรงพยาบาล 1 คืน ณ ปัจจุบัน ต้องทำใจและพร้อมที่จะมีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน หากลูกน้อยต้องนอนแอดมิทที่โรงพยาบาล

 

วันนี้ LUMA ขอแนะนำ 4 ที่

เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก

เปรียบเทียบแผนประกันสบายใจ

แผนประกันที่มอบความคุ้มครองแบบสบายใจในยุคนี้มักเป็นแผนที่ให้ความคุ้มครองในระดับที่พอดี ไม่สูงเกินไปและไม่ต่ำจนเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความมั่นคงและการดูแลที่ครบถ้วนโดยไม่ต้องเสียค่าเบี้ยประกันมากเกินจำเป็น

 

แผนประกันเหล่านี้มักครอบคลุมด้านสุขภาพ อุบัติเหตุ และโรคร้ายแรงในแบบที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตปัจจุบัน ช่วยให้ผู้เอาประกันรู้สึกอุ่นใจว่าได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในทุกสถานการณ์ โดยยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายในระดับที่เหมาะสมและเข้าถึงได้ง่าย

 

ทาง LUMA ขอแนะนำ 5 บริษัทนี้

เปรียบเทียบประกันสุขถาพเด็ก, เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก 2567 เข้าใจง่ายทุกแผน

เปรียบเทียบแผนประกันแบบครอบคลุม

การเลือกแผนประกันที่ครอบคลุมสำหรับทุกการรักษา สามารถให้ความอุ่นใจกับคุณพ่อคุณแม่ ไม่ต้องกังวลว่าเงินจะพอค่ารักษาไหม จะมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินไหม สามารถมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ว่าหากลูกไม่สบาย จะอยู่ในมือหมอและสามารถรักษาตามอาการ โดยไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่าย

 

ทาง LUMA ขอแนะนำ 3 บริษัทนี้

เปรียบเทียบประกันสุขถาพเด็ก, เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก 2567 เข้าใจง่ายทุกแผน

เปรียบเทียบแผนประกันแบบพรีเมี่ยม

ในกรณีที่การเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับครอบครัว การเลือกแผนประกันแบบที่พรีเมี่ยม หรือ ค่าเบี้ยสูง มาพร้อมกับ วงเงินการรักษาที่สูง นอกจากจะเพียงพอสำหรับการรักษาในประเทศไทย ยังสามารถนำไปใช้ต่างประเทศ หากพบว่ามีผู้เชี่ยวชาญด้านเฉพาะที่อยากรักษา วงเงินที่สูง สามารถเปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่ได้พาลูกน้อยไปรักษาที่ต่างๆ ได้

 

เมื่อต้องการความคุ้มครองที่สูงที่สุด ทางเลือกจะมีให้เยอะหน่อย ทาง LUMA ขอแนะนำ 5 ที่

เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก

เลือกประกันสุขภาพเด็กแบบไหนดี

การเลือกประกันสุขภาพเด็ก ไม่ง่ายเลย นอกจากมีบริษัทประกันภัย และ แผน ให้เลือกเยอะแยะมากมาย ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือก และการเลือกประกันสุขภาพเด็ก ควรที่จะเลือกอย่างมั่นใจ และอยู่ต่อไปยาวๆกับบริษัทประกันภัยนั้น เนื่องจากการเปลี่ยนบริษัทบ่อยๆ ทำให้มีประวัติ และ อาจจะทำให้หาที่รับใหม่ ที่คุ้มครองครอบคลุมได้ยาก เนื่องจากทุกอย่างที่เคยเคลม หรือ ใช้สิทธิประกันมาก่อนหน้านั้น จะถือว่าเป็นโรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน อาจจะติดเป็นข้อยกเว้น และเป็นไปได้ที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง

เปรียบเทียบประกันสุขถาพเด็ก, เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก 2567 เข้าใจง่ายทุกแผน

ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่าย

ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่าย เป็นรูปแบบแผนประกันที่ออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองสุขภาพของเด็กแบบไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย หรือ ค่ารักษา และโดยส่วนใหญ่ จะไม่มีกำหนดวงเงินสำหรับโรคร้ายแรง หรือ มะเร็ง ที่สามารถใช้เงินในการรักษาค่อนข้างสูง

 

ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่าย จะตั้งวงเงินรักษาเป็นรายปี หรือ รายครั้ง ก็ได้ ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัย การรักษาจะเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ หากเป็นวงเงินรายปี รายครั้ง หรือ รายโรค คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสนใจตรงนี้ ในการเลือกแผนประกันสุขภาพให้ลูก

 

โดยปกติ แผนประกันสุขภาพเหมาจ่าย จะมีราคาค่าเบี้ยที่สูงกว่าแบบที่ระบุวงเงินรายครั้ง เนื่องจาก ประกันสุขภาพเหมาจ่าย สามารถใช้จำนวนเงินในการรักษาที่มากกว่า เช่น 5 ล้าน บาท 10 ล้าน บาท หรือ 100 ล้าน บาท แล้วแต่บริษัท และ ความต้องการของผู้เอาประกัน หรือในกรณีนี้ อาจจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ปกครอง

ประกันสุขภาพเด็กแบบแยกค่าใช้จ่าย

ประกันสุขภาพเด็กแบบแยกค่าใช้จ่าย เป็นรูปแบบของประกันที่คุ้มครองสำหรับค่ารักษาพยาบาลและบริการทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่ระบุในกรมธรรม์ แต่จะมีระบุวงเงินในการรักษา หรือ ค่าใช้จ่าย แต่ละหมวดแยกออกไปเช่น ค่าห้อง ค่าแพทย์รักษา ค่ายากลับบ้าน หรือ ค่ารักษาเนื่องจากอุบัติเหตุ และ หมวดอื่นๆ ตามที่ระบุไว้

 

การเลือกประกันสุขภาพเด็กแบบแยกค่าใช้จ่าย โดยส่วนใหญ่ ค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่าแบบเหมาจ่าย เนื่องจากวงเงินในการรักษาแต่ละครั้งมีวงเงินจำกัด เช่น 10,000 บาท หรือ 200,000 บาท เป็นตัวอย่าง

 

หากค่าใช้จ่ายในการรักษา เกินวงเงินที่ระบุในกรมธรรม์ สำหรับหมวดนั้นๆ เช่น มีระบุค่ายากลับบ้าน 5,000 บาท แต่พอถึงเวลากลับบ้านจริงๆ ค่ายากลับบ้านทั้งหมด 7,500 บาท ทางผู้เอาประกันจะต้องชำระเองส่วนเกิน 2,500 บาท 

ติดตาม ข่าวสาร และ โปรโมชั่นต่าง ๆ

เปรียบเทียบประกันสุขถาพเด็ก, เปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็ก 2567 เข้าใจง่ายทุกแผน

สรุป

LUMA เข้าใจดี ว่าการเลือกแผนประกันสุขภาพเด็กไม่ง่าย แล้วไม่ใช่การตัดสินที่จะเร่งทำ การคิดหลายๆ มุม พิจารณามุมต่างๆ เช่น โรงพยาบาลที่ครอบครัวรักษา ค่าใช้จ่ายต่อครั้งโดยประมาณอยู่ที่เท่าไร สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ว่าประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี

 

แนะนำในการพิจารณาแผนประกันสุขภาพเด็ก มีดังนี้:

แน่นอนไม่มีใครอยากให้ลูกป่วย แต่เมื่อเกิดไม่สบายขึ้นมา การมีประกันสุขภาพไว้ดูแลลูก สามารถทำให้อุ่นใจ และ เปิดโอกาสให้ลูกเราได้ถึงมือแพทย์ เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถรักษาเองได้ การเป็นคุณพ่อ หรือ คุณแม่ ไม่ได้แปลว่าจะต้องทำทุกอย่างให้ลูกได้ แต่เชื่อว่าคนที่เป็นคุณพ่อ หรือ คุณแม่ ต้องการที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกเสมอ

Last update: 

Table of Contents