ประกันสุขภาพลูกน้อยที่ไหนดี 2566 แนะนำความสบายใจให้กับพ่อแม่
ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่เท่านั้นที่มีประกันสุขภาพเพื่อความสบายใจทางการเงินเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ปัจจุบัน “ประกันสุขภาพเด็ก” ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องใส่ใจให้ดี ด้วยภูมิคุ้มกันที่ยังน้อยมักส่งผลให้เด็กเกิดอาการป่วยได้ตั้งแต่เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ไข้หวัด ไปจนถึงโรครุนแรงต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วน ซึ่งตรงนี้ย่อมมีผลต่อค่าใช้จ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วจะเลือกซื้อประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี 2566? ลองมาหาคำตอบที่จะช่วยให้พ่อแม่ทุกคนตัดสินใจง่ายขึ้นกว่าเดิม
ตอบข้อสงสัย ประกันสุขภาพเด็กสำคัญอย่างไร?
ประกันสุขภาพเด็ก คือ แผนกรมธรรม์สำหรับให้การดูแลด้านสุขภาพกับเด็กเหมือนกับประกันสุขภาพของผู้ใหญ่ทั่วไป มีการกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ในเล่มกรมธรรม์เอาไว้ชัดเจน เช่น ประเภทของโรคที่ครอบคลุมต่อการรักษา อายุของผู้ประกัน วงเงินในการรักษา เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วมักทำพ่วงแนบท้ายกับกรมธรรม์ประกันชีวิต หมายถึงเด็กคนนั้นต้องมีประกันชีวิตก่อน 1 เล่ม จึงสามารถทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้ และเป็นประกันที่ใช้การต่ออายุแบบรายปี
ความสำคัญของการมีประกันสุขภาพเด็กช่วยให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น เนื่องจากแต่ละปีจะมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายระบุไว้ชัดเจนก่อนทำการชำระเบี้ย เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อลูกน้อยเกิดการเจ็บป่วยและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยในก็ตาม หากเข้าเกณฑ์รายละเอียดที่กรมธรรม์คุ้มครองก็จะช่วยลดภาระด้านค่าใช้จ่ายลงได้เยอะมาก
ขณะที่บางบริษัทยังมีการให้เงื่อนไขหลักประกันคุ้มครองรายได้ในอนาคตหากพบโรคประจำตัวเพิ่มเติม รวมถึงประกันบางประเภทยังมีลักษณะแบบออมทรัพย์ซึ่งเป็นอีกทางเลือกในการเก็บเงินไว้ให้ลูกได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงถือเป็นความสำคัญที่พ่อแม่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี
แนะนำแนวทางในการเลือกซื้อประกันสุขภาพเด็ก
เมื่อเข้าใจถึงความสำคัญกันไปเรียบร้อยจะเห็นว่าการทำประกันสุขภาพเด็กเป็นสิ่งสำคัญมาก อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกทำประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี 2566 พ่อแม่ก็ต้องมีแนวทางประเมินเบื้องต้นเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดทั้งในเรื่องของเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายแต่ละปี รวมถึงเมื่อต้องใช้ประกันกับลูกน้อย ยังสามารถครอบคลุมอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นได้มากที่สุดแบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่มหรือจ่ายน้อยที่สุด ลองมาศึกษาเลย
ประเมินสุขภาพและความเสี่ยงของโรคที่อาจเกิดกับลูก
สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนเลือกซื้อประกันสุขภาพเด็กคือสุขภาพและความเสี่ยงของโรคที่อาจเกิดขึ้นกับลูกได้ ด้วยเด็กแต่ละคนมีสุขภาพและภูมิคุ้มกันแตกต่างกันออกไป เช่น เด็กบางคนมีโรคประจำตัวอย่างภูมิแพ้ หอบหืด ขณะที่บางคนอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ อาทิ ไข้เลือดออก โรคชิคุนกุนย่าฯลฯ การประเมินทั้ง 2 เรื่องนี้จะช่วยให้พ่อแม่เลือกประกันเด็กที่เหมาะ และครอบคลุมการรักษามากที่สุด
ตรวจสอบสวัสดิการด้านสุขภาพของที่ลูกมีอยู่
การตรวจสอบสวัสดิการเกี่ยวกับสุขภาพของลูกจะช่วยให้พ่อแม่ประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำประกันสุขภาพของเด็กลงไปได้เยอะมาก เพราะไม่จำเป็นต้องเลือกแผนที่ครอบคลุมในทุกหมวด ซึ่งส่งผลให้เบี้ยราคาสูงเช่น ลูกมีสวัสดิการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากพ่อที่เป็นข้าราชการอยู่แล้ว ก็อาจเลือกทำประกันสุขภาพ แค่เฉพาะโรคร้ายแรง หรือทำประกันเงินออมสะสมทรัพย์เก็บไว้ในอนาคตก็ได้เช่นกัน
เปรียบเทียบข้อมูลโรงพยาบาลที่คาดว่าน่าจะเข้ารับการรักษา
เรื่องนี้ก็มีผลต่อการซื้อประกันสุขภาพเช่นกัน เพราะโรงพยาบาลแต่ละแห่งมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันออกไป พ่อแม่จึงต้องเปรียบเทียบให้ชัดเจนว่าเมื่อลูกมีการเจ็บป่วยและต้องเข้ารักษาตัวอยากใช้บริการที่โรงพยาบาลใดมากที่สุด เพื่อจะได้เลือกซื้อประกันอย่างเหมาะสม และ ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันแพงเกินไป (ในกรณีค่ารักษาของโรงพยาบาลที่เลือกไม่แพง) หรือไม่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาเพิ่มเติม (กรณีค่ารักษาของโรงพยาบาลที่เลือกแพง)
ศึกษาแผนความคุ้มครองของประกันสุขภาพเด็ก
แผนประกันสุขภาพเด็กแต่ละบริษัทมีความแตกต่างกัน จึงต้องศึกษาให้ละเอียดว่าแต่ละกรมธรรม์มีความคุ้มครองเรื่องใดบ้าง ให้วงเงินเท่าไหร่ มีเงื่อนไขพิเศษอื่นใดหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่ต้องมาถกเถียงกันภายหลังหรือรู้สึกว่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปไม่คุ้มค่า
ประเมินงบที่พร้อมจ่ายกับแผนประกันที่เลือก
ก่อนตัดสินใจว่าจะซื้อประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี ลองนำข้อมูลต่าง ๆ ที่วางแผนเอาไว้ทั้งเรื่องสุขภาพของลูก ความเสี่ยงต่อการเกิดโรค สวัสดิการที่เขามี งบประมาณที่พ่อแม่พร้อมจ่ายแต่ละปี มาเทียบกับแผนประกันอย่างเหมาะสม โดยดูทั้งเรื่องรายละเอียดความคุ้มครอง วงเงินคุ้มครองแต่ละกรณี รวมถึงวงเงิน Deductible (ความรับผิดส่วนแรก) ในบางเงื่อนไข
เลือกบริษัทประกันที่มีแผนเหมาะกับลูกมากที่สุด
เมื่อพิจารณาเงื่อนไขทุกอย่างละเอียดครบถ้วนแล้วก็เลือกบริษัทประกันที่มีแผนเหมาะสมกับการดูแลลูกน้อย รวมถึงไม่หนักหนาเกินไปสำหรับพ่อแม่ในการจ่ายชำระเบี้ยแต่ละปี
ศึกษารายละเอียดและทำสัญญากรมธรรม์
หลังตัดสินใจได้เรียบร้อยว่าจะเลือกประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี ต้องเข้าใจต่อถึงสัญญาประกันแต่ละบริษัท หรือแต่ละกรมธรรม์ ซึ่งมักแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสุขภาพ โรคประจำตัว ประวัติการรักษาพยาบาล เช่น บางกรณีมีหมายเหตุไม่คุ้มครองโรคที่เคยรับรักษามาก่อนหน้า เป็นต้น ดังนั้นก่อนเซ็นสัญญาทำประกันต้องอ่านอย่างละเอียดทุกจุด
ตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์อีกครั้ง
เมื่อทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการทำหนังสือสัญญากรมธรรม์ให้กับพ่อแม่ เมื่อได้รับแล้วต้องตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งว่าตรงกับที่พูดคุยไว้หรือไม่ ตั้งแต่ชื่อ-สกุล ข้อมูลส่วนตัว เงื่อนไขเกี่ยวกับการรับประกัน และอื่น ๆ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง เวลาต้องใช้ประกัน
แนะนำโดย คุณ Aum Napat
LUMA Hi5 ประกันสุขภาพเด็ก
ใครยังไม่รู้ว่าจะเลือกทำประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี 2566 ขอแนะนำประกันสุขภาพเด็ก Luma Hi5 โดดเด่นด้วยความคุ้มค่าที่พร้อมดูแลลูกน้อยแบบครบถ้วนในทุกมิติไม่ว่าจะเป็น
- คุ้มครองสูงสุด ปีละ 5 ล้านบาท
- ค่าห้องจ่ายตามจริงห้องมาตรฐานในเครือข่าย LUMA
- กรณีรับการรักษา ICU จ่ายให้ตามจริง
- คุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมง จ่ายให้ตามจริง
- คุ้มครองการทำศัลยกรรมเพื่อแก้ไขความผิดปกติจากอุบัติเหตุ รวมถึงทันตกรรม จ่ายให้ตามจริง
- ความคุ้มครองที่ครอบคลุม คุ้มครองโรคฮิตในวัยเด็ก เช่น โรคโควิด – 19 ไข้หวัดใหญ่ โรคมือเท้าปาก และ RSV
- คุ้มครองการเกิดโรคมะเร็ง จ่ายให้ตามจริง
- สามารถขอรับความเห็นที่สองทางการแพทย์ได้ฟรี
มากไปกว่านั้นทำประกันเด็ก LUMA Hi5 ยังจ่ายเบี้ยแบบสบายกระเป๋า เพราะเลือกจ่ายแบบมี Deductible เพื่อให้ค่าเบี้ยประกันถูกลง พร้อมรับส่วนลดสูงสุดถึง 20% ตอบโจทย์ทุกครอบครัวแน่นอน
เมืองไทยประกันชีวิต โครงการ ดี คิดส์ พลัส (D Kids Plus)
เลือกประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี บริษัทต่อมาทุกคนคงคุ้นเคยชื่อเสียงกันไม่น้อย โดยโครงการนี้สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ลูกอายุ 30 วัน จนถึง 10 ขวบ คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี เหมาจ่ายในวงเงินเดียวสูงสุด 5 ล้านบาท / การรักษาตัว 1 ครั้ง เมื่อลูกโตขึ้นก็สามารถปรับเงื่อนไขใหม่ได้ตรงใจ มีความคุ้มครองเพิ่มเติม เข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล ตอบโจทย์มากหากต้องการทำประกันเด็กเพิ่มเติมจากประกันชีวิต
FWD Delight Care
คำถามสำหรับคนที่ยังลังเลใจว่าจะซื้อประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี นี่คืออีกทางเลือกที่น่าสนใจมาก จัดเต็มวงเงินคุ้มครองค่ารักษาเหมาจ่ายสูงสุด 1,250,000 บาท / ปี (คุ้มครองโควิด) สมัครได้ทันทีเมื่อลูกอายุ 1 เดือน 1 วัน ดูแลกันจนถึงอายุ 80 ปี ผลประโยชน์ค่ารักษาจากโรคมะเร็งลุกลามคุ้มครองเพิ่มเติม 1 เท่า ประหยัดเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วยการมี Deductible เข้ารับการรักษาทันทีในโรงพยาบาลเครือข่าย ไม่ต้องสำรองจ่าย สนใจทำประกันเด็กที่นี่ก็จัดว่าครอบคลุมในระดับหนึ่ง
Allianz Ayudhya Max Care
ซื้อประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี กรมธรรม์จากอลิอันซ์ อยุธยา แผนนี้จัดว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 15 วัน ให้ความคุ้มครองจากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยรวมสูงสุด 5 ล้านบาท / ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมถึงการรักษาค่าพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูงจ่ายชดเชยให้สูงสุด 80% ของค่าใช้จ่ายส่วนเกินผลประโยชน์กรณีผู้ป่วยใน สามารถรับคำแนะนำจากแพทย์ได้
ประกันสุขภาพเด็ก AIA H&S Extra
ปิดท้ายสำหรับคนที่กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี สัญญาเพิ่มเติมจาก AIA นี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ ซื้อได้ทันทีตั้งแต่อายุ 15 วัน คุ้มครองให้อายุถึง 99 ปี จ่ายผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกตามจริงสูงสุด 9,000 บาท หากไม่มีการเคลมจะได้รับประโยชน์เงินคืนพิเศษเพิ่มเติมสูงสุด 4,500 บาท แต่จำเป็นต้องมีประกันกับ AIA อยู่แล้วอย่างน้อย 1 ฉบับ
คุณพ่อคุณแม่ ที่ LUMA เลือกประกันสุขภาพให้ลูกอย่างไร?
ฉันมีลูก 2 คนค่ะ ทำประกันสุขภาพให้ลูกตั้งแต่วันที่คลอดลูกเลยค่ะ เพิ่มเป็นสมาชิกเข้าไปในแผนครอบครัวที่ถืออยู่ สำหรับฉัน เวลาเปรียบเทียบประกันสุขภาพให้ลูก จะให้ความสำคัญกับความคุ้มครอง ทั้งปีมีวงเงินให้เท่าไร เพียงพอสำหรับการรักษาต่างๆในทุกวันนี้ไหม แล้วก็ต้องดูราคาเบี้ยประกันด้วยค่ะ
Kanniga, แผนก IT
ทำประกันสุขภาพให้ลูกสาวตั้งแต่อายุ 15 วันค่ะ เพราะตอนนั้น เขากำหนดเวลา เร็วที่สุดที่สามารถทำให้เด็กแรกเกิดได้ คือ 15 วันหลังการคลอด สำหรับครอบครัวฉัน ตอนเลือกแผนประกัน เน้นไปทางผู้ป่วยในมากกว่าค่ะ เพราะเวลาต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน ค่าใช้จ่ายสูงมาก เลยเลือกแผนประกันที่คุ้มครอง IPD สูงค่ะ
Chontara, แผนก Claim
เพิ่งทำประกันให้ลูกคนที่ 2 พอครบ 15 วันหลังคลอด รีบทำเลยค่ะ พอเป็นลูกคนที่ 2 เลยเข้าใจมากขึ้นว่าความคุ้มครองที่ต้องการ ต้องครอบคลุมอะไรบ้าง ตอนที่เลือกแผนประกันสุขภาพให้ลูก ต้องมีวงเงินอย่างน้อย 3 ล้านบาทต่อปี และ ความคุ้มครองผู้ป่วยใน เน้นดูค่าห้องเป็นพิเศษ เพราะสมัยนี้ ค่าใช้จ่ายสูงมาก ชอบมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่จะต้องจ่ายตอนจะกลับบ้าน เลยเลือกแผนที่มีค่าห้องสูง หรือจ่ายตามจริงทั้งหมด ส่วนความคุ้มครองผู้ป่วยนอก ก็ดู แต่ไม่มากเพราะสำหรับเด็ก ป่วยแต่ละครั้งหนักจนต้องนอนโรงพยาบาลทุกที สำหรับฉัน ความคุ้มครอง OPD จะพิจารณาหากความคุ้มครองสำหรับการฉีดวัคซีนมันน่าสนใจ ถ้ามันไม่คุ้มครองเท่าไร ก็จะเลือกเฉพาะ IPD (ผู้ป่วยใน)
Xaynaly, แผนก Client Solutions
สรุป
ก่อนตัดสินใจเลือกว่าจะทำประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดีอย่าลืมพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าทั้งเรื่องงบที่ต้องจ่ายแต่ละปีรวมถึงความคุ้มครองครอบคลุมกับการเจ็บป่วยของลูกน้อย ย้ำว่าการมีประกันสุขภาพเด็กคือเรื่องสำคัญมากเพราะการเจ็บป่วยของลูกรอไม่ได้ หากรับการรักษาแบบทันท่วงทีแถมไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ยังไงย่อมดีกว่าต้องจ่ายเต็ม ๆ ด้วยตนเองทุกครั้งอย่างแน่นอน