ทำความรู้จักโรคความดันโลหิตสูง และ วิธีลดความดันโลหิต

ความดันโลหิตสูงหรือที่เรียกกันว่า ‘ฆาตกรเงียบ’ เพราะเป็นโรคไม่มีอาการบ่งชี้แสดงให้เห็นว่ามีความผิดปกติ แต่จริงๆ แล้วความดันโลหิตสูงคืออะไร และจะป้องกันได้อย่างไร?

ความดันโลหิตสูงเป็นภาวะที่พบบ่อยซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้หลายอย่าง รวมถึงอาการหัวใจวาย ตาบอด และโรคหลอดเลือดสมอง

ความดันโลหิตสูงเป็นภาวะที่คุณไม่สามารถรู้สึกได้ โดยปกติจะไม่มีสัญญาณเตือน คุณจึงอาจจะไม่รู้เลยว่ากำลังมีภาวะดังกล่าว ดังนั้นการตรวจวัดระดับความดันโลหิตเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มใช้ยาตัวใหม่ตั้งแต่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นได้ วิธีที่ดีที่สุดที่จะทราบว่าคุณมีภาวะความดันโลหิตสูงหรือไม่ คือการตรวจระดับความดันโลหิตโดยแพทย์ ซึ่งมักตรวจทุกครั้งเมื่อคุณไปโรงพยาบาลในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าภายในปี 2568 อาจมีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงถึง 1.56 พันล้านคน และในแต่ละปีคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากความดันโลหิตสูง 7.5 ล้านคนทั่วโลก

ความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูงคืออะไร?

การอ่านค่าความดันโลหิตกำหนดโดยตัวเลขสองตัว คือ ค่าแรงดันในหลอดเลือดแดงขณะหัวใจบีบตัว หรือความดันตัวบน (systolic) และค่าแรงดันในหลอดเลือดแดงขณะหัวใจคลายตัว หรือความดันตัวล่าง (diastolic)

ค่าความดันตัวบนซึ่งเป็นตัวเลขสูงกว่า เป็นการวัดแรงที่หัวใจสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย

ค่าความดันตัวล่าง คือการวัดความต้านทานต่อการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือด

ค่าที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 90/60mmHg และ 120/80mmHg หากค่าที่อ่านได้อยู่ที่ 140/90mmHg หรือสูงกว่า จะถือว่ามีภาวะความดันโลหิตสูง ส่วนค่าที่อยู่ระหว่างสองช่วงนี้อาจหมายถึงคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง จึงควรควบคุมความดันโลหิตไม่ให้สูงกว่านี้

อีกสิ่งหนึ่งคือ แต่ละคนมีค่าความดันโลหิตที่แตกต่างกันเล็กน้อย จึงควรทราบว่าค่าความดันปกติของตนเองอยู่ที่เท่าใด

สาเหตุของความดันโลหิตสูง?

สาเหตุของความดันโลหิตสูงหลายประการเกี่ยวข้องกับวิถีการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ลักษณะนิสัยบางอย่างที่ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพอาจทำให้ความดันโลหิตของคุณพุ่งสูงขึ้นได้ โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลักๆ ได้แก่:

  • น้ำหนัก: ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง
  • การออกกำลังกาย: ผู้ที่ออกกำลังกายน้อยมักจะมีความเสี่ยงสูง
  • การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: สารเคมีในบุหรี่สามารถทำลายเยื่อบุผนังหลอดเลือด บุหรี่จึงทำให้เกิดความดันโลหิตสูงเฉียบพลันได้ ในขณะที่แอลกอฮอล์อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ชั่วคราว ซึ่งจะกลับมาปกติเมื่อหยุดดื่มและตับขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย
  • อาหารการกิน: เกลือมากเกินไปและโพแทสเซียมน้อยเกินไปอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้
  • ความเครียด: ความเครียดในระดับสูงอาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นได้

แม้ว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเครียด แต่เราก็สามารถลดผลกระทบที่เกิดขึ้นได้

ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม ได้แก่ :

  • อายุ: ยิ่งอายุเยอะ ยิ่งเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง
  • เชื้อชาติ: ความดันโลหิตสูงมักพบมากในกลุ่มคนที่มีเชื้อชาติแอฟริกัน
  • ประวัติครอบครัว: ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ที่ไม่มีประวัติในครอบครัว
ความดันโลหิตสูง, ทำความรู้จักโรคความดันโลหิตสูง และ วิธีลดความดันโลหิต

วิธีป้องกันโรคความดันโลหิตสูง

วิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันความดันโลหิตสูงคือการมีวิถีชีวิตที่ใส่ใจสุขภาพ ควบคุมน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำและปรับเปลี่ยนการกินโดยเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดปริมาณโซเดียมและการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความเครียดเป็นสาเหตุหลักของความดันโลหิตสูง ดังนั้นพยายามผ่อนคลายและจัดการระดับความเครียดด้วยการทำสมาธิ ดนตรี และการออกกำลังกาย

การรักษาโรคความดันโลหิตสูง

หากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง แพทย์มักจะแนะนำให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและเลือกวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น รับประทานโซเดียมให้น้อยลง และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ แต่ในบางกรณี การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตยังไม่เพียงพอ คุณอาจต้องใช้ยาบางชนิด เพื่อควบคุมระดับความดันโลหิต

หากคุณได้รับยาจากแพทย์ สิ่งสำคัญคือต้องรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ และควรไปพบแพทย์อย่างน้อยปีละสองครั้ง เพื่อให้แพทย์ติดตามผลของการกินยาและตรวจสอบยาที่คุณซื้อจากร้านขายยา เนื่องจากยาบางชนิดมีผลทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นเป็นปกติหากรับประทานเป็นประจำ เช่น ยาสูดพ่นสำหรับโรคหอบหืด ยาบรรเทาอาการปวดและแปะก๊วย

ความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาสุขภาพที่มักไม่แสดงอาการ แต่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่รุนแรงได้ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพื่อให้แน่ใจว่าความดันโลหิตของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ควรหมั่นตรวจอย่างสม่ำเสมอ และตั้งเป้าที่จะมีวิถีชีวิตที่ใส่ใจสุขภาพ

เพื่อป้องกันตัวเองจากโรคความดันโลหิตสูง การมีประกันสุขภาพที่คุ้มครองครอบคลุมก็เป็นเรื่องสำคัญ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพของเราได้เลย

Table of Contents

You May Also Like

วีซ่าออสเตรเลีย
บทความ

อัปเดตการขอวีซ่าออสเตรเลียประเภทท่องเที่ยว ฉบับปี 2024

การไปเที่ยวออสเตรเลียจัดเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของหลายคน นอกจากความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมแล้ว ยังมีเรื่องน่าสนใจทั้งสัตว์ป่า ชุมชนคนไทย และอีกมากมาย ซึ่งใครวางแผนอยากสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่แบบนี้ก็จำเป็นต้องมี “วีซ่าออสเตรเลีย” ก่อนเดินทางเข้าประเทศด้วยเช่นกัน จึงขออัปเดตวิธีขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียและข้อมูลน่าสนใจฉบับปี 2024 ให้ทุกคนทำตามกันเลย ข้อมูลเบื้องต้นในการขอวีซ่าออสเตรเลียประเภทท่องเที่ยว สำหรับผู้ที่สนใจขอวีซ่าออสเตรเลียประเภทท่องเที่ยวจะถูกจัดอยู่ในหมวดของ Visitor Visa สามารถใช้ได้ทั้งจุดประสงค์การท่องเที่ยว ทำธุรกิจ เยี่ยมญาติ รวมถึงการเรียนคอร์สระยะสั้นไม่เกิน 3 …

New Health Standard คืออะไร
บทความ

New Health Standard คืออะไร

ความหมายของ New Health Standard  New Health Standard คือมาตรฐานของประกันสุขภาพแบบใหม่ ที่มีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทำไมถึงต้องเปลี่ยนเป็น New Health Standard? เพื่อสร้างมาตรฐานประกันสุขภาพแบบใหม่ให้เหมาะสมกับสังคมสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากจากเมื่อก่อน …

community rating คือ
บทความ

Community Rating คืออะไร?

Community Rating เป็นหลักการที่ใช้ในการกำหนดระดับค่าเบี้ยประกันหรือค่าบริการทางด้านการแพทย์โดยไม่คำนึงถึงประวัติการเป็นโรคหรือสภาพสุขของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มที่เข้าร่วมโปรแกรมประกันสุขภาพ เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงการรักษาและประกันสุขภาพสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้น โดยทั่วไปการเสนอราคาหรือการเสนอประกันในระบบ Community Rating จะไม่พิจารณาข้อมูลส่วนบุคคลเช่น อายุหรือประวัติการเป็นโรคของผู้เอาประกัน ทำให้ค่าเบี้ยหรือค่าบริการมีความเท่าเทียมกันหรือใกล้เคียงสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ แม้ว่าบางบุคคลอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากกว่าบางคนในกลุ่มก็ตาม หรือบางคนอาจมีอาการเรื้อรังที่ต้องการการรักษาบ่อยมากกว่าคนอื่น แต่ค่าเบี้ยหรือค่าบริการยังคงเท่าเทียมกันสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ หลักการ Community Rating มีจุดประสงค์เพื่อให้มีความยุติธรรมและเสมอภาคต่อทุกคนในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพโดยไม่สนใจสถานะสุขภาพหรือความสามารถในการจ่ายเงินของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มนั้น ๆ โดยมักจะใช้ในระบบประกันสุขภาพของประเทศหรือระบบที่เปิดให้กับสาธารณชนทั่วไปให้เข้าถึงได้ง่าย ๆ …