หลาย ๆ คนที่มีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกงนอกจากความฟินกับการได้ช้อปปิ้ง ไหว้พระ หรือเล่นสวนสนุก อีกไฮไลต์เด็ดสำหรับสายกินคือตามหาของอร่อยซึ่งมีหลายแนวให้เลือกสรร ส่วนใหญ่จะเป็นแนวอาหารจีนแต่มีการเพิ่มเติมรสชาติให้ถูกปากคนทั่วไปมากขึ้น ยิ่งใครชอบฟิลร้านริมทางบ้าน ๆ เน้นทานง่ายสไตล์ต้นตำรับ ราคาสาบกระเป๋า จะขอพาทุกคนไปตะลุย “สตรีทฟู้ดฮ่องกง” กับอาหารฮ่องกงแสนอร่อย เมนูไหนเด็ด ร้านไหนต้อแวะ อย่าพลาดเป็นอันขาด!
เปิดวันด้วยสตรีทฟู้ดฮ่องกงสบายท้องอย่าง “โจ๊กฮ่องกง” (Hong Kong Congee)
เริ่มกันด้วยเมนูง่าย ๆ ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ยิ่งตื่นเช้ามายังง่วงหนาวหาวนอนได้โจ๊กร้อน ๆ สักชามสดชื่นโดนใจ ซึ่งโจ๊กของที่นี่จัดเป็นสตรีทฟู้ดฮ่องกงที่ขึ้นชื่อมากของทั้งคนฮ่องกงและนักท่องเที่ยวเอเชีย เนื้อข้าวเนียนละเอียดจนออกไปทางเหลวจัดเต็มเครื่องเคราให้แบบเน้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมูชิ้นแผ่นใหญ่ เครื่องในหมู เนื้อปลา เนื้อวัว (สั่งเป็นเครื่องหลักตามชอบ) เห็ดหอม หรือใครจะเพิ่มไข่เยี่ยวม้าแทนไข่ลวกก็ไม่มีปัญหาอร่อยไปอีกสไตล์ รสชาติจะออกไปทางนุ่มนวลไม่เค็มมากเหมือนบ้านเราและคนที่นี่เขามักโรยงา หรือเกลือคั่วแทนการเหยาะซีอิ๊วยิ่งทานคู่ปาท่องโก๋ฟินมาก
อย่างที่บอกว่าโจ๊กฮ่องกงถือเป็นเมนูสตรีทฟู้ดยอดฮิตติดลมบนของที่นี่จึงมีร้านโจ๊กเปิดให้บริการอยู่เพียบ ตัวอย่างร้านแนะนำ เช่น ร้าน Ocean Empire หรือร้านโจ๊กม่วงที่คนไทยเรียกกันติดปาก ร้าน Hung Lee ร้านที่มีเมนูภาษาไทยให้เลือก ร้าน Sea View Congee เปิดบริการตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 35 HKD
เที่ยวฮ่องกงเน้นทานง่ายต้องลอง “ลูกชิ้นปลา” (Fish Balls)
สตรีทฟู้ดเมนูต่อมาสำหรับคนเที่ยวฮ่องกงแบบง่าย ๆ ช้อปปิ้ง ไหว้พระ เน้นทานสะดวกต้องลองเมนู “ลูกชิ้นปลา” กันเลย เป็นการนำลูกชิ้นปลามาทอดในน้ำมันร้อน ๆ ให้กรอบนอกนุ่มใน ทีเด็ดอยู่ตรงการใช้เนื้อปลาแท้แบบ 100% ผสมแป้งน้อยมากจนแทบไม่รู้สึก สัมผัสกับความเด่งฉ่ำ หนึบ ๆ เคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะที่แต่ละร้านรังสรรค์ขึ้นมามันดีงามมาก หรือใครอยากทานเป็นแนวเกาเหลาลูกชิ้นปลาตามร้านบะหมี่ ร้านก๋วยเตี๋ยวก็เลือกได้ เป็นเมนูหาทานง่ายและริมทางขนานแท้ ขนาดบางจุดมีร้านเปิดตามป้ายรถเมล์เลยทีเดียว
แต่ถ้าใครอยากเน้นเจ้าเด็ด ๆ ลูกชิ้นปลาเนื้อแน่นทำจากปลาแท้ไม่ต้องกลัวคาว ขอแนะนำร้าน Lok Yuen Fishball Noodles อีกร้านคือ Aberdeen Fish Ball King มีหลายสาขา แวะไปลองชิมเป็นสไตล์ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลากันได้เลย ราคาเริ่มต้นประมาณ 22 HKD
“บะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง” (Wonton Noodles) อาหารฮ่องกงแสนอร่อยต้องลอง
หากเอ่ยถึงอาหารฮ่องกงหรืออาหารสไตล์จีน บะหมี่ดูเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งการมาเยือนบนเกาะแห่งนี้ทั้งทียังไงก็ไม่ควรพลาด “บะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง” เป็นอันขาด โดดเด่นตั้งแต่เส้นบะหมี่ไข่แท้ ๆ นุ่มละมุน ไม่ขาดง่าย ไม่รู้สึกมีผงแป้งเลี่ยน ๆ ให้เสียอรรถรส ส่วนน้ำซุปกลมกล่อมกำลังดี หวานน้ำต้มกระดูกไม่ได้จืดชืดสนิทอย่างที่หลายคนกังวล ส่วนทีเด็ดทีขาดยังไงก็ต้องยกให้กับเกี๊ยวลูกโตไส้ข้างในอัดแน่นไปด้วยกุ้งสดฟูเต็มคำสู้ฟันสะใจเหลือเกิน บางร้านอาจมีเพิ่มลูกชิ้นปลาก็เด้งหนึบสะใจมากทีเดียว
ร้านแนะนำสำหรับเมนูนี้ต้องบอกว่ามีเยอะมากเลือกปักหมุดกันตามสะดวกเลย แต่ถ้าขึ้นชื่อหน่อยก็อย่าง ร้าน Shek Kee Wonton Noodles ร้าน Mak Man Kee Noodle Shop หรือร้าน Tsim Chai Kee Noodle เป็นแนวแฟรนไชส์มีหลายสาขาก็รสชาติดีมากทีเดียว ราคาเริ่มต้นประมาณ 35 HKD
สายเนื้อต้องลอง “บะหมี่เนื้อตุ๋น” (Beef Brisket with Noodles)
ยังคงอยู่ที่บะหมี่กันอีกสักเมนู แต่คราวนี้สาย Meat Lover ต้องแวะให้จงได้กับ “บะหมี่เนื้อตุ๋น” เรื่องเส้นบะหมี่คงไม่ต้องพูดถึงเพราะอธิบายเอาไว้หมดแล้ว ทุกร้านดังใช้บะหมี่ไข่แบบใกล้เคียงกันหมด จึงขอตัดมาที่ความอร่อยชั้นเลิศกับน้ำซุปแบบใสอันแสนกลมกล่อม ไม่มีกลิ่นคาวของเนื้อวัวให้เสียอารมณ์แต่อย่างใด ซดร้อน ๆ คล่องคอเหลือเกิน และไฮไลต์เด็ดอย่างเนื้อวัวตุ๋นส่วนใหญ่มักใช้เป็นเนื้อส่วนอก มันน้อยเนื้อแน่นตุ๋นกับเครื่องยาจีนอย่างดี นุ่มละมุนลิ้นมาก หลายคนถึงกับยกให้เป็นหนึ่งในเนื้อวัวอร่อยสุดเท่าที่เคยทานกันมาเลยทีเดียว สตรีทฟู้ดฮ่องกงต้องโดนของสายเนื้อ
สำหรับร้านแนะนำหากคุณอยากสัมผัสรสชาติของบะหมี่เนื้อตุ๋นฮ่องกงลองแวะไปที่ ร้าน Mak’s Noodle แม้จะมีเปิดในเมืองไทยแต่ยังไงลองที่ต้นตำรับก็ต้องว้าวกว่าแน่ หรืออย่างร้าน Sister Wah Beef Brisket ระดับมิชลินไกด์ก็ไม่ธรรมดาเหมือนคน คนแน่นแทบตลอดวัน ราคาเริ่มต้นประมาณ 40 HKD
ของหวานระดับโลกต้องไม่พลาด “ทาร์ตไข่” (Egg Tarts)
เปลี่ยนฟิลมากันที่อาหารฮ่องกงประเภทขนมบ้าง ทุกคนรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่ได้มีโอกาสเที่ยวฮ่องกงของฝากและของที่ต้องชิมให้ได้สักครั้งคือ “ทาร์ตไข่” ซึ่งมีต้นตำรับมาจากอังกฤษเมื่อครั้งที่เกาะแห่งนี้เคยถูกปกครองด้วยชาวผู้ดี กระทั่งคนฮ่องกงแท้ ๆ มีการปรับสูตรให้ได้รสชาติตามที่พวกเขาชอบจนออกมาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เนื้อคัสตาร์ดด้านในจะไม่เยิ้มจนเกินไป ความหวานจึงละมุนกำลังดีไม่ถึงกับหวานเลี่ยนบวกกับกลิ่นหอมและความมันของไข่ทุกอย่างลงตัวมาก ขณะที่แป้งบางสูตรทำจากแป้งคุกกี้ บางสูตรใช้แป้งพายอันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลย
ร้านทาร์ตไข่ฮ่องกงยอดฮิตชนิดที่คนต่อคิวกันยาวเหยียดต้องมีชื่อของ Tai Cheong Bakery เลือกสาขาที่สะดวกกันเลย ร้าน Honolulu Coffee Shop ก็น่าสนใจ หรือร้าน Kam Wah Cafe & Cake Shop ก็อร่อยไม่แพ้กัน ราคาเริ่มต้นประมาณ 2 HKD
“วาฟเฟิลฮ่องกง” (Egg Waffle Balls) ขนมทีเด็ดที่ท้าให้ลอง
ยังอร่อยกับสตรีทฟู้ดฮ่องกงแบบต่อเนื่อง สำหรับเมนู “วาฟเฟิลฮ่องกง” เป็นอีกทีเด็ดของสายหวานที่อยากให้ลองพิสูจน์ความอร่อยด้วยตนเอง ตัวแป้งวาฟเฟิลผสมกับไข่แล้วนำไปอบกับตัวเตาแบบเฉพาะคล้ายรังผึ้ง เมื่อสุกแล้วก็จะเพิ่มเติมไส้อย่าง แยมสตรอเบอร์รี่ ช็อกโกแลต มะพร้าว ฝอยทอง หรืออื่นใดก็ตามชอบ รสชาติแป้งจะมีความหวานกลมกล่อม ไม่หวานมาก กรอบนอกแต่เนื้อด้านในนุ่มละมุนลิ้นกำลังดี กัดไปไม่กี่ทีก็หมดแผ่นเป็นที่เรียบร้อย
ร้านวาฟเฟิลฮ่องฮงที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เช่น Lee Keung Kee North Point เลือกสาขาที่เดินทางสะดวกกันได้เลย อีกแห่งชื่อร้าน Lee Ken ร้านดังที่เปิดมายาวนานคนเคยไปเที่ยวฮ่องกงบ่อย ๆ จะคุ้นชื่อกันดี ราคาเริ่มต้นประมาณ 22 HKD
เมนูง่าย ๆ แต่แฝงด้วยอารยธรรม “ขนมปังสับปะรด” (Pineapple Bun)
ขออธิบายก่อนว่าอาหารฮ่องกงจานนี้ไม่ได้มีสับปะรดเป็นส่วนประกอบเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เหตุผลที่เรียกชื่อนี้เพราะหน้าตาผิวขนมปังภายนอกคล้ายสับปะรดเพราะเป็นส่วนผสมของแป้งคุกกี้ ขณะที่ด้านล่างก็ใช้แป้งขนมปังทั่วไป ปาดหน้าด้วยเนยด้านบนได้รสชาติความหอม มัน กลมกล่อม เนื้อนุ่มละมุนมาก ชาวฮ่องกงนิยมทานกันเป็นมื้อเช้า ยิ่งบนโต๊ะมีชาหรือกาแฟร้อน ๆ บอกเลยไม่ผิดหวัง อิ่มอร่อย และได้สัมผัสอารยธรรมอันแสนล้ำลึกมาก
ร้านขนมปังสับปะรดฮ่องกงที่มีชื่อเสียงขอแนะนำเป็น Cheung Hing Kee Shanghai Pan Fried Buns เคยได้รับรางวัลมิชลินไกด์ หรือร้าน Tai Cheong Bakery ก็รสชาติกำลังดีมากมีแพ็คเกจเป็นของฝากด้วย ราคาเริ่มต้นประมาณ 4 HKD
นอกจากเมนูสตรีทฟู้ดฮ่องกงที่แนะนำแล้วก็ยังมีอาหารฮ่องกงอีกเยอะมากที่น่าลองลิ้มชิมรส เช่น ติ่มซำ หมูแดง หมูกรอบ ห่านย่าง ใครชอบสไตล์ไหนบอกเลยไม่ผิดหวังแน่ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่อย่าลืมทุกครั้งเมื่อเดินทางไปเมืองนอกที่ใดก็ตามนั่นคือ “ประกันเดินทางต่างประเทศ” ซึ่งขอแนะนำ “ประกันเดินทางต่างประเทศ” กับราคาเบา ๆ เริ่มต้นจ่ายเพียง 199 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท ดูแลแม้ติดเชื้อโควิด-19 สมัครง่ายผ่านออนไลน์ มีบริการช่วยประสานงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน พร้อมสายด่วนตลอด 24 ชม. บินไปเที่ยวฮ่องกงรอบนี้ซื้อไว้เลย