‘จีน’ เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก โดยมีมากกว่า 1,400 ล้านคน และยังถือเป็นประเทศมหาอำนาจที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันออกของทวีปเอเชีย ซึ่งถือได้ว่าเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นจุดมุ่งหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวหลากหลายสัญชาติจากทั้งทวีปเอเชียด้วยกันรวมไปถึงทวีปอื่นๆ เช่น อเมริกา เป็นต้น เหตุผลอาจเป็นเพราะประเทศจีนมีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงามซึ่งเรียกได้ว่าไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ ปรัชญา จักวรรดิและวัฒนธรรมโบราณที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างช้านาน รวมไปถึงอาหารที่หลากหลายแต่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น
ฟรีวีซ่าจีนมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่
การลงนามฟรีวีซ่าระหว่างไทย-จีนแบบถาวรได้สำเร็จเสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยในเดือนที่แล้วและจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป และถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีการใช้นโยบายดังกล่าวนำร่องเพื่อยกเว้นวีซ่าชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวที่ถือวีซ่าจีนได้เข้าไทยมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วและจะสิ้นสุดในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ การลงนามสัญญาล่าสุดนี้ก็ยังคงสร้างความตื่นเต้นให้กับทั้งคนไทยและคนจีนได้มากอยู่ดี เพราะนี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีในแง่ของการยกระดับความสัมพันธ์และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
จีนให้ฟรีวีซ่ากับประเทศใดบ้าง
ประเทศจีนได้มีการทดลองระบบโดยยกเว้นวีซ่าแก่ 6 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน มาเลเซีย โดยมีเงื่อนไขว่าผู้เดินทางที่ต้องการมาประเทศจีนเพื่อท่องเที่ยวและทำธุรกิจไม่ต้องขอวีซ่าและอยู่อาศัยในจีนได้นานสูงสุด 15 วัน แต่การทดลองระบบนี้จะมีผลเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 1 ปีโดยจะสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
ผู้ใช้ฟรีวีซ่าจีนจะอยู่จีนได้กี่วัน
การใช้ฟรีวีซ่าจีนหลังจากวันที่ 1 มีนาคม มีเงื่อนไขที่ควรรู้ก็คือผู้เดินทางจากทั้งสองประเทศจะสามารถอยู่อาศัยที่ประเทศปลายทางได้เป็นเวลาไม่เกิน 30 วันต่อการเดินทางหนึ่งครั้ง โดยหากคนไทยท่านใดต้องการเดินทางไปจีนมากกว่า 1 ครั้งใน 180 วัน จะสามารถพักอาศัยอยู่ในประเทศจีนได้ไม่เกิน 90 วัน
คุณสมบัติของคนไทยที่ต้องการใช้ฟรีวีซ่าจีน
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศจีนเพื่อการท่องเที่ยวและเยี่ยมญาติได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 30 วัน โดยจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- เป็นผู้ถือหนังสือเดินทางไทยเล่มปัจจุบัน มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- เดินทางเข้าประเทศจีนเพื่อการท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาติ
- อยู่อาศัยในประเทศจีนไม่เกิน 30 วัน
- มีตั๋วเครื่องบินหรือตั๋วรถไฟขาออกจากประเทศจีน
- มีหลักฐานการจองที่พัก
- มีเงินสดหรือบัตรเครดิตเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายระหว่างพำนักในประเทศจีน
เอกสารที่ต้องเตรียม
- หนังสือเดินทางไทยเล่มปัจจุบัน
- ใบจองตั๋วเครื่องบินหรือตั๋วรถไฟขาออกจากประเทศจีน
- ใบจองที่พัก
- หลักฐานการมีเงินสดหรือบัตรเครดิต
สิ่งที่ควรรู้เมื่อไปเที่ยวประเทศจีนในเดือนมีนาคม
สำหรับคนไทยที่มีแผนเดินทางไปเที่ยวประเทศจีนในเดือนมีนาคมด้วยฟรีวีซ่าจีน สิ่งที่ควรรู้ก็คือในเดือนมีนาคมของประเทศจีนนั้นจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิจะเริ่มอุ่นขึ้นจากหน้าหนาว โดยจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-22 องศาเซลเซียส มีอากาศแจ่มใส แดดจ้า เหมาะแก่การท่องเที่ยว ถึงอย่างนั้นสภาพอากาศก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละภูมิภาค โดยภาคเหนือจะมีอากาศเย็นกว่าภาคกลางเล็กน้อย ส่วนภาคใต้จะมีอากาศอบอุ่นที่สุดใน 3 ภาคนี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรระวังบางอย่างที่นักท่องเที่ยวควรทราบ คือ
- ในช่วงเดือนมีนาคม ยังมีโอกาสเกิดพายุทรายในบางพื้นที่
- อากาศในตอนกลางวันอาจร้อน แต่ตอนกลางคืนอาจยังเย็น
- อากาศในบางพื้นที่อาจแห้งแล้ง
สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศจีนที่เหมาะกับฤดูใบไม้ผลิ
เนื่องจากในเดือนมีนาคมของประเทศจีนเป็นฤดูใบไม้ผลิและอากาศเย็นสบาย จึงเหมาะแก่การเดินชมวิวทิวทัศน์และดอกไม้เพราะจะเป็นช่วงที่ดอกไม้สวยที่สุด โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ ลี่เจียง (Lijiang)
ลี่เจียงเป็นเขตการปกครองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน โดยลี่เจียงมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี และเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าหน่าซี (Naxi) ที่อพยพมาจากทิเบต ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ในปี 1977 ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม นอกจากนั้นยังได้รับฉายาว่า ‘เวนิสแห่งตะวันออก’ เพราะมีคลองไหลผ่านบ้านเมืองโบราณและมีสะพานมากมาย
สำหรับจุดท่องเที่ยวสำคัญในลี่เจียงที่แรกคือเมืองโบราณต้าเหยียน (Dayan) เป็นเมืองโบราณของลี่เจียงที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเช่นเดียวกัน มีลักษณะเป็นอาคารบ้านเรือนรูปทรงจีนโบราณติดๆกันที่มีถนนแคบๆพาดผ่าน ถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติเพราะไม่มีกำแพงเมือง จึงเหมาะแก่การเดินชมวิวและซึมซับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม นอกจากนั้นก็ยังมีหมู่บ้านโบราณอื่นๆอีก เช่น หมู่บ้านซู่เหอ (Shuhe Town) และหมู่บ้านไป๋ซา (Baisha Ancient Town)
จุดท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆในลี่เจียงยังมี สระมังกรดำ (Black Dragon Pool) ภูเขาหิมะมังกรหยก (Yulongshan) และแม่น้ำทรายขาว (WhiteWater River) โดยสถานที่เหล่านี้ถือเป็นจุดท่องเที่ยวไฮไลต์ของลี่เจียงทั้งหมด มีความสำคัญทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม
สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศจีนที่สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดู
นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวของจีนที่เหมาะกับฤดูใบไม้ผลิโดยเฉพาะแล้ว จีนก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดู ซึ่งได้แก่เมืองยอดนิยมต่างๆ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู โดยแต่ละเมืองก็จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป
อย่างปักกิ่ง (Beijing) ที่เป็นเมืองหลวงของจีนและเป็นศูนย์กลางทางการเมือง การศึกษา วัฒนธรรมและการค้าที่สำคัญของจีนเอง ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น พระราชวังต้องห้าม จัตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังฤดูร้อน รวมไปถึง 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคปัจจุบันอย่างกำแพงเมืองจีน การเดินทางไปปักกิ่งเรียกได้ว่าสะดวกมากเพราะมีทั้งเครื่องบิน รถไฟ และรถประจำทางให้เลือกใช้ นับว่าเป็นเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจพร้อมประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมอันหลากหลาย
สำหรับ เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจีน ใหญ่กว่าเมืองหลวงอย่างปักกิ่ง (Beijing) และเป็นศูนย์กลางการเงินและการค้าที่สำคัญของโลก ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของจีน บนแม่น้ำแยงซี เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่ทันสมัยที่มีตึกระฟ้า สวนสาธารณะ และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากมาย หากใครอยากรู้ว่าเซี่ยงไฮ้มีจุดเช็กอินที่ไหนน่าไปบ้าง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
เมืองสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ เฉิงตู (Chengdu) เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ตั้งอยู่บนที่ราบสูงทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ่มีประชากรกว่า 14 ล้านคน รวมถึงเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นที่รู้จักกันในนาม ‘ดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์’ เนื่องจากมีสภาพอากาศที่อ่อนโยนและภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ เมืองนี้จึงเป็นศูนย์กลางการผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ และยังเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมการผลิตและเทคโนโลยีชั้นสูงอีกด้วย
เฉิงตูเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย หากใครอยากรู้ว่ามีจุดไหนในเฉิงตูที่ต้องปักหมุดไว้บ้าง สามารถอ่านเพิ่มได้ที่นี่เลย เที่ยวเฉิงตู ประเทศจีน
ราคาตั๋วเครื่องบินและระยะเวลาเดินทาง
อ้างอิงด้วยเส้นทางจากกรุงเทพมหานคร (Bangkok) สู่กรุงปักกิ่ง (Beijing) ราคาตั๋วเครื่องบินโดยเฉลี่ยในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 5,400 – 9,000 บาท และจะใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯไปถึงปักกิ่งประมาณ 4 – 5 ชั่วโมงด้วยกัน
สรุป
ประเทศจีนเป็นประเทศจุดมุ่งหมายการเดินทางที่สำคัญสำหรับคนไทยมานาน ประกอบกับการฟรีวีซ่าจีนที่กำลังจะเริ่มใช้เร็วๆนี้ก็ยิ่งทำให้คนไทยให้ความสนใจกับการเดินทางไปเที่ยวจีนมากขึ้นอีก แต่อย่าลืมว่าจะเดินทางไปเที่ยวเมืองไหนในประเทศจีน ต้องมีประกันการเดินทางจีน ติดตัวเอาไว้เพื่อความอุ่นใจ ขอแนะนำให้รู้จักกับ LUMA GO จาก LUMA ที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 199 บาท และยังสามารถเลือกซื้อแพ็คเกจให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท คุ้มครองจากเชื้อโควิด-19 บริการประสานงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน ติดต่อสายด่วนได้ตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะเดินทางไปเมืองไหนในจีนก็อุ่นใจได้เสมอ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางในประเทศจีน:
- เที่ยวปักกิ่ง: สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ปักกิ่ง
- เที่ยวเฉิงตู: แหล่งท่องเที่ยวและธรรมชาติในเฉิงตู
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง: วางแผนการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม
- เมืองยอดนิยมในจีน: สำรวจเมืองสำคัญที่คุณต้องไปเยือน