เนื้อหาบทความนี้ นำเสนอโดย Bangkok Physio Center (BPC)
อาการปวดหัวไมเกรนที่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและมักมาพร้อมกับความเจ็บปวดแสนสาหัส อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการใช้ชีวิต แม้ผู้ป่วยไมเกรนจะพยายามหาวิธีรักษาหรือบรรเทาอาการปวดบริเวณด้านหลังศีรษะอย่างต่อเนื่องนี้ แต่การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างอาการปวดหัวทั่วไปและปวดหัวไมเกรนก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน

อาการปวดหัวทั่วไปและไมเกรนแตกต่างกันอย่างไร?
อาการปวดหัวเป็นอาการป่วยที่พบได้บ่อย แต่ไมเกรนจะมีความรุนแรงและอาการที่เฉพาะเจาะจงกว่า อาการปวดหัวด้านหลังศีรษะมักมีปัจจัยที่แตกต่างออกไป อาการปวดหัวทั่วไปอาจทำให้รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่ไมเกรนจะทำให้เกิดอาการปวดตุบๆ อย่างรุนแรง โดยมักเกิดขึ้นที่ด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้เป็นก้าวแรกสู่การรักษาอาการปวดหัวไมเกรนอย่างมีประสิทธิภาพ
การรักษาอาการปวดหัวไมเกรนที่ได้ผลดีที่สุด
ไมเกรนมีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายประการ ตั้งแต่ความบกพร่องทางพันธุกรรมไปจนถึงสิ่งกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม การรักษาอาการปวดหัวไมเกรนให้ได้ผลดีที่สุดจึงต้องใช้อาศัยแนวทางที่หลากหลาย
การใช้ยารักษาไมเกรน
การบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนมักเกี่ยวข้องกับการใช้ยา โดยทั่วไปจะมีการสั่งจ่ายยากลุ่มทริปแทน ยาแก้ปวด และยาป้องกัน ยากลุ่มทริปแทน เช่น sumatriptan (ซูมาทริปแทน) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของความเจ็บปวด ยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟนและอะเซตามิโนเฟน สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ ในขณะที่ยาป้องกันมีจุดประสงค์เพื่อลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรน
ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตบางอย่างอาจช่วยจัดการกับอาการปวดไมเกรนได้เช่นกัน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารครบทุกหมู่ และดื่มน้ำ เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก รวมถึงการสังเกตว่าอะไรคือตัวกระตุ้นอาการปวดและพยายายามหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเหล่านั้น อย่างอาหารบางชนิดหรือปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ก็สามารถลดการเกิดไมเกรนได้อย่างมาก
การรักษาทางเลือก
นอกเหนือจากการรักษาแบบเดิมๆ การรักษาทางเลือก เช่น การฝังเข็มและการฝึกควบคุมร่างกาย ก็มีแนวโน้มว่าสามารถช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้เช่นกัน วิธีเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การจัดการกับปัจจัยที่ทำให้เกิดไมเกรน โดยการนำเสนอมุมมองการรักษาแบบองค์รวม
กายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการปวดศีรษะจากความเครียด
อาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึงตัวซึ่งมักมีลักษณะปวดคล้ายมีแถบรัดรอบศีรษะ ก็สร้างความกังวลให้กับผู้ป่วยได้เช่นกัน ผู้มีอาการดังกล่าวจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาอาการปวดศีรษะจากความตึงเครียดด้วยวิธีกายภาพบำบัด
กายภาพบำบัดเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวจากความเครียดเป็นอย่างไร
การทำกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการปวดศีรษะจากความตึงเครียดเป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิคการรักษาแบบหัตถการ และการให้ความรู้ นักกายภาพบำบัดจะคลายความตึงของกล้ามเนื้อ ปรับท่าทางร่างกาย และช่วยให้คอและศีรษะเคลื่อนไหวได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
เทคนิคการรักษาแบบหัตถการ
เทคนิคแบบหัตถการ เช่น การนวด การดัด ดึง ขยับเคลื่อนข้อต่อ และการนวดคลายกล้ามเนื้อ สามารถบรรเทาอาการตึงเฉพาะจุดบริเวณคอและไหล่ได้ เทคนิคเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะโดยรวมจากความเครียด
การบริหารคอสำหรับผู้มีอาการไมเกรน
การบริหารกล้ามเนื้อบริเวณคอเป็นส่วนสำคัญในการทำกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะจากความเครียด การออกกำลังกายแบบเสริมความแข็งแรงและยืดกล้ามเนื้อ จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณคอความละเอียดของกล้ามเนื้อคอ ลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดศีรษะจากความตึงเครียด
ออกกำลังกายรักษาไมเกรน
แม้ว่ากายภาพบำบัดจะช่วยเรื่องอาการปวดหัวจากความเครียด แต่การออกกำลังกายเน้นแบบส่วนต่างๆ ก็สามารถบรรเทาอาการไมเกรนได้เช่นกัน การออกกำลังกายเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อบรรเทาอาการปวดเฉพาะจุดอย่างการปวดศีรษะที่ด้านหลังศีรษะ ทำให้ผู้ป่วยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และลดผลกระทบของไมเกรนที่มีต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
การออกกำลังกายบริเวณคอ
การออกกำลังกายบริเวณคอไม่เพียงแค่บรรเทาอาการปวดศีรษะจากความเครียด แต่ยังช่วยเรื่องไมเกรนด้วย การยืดเหยียดและการเคลื่อนไหวง่ายๆ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของคอ และลดความตึงของกล้ามเนื้อที่อาจส่งผลให้เกิดไมเกรน การผสมผสานการออกกำลังกายเหล่านี้เข้ากับกิจวัตรประจำวันก็เป็นวิธีป้องกันการเกิดไมเกรนที่มีประสิทธิภาพ
การออกกำลังกายแบบแอโรบิค
การออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นประจำมีแนวโน้วว่าจะส่งผลเชิงบวกในการลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรน กิจกรรมต่างๆ เช่นการเดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือการปั่นจักรยาน ช่วยให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง สุขภาพร่างกายดียิ่งขึ้น และอาจช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้
เทคนิคโยคะและการผ่อนคลาย
เทคนิคโยคะและการผ่อนคลาย รวมถึงการหายใจลึกๆ และการทำสมาธิ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการจัดการกับไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยลดการเกิดไมเกรนได้
สรุป
ในการรักษาอาการไมเกรน การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างอาการปวดหัวทั่วไปและปวดหัวไมเกรนเป็นสิ่งสำคัญ การรักษาอาการปวดหัวไมเกรนที่ได้ผลดีที่สุดต้องอาศัยการใช้ยา การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และการรักษาทางเลือกร่วมกัน รวมทั้งกายภาพบำบัดสำหรับอาการปวดศีรษะจากความเครียด ซึ่งเน้นไปที่เทคนิคการรักษาแบบหัตถการและการออกกำลังกายเฉพาะจุด ก็ถือเป็นแนวทางที่ดีในการรักษาอาการปวดบริเวณด้านหลังศีรษะ
นอกจากนี้ รู้หรือไม่ ว่ามีประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองสำหรับการทำกายภาพบำบัด ที่สามารถช่วยแก้อาการต่างๆ รวมถึงการปวดหัวไมเกรน หากสนใจในความคุ้มครองตรงนี้ สามารถติดต่อ LUMA วันนี้ได้เลย
อ่านเพิ่มเติม:
- พิลาทิส– ประโยชน์ของการฝึกเล่นพิลาทิส