สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังทวีปยุโรปกลุ่มประเทศเชงเก้นทั้ง 26 ประเทศ สามารถเลือกขอ “วีซ่าเชงเก้น” เพื่อการพำนักอาศัยระยะสั้นไม่เกิน 90 วัน ภายใน 180 วัน ด้วยวัตถุประสงค์ด้านการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ อบรมระยะสั้น หรือติดต่อธุรกิจได้โดยไม่ต้องไล่ขอวีซ่าทีละประเทศ แต่ก็มีบางคนเมื่อทำการขอตามขั้นตอนปกติแล้วปรากฏ “วีซ่าเชงเก้นไม่ผ่าน” กลายเป็นคำถามขึ้นมาทันทีว่าแล้วต้องทำยังไงต่อ มีวิธีแก้ไขอะไรบ้าง ลองศึกษาข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเลย
Rejected Visa คืออะไร
เมื่อทำการยื่นเอกสารต่าง ๆ ผ่านตัวแทนรับยื่นวีซ่า หรือสถานทูตฯ จะต้องรอผลพิจารณาวีซ่าเชงเก้นตามระยะเวลาที่กำหนดตั้งแต่ 7 วันขึ้นไป จากนั้นสถานทูตฯ จะทำการส่งเอกสารตอบรับกลับมาว่าวีซ่าเขงเก้นของคุณผ่านหรือไม่ ในกรณีที่วีซ่าเชงเก้นไม่ผ่านตัวจดหมายจะระบุเอาไว้ชัดเจนว่า “Rejected Visa” หรือการปฏิเสธรับทำวีซ่า หมายถึง สถานทูตฯ มีการประเมินทั้งจากเอกสารและปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ แล้ว บุคคลดังกล่าวยังไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพียงพอกับการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเชงเก้น จึงยังไม่อนุมัติในการทำวีซ่านั่นเอง
เหตุผลที่วีซ่าเชงเก้นไม่ผ่าน เกิดจากอะไรได้บ้าง
สำหรับเหตุผลที่วีซ่าเชงเก้นไม่ผ่าน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยซึ่งขอสรุปให้เห็นภาพชัดเจนเพื่อจะได้จัดเตรียมทุกอย่างแบบครบถ้วน ลดความเสี่ยงการขอวีซ่าเชงเก้นแล้วเกิดปัญหาตามมาภายหลัง
- 1. เอกสารที่ยื่นไปทั้งหมดยังมีความไม่น่าเชื่อถือในบางจุด เช่น Statement รายการเดินบัญชีย้อนหลังมีเงินเก็บอยู่น้อยเกินไป มีเงินเข้าเป็นรายได้ไม่ชัดเจน มีรายจ่ายบางเดือนมากกว่ารายได้ มีเงินเข้ามายังบัญชีก้อนใหญ่ก่อนขอวีซ่าไม่กี่วัน มีรายได้ไม่สมเหตุสมผลกับเงินเก็บ ฯลฯ
- 2. ไม่มีหลักฐานการทำงานที่ชัดเจนในเมืองไทย อายุการทำงานน้อยเกินไป หนังสือรับรองการทำงานระบุข้อมูลไม่ครบถ้วน เช่น วันลางาน ระยะเวลาที่ลางาน ชื่อบริษัท ตำแหน่งภายในบริษัท รายได้ ฯลฯ รวมถึงหลักฐานการศึกษา (กรณีเป็นนักศึกษา) สถานทูตฯ อาจประเมินถึงความเสี่ยงที่จะลักลอบไปเป็นแรงงานผิดกฎหมาย และไม่สามารถเดินทางกลับได้ตามวัน-เวลาที่ระบุ จึงไม่อนุมัติวีซ่าเชงเก้น
- 3. หลักฐานด้านความสัมพันธ์ระหว่างผู้ยื่นขอวีซ่ากับสปอนเซอร์ไม่สอดคล้องกัน หรือยังขาดความน่าเชื่อถือ
- 4. การกรอกแบบฟอร์มขอวีซ่าไม่ถูกต้อง หรือมีจุดที่ระบุรายละเอียดไม่ชัดเจน เช่น ไม่ระบุวันเดินทางกลับ ลืมใส่ข้อมูลส่วนตัวบางจุด ไม่ระบุวัตถุประสงค์การเดินทางชัดเจน เป็นต้น
- 5. ไม่สามารถตอบคำถามกับเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ได้ในกรณีมีการเรียกสัมภาษณ์พูดคุยเพิ่มเติม หรือตอบไม่ตรงคำถาม ตอบคนละข้อมูลกับที่ระบุเอาไว้ในเอกสารการยื่นขอวีซ่าเชงเก้น เป็นต้น
- 6. มีการปกปิดข้อมูล หรือพยายามตั้งใจไม่บอกว่าเคยถูกปฏิเสธวีซ่าประเทศอื่น ๆ มาก่อนหน้า แม้บางคนมองว่ามันทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง แต่ก็เป็นเรื่องอดีตและเจ้าหน้าที่สถานทูตยังมองถึงความจริงใจ ไม่ปกปิด อีกมุมหนึ่งหากคุณนิ่งเฉย หรือเจ้าหน้าที่สอบถามแล้วบอกว่าไม่เคย ปรากฏมีการค้นข้อมูลแล้วพบว่าเคยถูกปฏิเสธก็มีสิทธิ์ไม่ผ่านได้เช่นกัน
วีซ่าเชงเก้นไม่ผ่านทำยังไง มีคำแนะนำมาบอก
จากเหตุผลต่าง ๆ ผู้ที่ขอวีซ่าเชงเก้นอาจรู้สึกกังวลใจหากตนเองเป็นหนึ่งในคนที่วีซ่าเขงเก้นไม่ผ่านทำยังไงดี มีวิธีแก้ไขหรือไม่ ต้องบอกแบบนี้ว่าจริงแล้วสถานทูตฯ ก็ไม่ได้ใจร้ายหรือกลั่นแกล้งโดยระบุในเอกสารว่า Rejected Visa แต่ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ตามเอกสารที่ระบุไว้ก็อาจมีความเสี่ยงที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถประเมินเป็นลักษณะดังกล่าวได้ วิธีแก้ปัญหาเมื่อจดหมายตอบกลับว่าวีซ๋าเชงเก้นไม่ผ่านทำได้ดังนี้
การยื่นอุทธรณ์วีซ่าเชงเก้น
เมื่อผู้ขอวีซ่าเชงเก้นถูกปฏิเสธวีซ่า โดนยกเลิก เพิกถอนวีซ่าใด ๆ ก็ตาม ทางสถานทูตฯ จะเปิดโอกาสให้ได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อโต้แย้งกับเหตุผลที่ระบุเอาไว้โดยกระทรวงการต่างประเทศจะเข้ามาตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง ทั้งนี้มีข้อกำหนดว่าต้องทำการยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ผลการพิจารณาวีซ่าเชงเก้นออกมา
ซึ่งขั้นตอนหลัก ๆ ต้องทำการเขียนจดหมายยื่นอุทธรณ์วีซ่า (Appeal Letter for Visa Refusal) ชี้แจงเหตุผลจากข้อมูลที่สถานทูตระบุไว้ถึงการไม่อนุมัติวีซ่า เมื่อเขียนเรียบร้อยให้แนบพร้อมเอกสารการถูกปฏิเสธวีซ่าส่งไปยังที่อยู่ของสถานทูตฯ หรือใช้การส่งผ่านอีเมลก็ได้เช่นกัน สุดท้ายรอผลการตัดสินประมาณ 30 วัน
โดยรายละเอียดที่ควรมีอยู่ในจดหมายการยื่นอุทธรณ์วีซ่าเชงเก้น ประกอบด้วย
- ชื่อ – สกุล ของผู้ยื่นวีซ่า
- หมายเลขพาสปอร์ต
- ที่อยู่ปัจจุบัน
- อีเมล
- เบอร์โทรศัพท์ติดต่อได้
- เชื้อชาติ, สัญชาติ, ประเทศ
- วัตถุประสงค์หลักของการเดินทางในครั้งนี้ (กรณีเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวแนะนำให้ระบุสถานที่ท่องเที่ยว ระยะเวลาพำนัก และ เหตุผลที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ ให้ชัดเจน)
- เหตุผลในการร้องขอเพื่อให้ทางสถานทูตพิจารณาเอกสารการยื่นวีซ่าใหม่อีกครั้ง
การยื่นขอวีซ่าเชงเก้นใหม่อีกครั้ง
อีกวิธีในการแก้ปัญหากรณีได้รับจดหมาย Rejected Visa หรือวีซ่าเชงเก้นไม่ผ่าน นั่นคือการเดินเรื่องขอวีซ่าใหม่ซึ่งขั้นตอนก็เหมือนกับการขอวีซ่าเชงเก้นปกติที่เคยทำเลย แต่ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนโดยเฉพาะรายละเอียดที่ทางสถานทูตฯ ระบุเอาไว้ถึงเหตุผลที่ยังไม่อนุมัติวีซ่า
วีซ่าเชงเก้นไม่ผ่านเลือกอุทธรณ์หรือขอใหม่ดีกว่ากัน
จากวิธีแก้ปัญหากรณีผลพิจารณาวีซ่าเชงเก้นไม่ผ่านอาจยังทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาอีกเล็กน้อย ควรเลือกวิธีไหนที่เหมาะกับสถานการณ์ของตนเองมากที่สุด ก็ต้องขอแบ่งจุดเด่นและจุดควรพิจารณาของแต่ละทางเลือกเพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม
หากคุณเลือกอุทธรณ์วีซ่าเชงเก้นจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม แค่ส่งจดหมายชี้แจง ระบุรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมเขียนเหตุผลร้องขอให้สถานทูตพิจารณาใหม่ แต่ก็ต้องใช้เวลารอไม่ต่ำกว่า 30 วัน ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่เร่งรีบเดินทาง หรือมีเวลาเหลือไม่เพียงพอในการรอพิจารณาวีซ่าเชงเก้น
ส่วนใครที่เลือกวิธียื่นขอวีซ่าใหม่จะง่ายกว่าตรงที่คุณทำตามขั้นตอนเดิมได้เลย แต่ต้องพิจารณาเหตุผลว่าสถานทูตฯ ไม่อนุมัติวีซ่าเชงเก้นเพราะอะไร แล้วก็เตรียมเอกสารใหม่ให้ครบถ้วน ใช้เวลารอคอยผลไม่เกิน 15 วัน แต่ก็จะแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายใหม่ทั้งหมดของการทำวีซ่าเชงเก้นนั่นเอง
บอกลาปัญหาวีซ่าเชงเก้นไม่ผ่านควรทำอย่างไรบ้าง
- 1. จัดเตรียมเอกสารทั้งหมดให้ครบถ้วน โดยเฉพาะข้อมูลด้านการเงิน เช่น เช็ก Statement ของตนเองย้อนหลังไป 6 เดือนว่ามีโอกาสผ่านหรือไม่ มีเงินเหลือในบัญชีเพียงพอ รายรับมากกว่ารายจ่ายในแต่ละเดือน, ให้บริษัทออกเอกสารรับรองการทำงานโดยเขียนรายละเอียดทุกอย่างครบถ้วน, บริษัทออกหนังสือรับรองเงินเดือนระบุตัวเลขชัดเจน
- 2. ซื้อประกันเดินทางเชงเก้นที่มีวงเงินคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 30,000 ยูโร หรือ 1.5 ล้านบาท
- 3. เอกสารบางอย่าง เช่น หนังสือรับรองการทำงาน หนังสือรับรองเงินเดือน ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดทั้งตัวจริงและสำเนา
- 4. เช็กรายละเอียดการกรอกแบบฟอร์มขอวีซ่าเชงเก้นให้ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นเรื่องจริงทั้งหมด หรือในกรณีที่คุณไม่แน่ใจศูนย์รับยื่นวีซ่าเองก็มีบริการดังกล่าวให้เช่นกัน
- 5. มีการเตรียมความพร้อมของตนเองในกรณีที่อาจถูกเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ เรียกตัวเพื่อสัมภาษณ์พูดคุยเพิ่มเติม
ก่อนยื่นวีซ่าเชงเก้นอย่าลืมซื้อประกันเดินทางเชงเก้นจาก LUMA
อีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนได้รับผลพิจารณาวีซ่าเชงเก้นตามที่ตนเองคาดหวังนั่นคือต้องมีประกันเดินทางต่างประเทศที่ผ่านการอนุมัติจากประเทศกลุ่มเชงเก้น จึงขอแนะนำ ประกันเชงเก้นจาก LUMA มีแผนให้เลือกความคุ้มครองได้ตามที่ต้องการ ทุกแผนที่เสนอ ครบตามความต้องการในการยื่นขอวีซ่าเชงเก้น ให้สามารถเดินทางได้อย่างไร้กังวล