สรุปวิธีขอวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยวฉบับอัปเดตปี 2024

“ออสเตรีย” หนึ่งในดินแดนตอนใต้ของแถบยุโรปกลาง ประเทศที่อัดแน่นไปด้วยสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และเรื่องราวอันน่าสนใจ นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนตัดสินใจอยากเดินทางไปเที่ยวออสเตรียสักครั้งในชีวิต แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เรื่องเงินหรือแผนท่องเที่ยวชั้นยอดเท่านั้น เพราะ “วีซ่าออสเตรีย” คืออีกใบเบิกทางสำคัญที่สามารถบอกทุกคนได้เลยว่ามีโอกาสเดินทางเข้าประเทศของเขาหรือไม่ จึงขอสรุปข้อควรต้องรู้และวิธีขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรีย ฉบับปี 2023 มาฝาก

ข้อมูลควรรู้เกี่ยวกับการขอวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยว

ในการขอวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยวจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “วีซ่าเชงเก้น” สามารถพำนักอาศัยอยู่ในประเทศกลุ่มเชงเก้น (รวมออสเตรีย) ได้ไม่เกิน 90 วัน ภายใน 180 วัน ซึ่งวิธีขอวีซ่าอออสเตรียประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่หลายคนกังวลใจ ลองทำตามคำแนะนำทั้งหมดนี้ได้เลย

คุณสมบัติเบื้องต้นเมื่อขอวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยว

ผู้ที่สนใจยื่นวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยวต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีความผิดร้ายแรง ไม่เป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศ มีสภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรงดีพร้อมสำหรับการเดินทางไกลเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เด็กอายุต่ำกว่าที่กำหนดหากจะทำวีซ่าออสเตรียต้องมีหนังสือยืนยันจากพ่อแม่แนบด้วยเสมอ

วีซ่าออสเตรีย

เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรีย

นี่ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการยื่นวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยวเพื่อให้มั่นใจว่าโอกาสทำวีซ่าผ่านเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม ซึ่งตัวเอกสารจริงแล้วก็ไม่ได้มีความยุ่งยากใด ๆ มากสามารถใช้คำแนะนำเหล่านี้เป็นแนวทางได้เลย

  1. 1. เอกสารคำร้องขอวีซ่า  กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนทั้งหมด แนบมาพร้อมกับใบ Checklist เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบความครบถ้วนง่ายขึ้น
  2. 2. หนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริงมีอายุเหลือให้ใช้งานไม่น้อยกว่า 90 วัน หลังเดินทางออกนอกประเทศกลุ่มเชงเก้น เหลือมากกว่า 6 เดือน ก่อนถึงวันเดินทางพร้อมพาสปอร์ตฉบับเก่า (ถ้ามี)
  3. 3. รูปถ่ายสีหน้าตรง พื้นหลังสีขาวหรือสีอ่อน ขนาด กว้าง 3.5 ซม. ยาว 4.5 ซม. มองเห็นศีรษะจนถึงหัวไหล่ ไม่สวมแว่นตาดำ หมวก หรืออุปกรณ์ปิดบังใบหน้ายกเว้นการใส่ตามหลักทางศาสนา
  4. 4. เอกสารยืนยันเกี่ยวกับการทำงานแบ่งตามลักษณะอาชีพของแต่ละบุคคล แปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดทั้งหมด ได้แก่
  • พนักงานบริษัท ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากองค์กรที่ตนเองสังกัดอยู่ ระบุ ชื่อ-สกุล อายุงาน ตำแหน่งงาน เงินเดือน จำนวนวันและระยะเวลาในการลาหยุดแบบชัดเจน
  • เจ้าของธุรกิจ ใช้หนังสือจดทะเบียนธุรกิจ หรือหนังสือจดทะเบียนพาณิชย์อย่างใดอย่างหนึ่ง
  • นักเรียน นักศึกษา ใช้จดหมายรับรองการเป็นนักเรียน นักศึกษา ที่ออกให้ออกโดยสถาบันที่ตนเองกำลังศึกษาในปัจจุบัน
  1. 5. ประกันเดินทางต่างประเทศ ครอบคลุมทั้งอุบ้ติเหตุและการเจ็บป่วย วงเงินไม่ต่ำกว่า 30,000 EUR หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท
  2. 6. รายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) ประเภทออมทรัพย์ย้อนหลังไม่น้อยกว่า 6 เดือน และเอกสารรับรองทางการเงินออกให้โดยธนาคารเจ้าของบัญชี
  3. 7. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน
  4. 8. เอกสารการจองโรงแรมที่พักตลอดการพำนักอาศัยตลอดทริปออสเตรีย / เชงเก้น
  5. 9. แผนการเดินทางท่องเที่ยวอย่างละเอียดตลอดทริป
  6. 10. เอกสารการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ท้ามี
  7. 11. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีสำเนาสูติบัตร พร้อมเอกสารยืนยันจากพ่อแม่ออกให้โดยอำเภอเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด กรณีเดินทางไปกับพ่อหรือแม่เพียงคนเดียว ต้องทำเอกสารรับรองจากอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน และถ้าเดินทางกับบุคลลอื่น เช่น ครู ญาติ พ่อแม่ต้องระบุความสัมพันธ์ของเด็กกับผู้เดินทางเอาไว้ในเอกสารให้ชัดเจน

ค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรีย

เมื่อจัดเตรียมเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยวเรียบร้อย อีกเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้เด็ดขาดนั่นคือการวางแผนค่าใช้จ่ายเพื่อขอวีซ่าออสเตรีย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่า ผู้ใหญ่ 80 EUR หรือประมาณ 3,040 บาท
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่า เด็กอายุ 6-12 ปี 40 EUR หรือประมาณ 1,520 บาท
  • เด็กอายุ 0-11 ปี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมวีซ่า
  • ค่าบริการศูนย์รับยื่นวีซ่า VFS Global 40 EUR หรือประมาณ 662 บาท / ท่าน

ทั้งนี้เพื่อสร้างความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการขอวีซ่าทางศูนย์รับยื่นวีซ่าฯ จึงมีบริการพิเศษเพิ่มเติมโดยคิดอัตราค่าใช้จ่ายตามที่ระบุไว้ ดังนี้

  • บริการรับคำร้องขอวีซ่าเคลื่อนที่ 43,682.24 บาท (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามจำนวนผู้ยื่นขอวีซ่า)
  • บริการห้องรับรองพิเศษ 2,200 บาท
  • บริการซิมการ์ด 535 บาท
  • บริการแปลภาษา 500 บาท
  • บริการช่วยกรอกแบบฟอร์ม 250 บาท
  • บริการถ่ายรูป 250 บาท
  • บริการส่งหนังสือเดินทางคืนผ่าน EMS แบบรับประกันความเสียหาย 350 บาท ส่งแบบ EMS ปกติ 240 บาท
  • บริการ SMS แจ้งอัปเดตข้อมูล 75 บาท
  • บริการถ่ายเอกสาร 5 บาท / แผ่น
วีซ่าออสเตรีย, สรุปวิธีขอวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยวฉบับอัปเดตปี 2024

รวมสรุปขั้นตอนวิธีขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรีย

มาถึงสิ่งที่หลายคนมีข้อสงสัยไม่แพ้กันนั่นคือขั้นตอนต่าง ๆ ในการขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรียต้องทำยังไงบ้าง ดำเนินการผ่านหน่วยงานใด มาศึกษาวิธีอย่างละเอียดเพื่อให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิมได้เลย

ขั้นตอนวิธีขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรีย

  1. 1. วิธีขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรียลำดับแรกต้องทำการนัดหมายกับทาง VFS Global กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อลงทะเบียนให้เรียบร้อย จากนั้นล็อกอินเข้าสู่ระบบอีกครั้ง เลือกวัน-เวลาที่ต้องการไปยื่นเอกสาร อย่าลืมปริ้นท์เอกสารใบนัดหมายแนบไว้เป็นหลักฐานตอนวันจริงด้วย
  2. 2. เมื่อถึงวันที่กำหนดให้เดินทางไปยังศูนย์ยื่นวีซ่าฯ ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้ทำการตรวจสอบเอกสารท้งหมด หากไม่ติดปัญหาก็ทำการชำระเงิน (รับชำระเฉพาะเงินสดเท่านั้น) ส่วนใครที่ยังไม่เคยทำวีซ่ามาก่อนจะต้องทำการตรวจอัตลักษณ์ส่วนบุคคล (สแกนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า)
  3. 3. ศูนย์รับยื่นฯ จะส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังสถานทูตออสเตรีย ทั้งนี้ทางสถานทูตอาจเรียกผู้ขอวีซ่าไปสัมภาษณ์เพิ่มเติมได้ จากนั้นทางศูนย์ฯ จะแจ้งให้ไปรับเล่มหนังสือเดินทางคืน หรือใครเลือกส่งคืนผ่าน EMS ก็รอรับที่บ้านได้เลย เป็นอันเสร็จสิ้นวิธีขอวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยว เหลือแค่รอคำตอบว่าจะขอผ่านหรือไม่

สถานที่ขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรีย

หลังจากทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีขอวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยวกันไปเรียบร้อย ในส่วนของสถานที่ยื่นวีซ่าออสเตรียจะต้องดำเนินการผ่านศูนย์รับคำร้อง VFS Global ซึ่งเป็นตัวแทนของสถานทูตออสเตรีย โดยสามารถจองคิวแล้วเดินทางไปติดต่อเพื่อดำเนินการขอวีซ่าออสเตรียได้ตามที่อยู่นี้เลย

ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า VFS ประเทศออสเตรีย

ที่อยู่: เดอะพลาซ่า ชั้น 4 ยูนิตที่ 404 – 405 อาคารจามจุรีสแควร์ ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

โทรศัพท์: 02-460-7052

วัน-เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 – 12.00 น. และ 13.00 – 16.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

เว็บไซต์: visa.vfsglobal.com/

ข้อมูลเพิ่มเติมควรรู้เกี่ยวกับการขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรีย

ใครวางแผนเตรียมเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศออสเตรียก็มีข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่ควรรู้เพื่อการวางแผนอย่างเหมาะสม สามารถตะลุยเมืองต่าง ๆ ได้แบบไร้กังวล สัมผัสความสนุกตามแบบฉบับที่ตนเองคาดหวังเอาไว้

ขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรียใช้เวลากี่วัน

ปกติแล้วหลังจากดำเนินการขอวีซ่าออสเตรียเรียบร้อยทางสถานทูตฯ จะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาประมาณ 15 วันทำการ ทั้งนี้ผู้ที่วางแผนอยากไปเที่ยวออสเตรียสามารถขอวีซ่าล่วงหน้าได้ไม่เกิน 180 วัน ซึ่งแนะนำให้ดำเนินการล่วงหน้าก่อนถึงวันเดินทางประมาณ 1 เดือน

ถือวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรียเดินทางไปที่ไหนได้บ้าง

เมื่อคุณมีวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยวอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อยก็ไม่มีอะไรให้กังวลใจ สามารถตะลุยเที่ยวออสเตรียได้ทุกจุดโดยเฉพาะเมืองยอดฮิต เช่น กรุงเวียนนา (Vienna), เมืองซาลซ์บวร์ก (Salzburg), เมืองอินส์บรุค (Innsbruck), เมืองคลาเกนเฟิร์ต (Klagenfurt), เมืองกราซ (Graz), เมืองเซนต์วูล์ฟกัง (St. Wolfgang) เป็นต้น

สรุป

นี่คือข้อมูลทั้งหมดสำหรับวิธีขอวีซ่าออสเตรียประเภทท่องเที่ยว ซึ่งใครที่อยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่สามารถทำตามขั้นตอนได้เลย อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญมากของการขอวีซ่าย่อมหนีไม่พ้น ประกันเดินทาง เพราะไม่ใช่แค่ใช้เป็นหลักฐานแต่ยังมีส่วนช่วยเหลือหากเกิดเหตุไม่คาดฝันด้วย จึงขอแนะนำ ประกันเดินทาง ออสเตรีย สร้างความสุขในทุกเส้นทางทั่วโลก จ่ายเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 385 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท ยื่นวีซ่าผ่านสุดชิล คุ้มครองโควิด-19 พร้อมบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน และอื่น ๆ สมัครง่ายรับกรมธรรม์ผ่านออนไลน์ มีติดตัวไว้อุ่นใจแน่นอน

Table of Contents

You May Also Like

New Health Standard คืออะไร
บทความ

New Health Standard คืออะไร

ความหมายของ New Health Standard  New Health Standard คือมาตรฐานของประกันสุขภาพแบบใหม่ ที่มีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทำไมถึงต้องเปลี่ยนเป็น New Health Standard? เพื่อสร้างมาตรฐานประกันสุขภาพแบบใหม่ให้เหมาะสมกับสังคมสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากจากเมื่อก่อน …

community rating คือ
บทความ

Community Rating คืออะไร?

Community Rating เป็นหลักการที่ใช้ในการกำหนดระดับค่าเบี้ยประกันหรือค่าบริการทางด้านการแพทย์โดยไม่คำนึงถึงประวัติการเป็นโรคหรือสภาพสุขของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มที่เข้าร่วมโปรแกรมประกันสุขภาพ เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงการรักษาและประกันสุขภาพสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้น โดยทั่วไปการเสนอราคาหรือการเสนอประกันในระบบ Community Rating จะไม่พิจารณาข้อมูลส่วนบุคคลเช่น อายุหรือประวัติการเป็นโรคของผู้เอาประกัน ทำให้ค่าเบี้ยหรือค่าบริการมีความเท่าเทียมกันหรือใกล้เคียงสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ แม้ว่าบางบุคคลอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากกว่าบางคนในกลุ่มก็ตาม หรือบางคนอาจมีอาการเรื้อรังที่ต้องการการรักษาบ่อยมากกว่าคนอื่น แต่ค่าเบี้ยหรือค่าบริการยังคงเท่าเทียมกันสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ หลักการ Community Rating มีจุดประสงค์เพื่อให้มีความยุติธรรมและเสมอภาคต่อทุกคนในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพโดยไม่สนใจสถานะสุขภาพหรือความสามารถในการจ่ายเงินของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มนั้น ๆ โดยมักจะใช้ในระบบประกันสุขภาพของประเทศหรือระบบที่เปิดให้กับสาธารณชนทั่วไปให้เข้าถึงได้ง่าย ๆ …

สิทธิรักษาพยาบาล
บทความ

สิทธิรักษาพยาบาล 3 ระบบของไทย

สิทธิรักษาพยาบาลในประเทศไทย คือ สิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน ที่รัฐบาลมอบให้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สิทธิรักษาพยาบาลของไทยมีอะไรบ้าง  คนไทยทุกคนมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากภาครัฐ โดยมีระบบหลัก 3 ระบบ ดังนี้ สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ สิทธิประกันสังคม สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (30 บาทรักษาทุกโรค/บัตรทอง) สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ คือ  สิทธิรักษาพยาบาลที่ข้าราชการและบุคคลในครอบครัว เช่น …