จะยื่นวีซ่าเกาหลีเพื่อไปเที่ยว ต้องทำยังไงบ้าง ฉบับปี 2024

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาคนไทยไปเที่ยวเกาหลีโดยเฉพาะผู้หญิงมักมีปัญหาไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นวิธีที่จะช่วยให้ขั้นตอนนี้ผ่านฉลุยง่ายขึ้นกว่าเดิมนั่นคือการเลือกทำ “วีซ่าเกาหลี” ในประเภทวีซ่าการท่องเที่ยว ซึ่งใครวางแผนไปเจอกับเหล่าอปป้าแต่ไม่อยากวุ่นวายกับ ตม. แถมยังช่วยการันตีโอกาสเที่ยวได้แบบไร้กังวล มาดูวิธีขอวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี ฉบับปี 2023 กันได้เลย 

วีซ่าเกาหลี

ข้อมูลทั่วไปในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี 

วีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี หรือวีซ่า C-3-9 คือ หนึ่งในประเภทของวีซ่าสำหรับคนที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวเกาหลี สำหรับคนไทยหากยื่นขอวีซ่าเกาหลีประเภทนี้จะสามารถท่องเที่ยวและพำนักอาศัยได้ไม่เกิน 90 วัน อย่างไรก็ตามการขอวีซ่าท่องเที่ยวของเกาหลีจะถูกกำหนดไว้ว่า หากประเทศที่สมัคร K-ETA ได้ ทางสถานทูตฯ รับสมัครวีซ่าผู้ที่ไม่ผ่านการอนุมัติ K-ETA เท่านั้น (สามารถสมัครวีซ่าได้ตั้งแต่ผลปฏิเสธ K-ETA ครั้งที่ 1) ลองมาศึกษากันเลยว่าวิธีขอวีซ่าเกาหลีต้องทำยังไงบ้าง 

คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการขอวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี

สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ที่ต้องการทำวีซ่าเกาหลีต้องมีอาชีพหน้าที่การงานของตนเองชัดเจน (มีเอกสารยืนยันการทำงานจากบริษัท หรือกรณีเป็นเจ้าของธุรกิจต้องมีหนังสือรับรองบริษัทที่มีชื่อของตนเอง) ไม่เป็นผู้ที่มีประวัติทางอาชญากรรม หรือเป็นบุคคลถูกสั่งห้ามออกนอกประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานของการยื่นวีซ่าเกาหลีให้ผ่านง่ายขึ้นกว่าเดิม

เที่ยวเกาหลี

เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี มีอะไรบ้าง

มาถึงเรื่องสำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการขอวีซ่าเกาหลีนั่นคือการเตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมก่อนยื่นวีซ่าเกาหลี เพื่อโอกาสผ่านง่ายขึ้นกว่าเดิมและไม่ต้องเสียเวลายื่นใหม่หลายรอบ ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ประกอบไปด้วย

1. แบบฟอร์มกรอกรายละเอียดการขอวีซ่า ติดรูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว 1 รูป (รูปถ่ายต้องเป็นพื้นหลังสีขาว อายุไม่เกิน 6 เดือน)

2. พาสปอร์ตตัวจริง และสำเนาพาสปอร์ต 1 ฉบับ

3. ประวัติหนังสือเดินทาง (สามารถขอเอกสารได้ที่กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ)

4. หลักฐานการปฏิเสธ K-ETA เฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับอนุมัติ (K-ETA คือ ระบบลงทะเบียนขออนุญาตเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาเกาหลีแบบไม่ต้องใช้วีซ่า)

5. หนังสือรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ ระบุตำแหน่งและเงินเดือน (กรณีเป็นเจ้าของธุรกิจให้แนบเป็นหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท ฉบับภาษาอังกฤษ และได้รับการรับรองจากกรมการกงสุล)

ทั้งนี้หากใครไม่มีหนังสือรับรองการทำงาน หรือไม่มีหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท ต้องเขียน Explanation Letter เพื่ออธิบายลักษณะงานหรือธุรกิจของตนเอง แหล่งที่มารายได้ (ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ) ลงวันที่และลายมือชื่อ

6. รายการเดินบัญชีออมทรัพย์ส่วนบุคคล (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด โดยนับจากวันที่สมัครไม่เกิน 2 สัปดาห์

7. เอกสารหลักฐานการจองโรงแรมที่พักระหว่างอยู่ในประเทศเกาหลี

8. แผนการท่องเที่ยว กำหนดการต่าง ๆ ในแต่ละวัน (ฉบับภาษาอังกฤษ)

9. หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินเดินทางไป-กลับ หรือเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น

10. ค่าธรรมเนียม (เงินบาทเท่านั้น)

ติดตาม ข่าวสาร และ โปรโมชั่นต่างๆ

วีซ่าเกาหลี, จะยื่นวีซ่าเกาหลีเพื่อไปเที่ยว ต้องทำยังไงบ้าง ฉบับปี 2024
ขอวีซ่าเกาหลี

ค่าธรรมเนียมของวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี เป็นอย่างไร 

หลังจากเตรียมเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าเกาหลีทุกอย่างครบถ้วนแล้วอีกเรื่องที่ควรรู้นั่นคือค่าธรรมเนียมวีซ่าสถานทูตสำหรับคนที่ทำวีซ่าเกาหลีจะอยู่ที่คนละ 1,020 บาท (ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของทางสถานทูต 

ขั้นตอนการสมัครวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี ทำตามได้เลย 

เมื่อเอกสารทุกอย่างครบถ้วนบวกด้วยค่าธรรมเนียมพร้อมสำหรับการยื่นวีซ่าเกาหลี คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการสมัครวีซ่าแบบละเอียดรวมถึงสถานที่ดำเนินการ ศึกษากันต่อเลยว่าต้องทำยังไงกันบ้าง 

ขั้นตอนอย่างละเอียดสำหรับขอวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี 

  1. 1.วิธีขอวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลีขั้นตอนแรกให้นำเอกสารทั้งหมดที่เตรียมไว้ไปยื่นกับทางสถานทูตเกาหลีระหว่างเวลา 08.30 – 11.00 . (ไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า

ปล.กรณีส่งผู้แทนไปยื่นขอวีซ่าต้องมีใบมอบอำนาจตามแบบฟอร์มที่ทางสถานทูตฯ กำหนด พร้อมสำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาพาสปอร์ตของผู้รับมอบอำนาจ 

  1. 2.เมื่อไปถึงให้กดคิวเบอร์ 0 สำหรับวีซ่าท่องเที่ยว
  2. 3.พอถึงคิวของตนเองให้ทำการยื่นเอกสารทุกอย่างให้ครบทั้งหมด ทางสถานทูตฯ จะตรวจสอบความเรียบร้อยของเอกสารจากนั้นจึงชำระค่าธรรมเนียม เป็นอันเสร็จวิธีขอวีซ่าเกาหลี โดยผู้สมัครต้องทำการรอผลพิจารณาต่อไป
  3. 4.กรณีต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม (ได้รับการติดต่อจากทางสถานทูตฯ) สามารถเข้ามายื่นได้ระหว่างเวลา 13.30 – 15.00 . โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า เมื่อมาถึงให้กดคิวเบอร์ 1 แล้วรอเรียกได้เลย ทั้งนี้สามารถให้ผู้อื่นมายื่นเอกสารเพิ่มเติมแทนได้แต่ต้องนำใบรับผลวีซ่าตัวจริงมายืนยันด้วย
  4. 5.หากวีซ่าของคุณผ่านการอนุมัติต้องเดินทางมารับผลด้วยตนเอง ซึ่งทางสถานทูตฯ จะคืนเล่มหนังสือเดินทางให้ระหว่างเวลา 13.30 – 15.00 . (ยกเว้นวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

สถานที่ในการไปขอวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี 

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีขอวีซ่าเกาหลีไปเรียบร้อย อีกสิ่งที่ควรต้องรู้นั่นคือสถานที่สำหรับยื่นวีซ่าเกาหลี ปัจจุบันในประเทศไทยสามารถทำได้แค่ที่เดียวนั่นคือสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย 

ที่อยู่: 23 ถนน เทียมร่วมมิตร รัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310  

ทั้งนี้ในกรณีต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำวีซ่าเกาหลี ทางสถานทูตฯ จะมีช่องทางติดต่อวิธีเดียวนั่นคือ ส่งข้อมูลผ่านอีเมล [email protected] ไม่มีการติดต่อสอบถามผ่านเบอร์โทรศัพท์ใด ๆ ทั้งสิ้น 

วีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี

ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี 

จากข้อมูลต่าง ๆ ในการยื่นวีซ่าเกาหลีจริงแล้วไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก (ไม่ต่างกับการยื่นวีซ่าเข้าประเทศอื่น) ทั้งนี้หากใครยังกังวลใจอยู่ก็อยากแนะนำให้ซื้อประกันเดินทางต่างประเทศเอาไว้ด้วยเพื่อเป็นอีกข้อยืนยันการเข้าประเทศเกาหลีมีจุดประสงค์เพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น และเหนือสิ่งอื่นใดยังมีข้อควรรู้บางอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลีด้วย 

ระยะเวลาในการขอวีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี 

สำหรับคนที่ต้องการไปเที่ยวเกาหลี เมื่อทำการยื่นวีซ่าเกาหลีเรียบร้อยแล้ว ต้องรอผลจากทางสถานทูตฯ 4 สัปดาห์ (เวลาทำการ) หากวีซ่าถูกปฏิเสธจะไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ และถ้าหากสมัครทำวีซ่าเกาหลีใหม่อีกครั้งต้องทิ้งระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน นับตั้งแต่วันประกาศผล 

วีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี จะเดินทางไปพื้นที่ไหนได้บ้าง 

เมื่อวีซ่าเกาหลีของคุณได้รับการอนุมัติเป็นที่เรียบร้อย ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวเกาหลีได้ทุกพื้นที่ตามความต้องการของตนเองไม่ว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ อย่าง กรุงโซล เมืองหลวงของประเทศโดดเด่นในด้านความทันสมัย เทคโนโลยี ความสะดวกสบาย เกาะเชจู เกาะตอนใต้ของประเทศ ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่น้ำทะเลสวยสุดในเกาหลี เมืองปูซาน เมืองท่าทางตอนใต้ที่มักมีเทศกาลพิเศษจัดขึ้นตลอด เมืองอินชอน ประตูสู่เกาหลียุคใหม่ ศูนย์กลางด้านการคมนาคม เป็นต้น 

K-ETA กับวีซ่าเกาหลี แตกต่างกันอย่างไร 

เพิ่มเติมข้อมูลเพื่อให้ทุกคนทำความเข้าใจถึงความแตกต่างกันระหว่างระบบ K-ETA กับการขอวีซ่าเกาหลีเพื่อเดินทางเข้าประเทศไปท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ และทำตามขั้นตอนทีละสเต็ปอย่างถูกต้องด้วย 

K-ETA 

ระบบ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) คือ ระบบการลงทะเบียนของชาวต่างชาติเพื่อขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศเกาหลีแบบไม่ต้องขอวีซ่า โดยต้องทำตามขั้นตอนที่ระบุเอาไว้ กระทั่งได้รับการอนุมัติยืนยันตรวจสอบผ่านเท่านั้นจึงจะสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินและเข้าไปเที่ยวเกาหลีได้ (พำนักอาศัยไม่เกิน 90 วัน) มีค่าธรรมเนียม 10,000 KRW (ประมาณ 280 บาท ไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่น ๆ) ซึ่งความแตกต่างจากวีซ่าเกาหลีนั่นคือ ทางวีซ่าจะรับทำเฉพาะคนที่ไม่ได้รับอนุมัติจากระบบ K-ETA เท่านั้น แต่จุดประสงค์ยังเป็นแบบเดียวกันเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย 

เที่ยวเกาหลี

สรุป 

นี่คือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับวิธีขอวีซ่าเกาหลีฉบับปี 2023 ย้ำว่าคนที่จะไปเที่ยวเกาหลีหากไม่ผ่านการอนุมัติขอเข้าประเทศจากระบบ K-ETA ต้องทำการขอวีซ่าตามขั้นตอนที่ระบุเอาไว้เลย และเมื่อขอวีซ่าผ่านเรียบร้อย เตรียมพร้อมสำหรับการตะลุยดินแดนกิมจิอีกสิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดนั่นคือ การซื้อ ประกันเดินทางไปเกาหลี เพื่อความอุ่นใจทางการเงินหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ซึ่งขอแนะนำประกันเดินทางจาก LUMA แค่เลือกประเทศที่จะเดินทางก็มีแผนประกันที่เหมาะสมระบุเอาไว้ให้ครบถ้วน ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ภายในไม่กี่นาที มีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ทริปหาอปป้าคราวนี้ฟินยิ่งกว่าเดิม 

Table of Contents

You May Also Like

New Health Standard คืออะไร
บทความ

New Health Standard คืออะไร

ความหมายของ New Health Standard  New Health Standard คือมาตรฐานของประกันสุขภาพแบบใหม่ ที่มีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทำไมถึงต้องเปลี่ยนเป็น New Health Standard? เพื่อสร้างมาตรฐานประกันสุขภาพแบบใหม่ให้เหมาะสมกับสังคมสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากจากเมื่อก่อน …

community rating คือ
บทความ

Community Rating คืออะไร?

Community Rating เป็นหลักการที่ใช้ในการกำหนดระดับค่าเบี้ยประกันหรือค่าบริการทางด้านการแพทย์โดยไม่คำนึงถึงประวัติการเป็นโรคหรือสภาพสุขของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มที่เข้าร่วมโปรแกรมประกันสุขภาพ เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงการรักษาและประกันสุขภาพสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้น โดยทั่วไปการเสนอราคาหรือการเสนอประกันในระบบ Community Rating จะไม่พิจารณาข้อมูลส่วนบุคคลเช่น อายุหรือประวัติการเป็นโรคของผู้เอาประกัน ทำให้ค่าเบี้ยหรือค่าบริการมีความเท่าเทียมกันหรือใกล้เคียงสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ แม้ว่าบางบุคคลอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากกว่าบางคนในกลุ่มก็ตาม หรือบางคนอาจมีอาการเรื้อรังที่ต้องการการรักษาบ่อยมากกว่าคนอื่น แต่ค่าเบี้ยหรือค่าบริการยังคงเท่าเทียมกันสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ หลักการ Community Rating มีจุดประสงค์เพื่อให้มีความยุติธรรมและเสมอภาคต่อทุกคนในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพโดยไม่สนใจสถานะสุขภาพหรือความสามารถในการจ่ายเงินของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มนั้น ๆ โดยมักจะใช้ในระบบประกันสุขภาพของประเทศหรือระบบที่เปิดให้กับสาธารณชนทั่วไปให้เข้าถึงได้ง่าย ๆ …

สิทธิรักษาพยาบาล
บทความ

สิทธิรักษาพยาบาล 3 ระบบของไทย

สิทธิรักษาพยาบาลในประเทศไทย คือ สิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน ที่รัฐบาลมอบให้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สิทธิรักษาพยาบาลของไทยมีอะไรบ้าง  คนไทยทุกคนมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากภาครัฐ โดยมีระบบหลัก 3 ระบบ ดังนี้ สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ สิทธิประกันสังคม สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (30 บาทรักษาทุกโรค/บัตรทอง) สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ คือ  สิทธิรักษาพยาบาลที่ข้าราชการและบุคคลในครอบครัว เช่น …