หลายคนมักจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ และ ประกันชีวิต มาบ้าง แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ถึงความแตกต่างของประกันทั้ง 2 ประเภทนี้ หรือพูดง่าย ๆ คือเข้าใจว่าเป็นสิ่งเดียวกัน เพื่อสร้างความกระจ่างและป้องกันการเข้าใจผิด สำหรับใครที่กำลังพิจารณาเลือกซื้อประกันสุขภาพ Luma ขออาสาชี้แจงข้อเท็จจริงและชวนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
ชี้แจงแถลงไข! ประกันสุขภาพกับประกันชีวิตต่างกันอย่างไร
ประกันสุขภาพ | ประกันชีวิต |
ได้รับผลประโยชน์เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ | ได้รับผลประโยชน์เมื่อเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพด้วยโรคหรืออุบัติเหตุ หรืออยู่ครบสัญญาประกัน |
ระยะเวลาเอาประกัน 1 ปี | ระยะเวลาเอาประกันมากกว่า 1 ปี หรือตลอดชีพ |
จ่ายเงินเป็นค่ารักษาพยาบาลหรือเงินชดเชยรายได้เมื่อเข้าโรงพยาบาล | ได้รับเงินก้อนคืนเมื่อครบกำหนดสัญญาตามเงื่อนไข |
ลดหย่อนภาษีได้ | ลดหย่อนภาษีได้ |
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาล | เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมีเงินก้อนให้ครอบครัว |
เผยความหมายของประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพ คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับสุขภาพ โดยประกันสุขภาพจะมอบผลประโยชน์และความคุ้มครองในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมไปถึงอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมไปถึงการเจ็บป่วยแบบที่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเช่นกัน ซึ่งเงื่อนไขความคุ้มครองก็จะขึ้นอยู่กับแผนประกันสุขภาพที่เลือกซื้อ โดยผู้ที่สนใจสามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับประกันสุขภาพฉบับเต็มได้บทความ ประกันสุขภาพ คืออะไร
ประกันชีวิตคืออะไร ดูความหมายได้ที่นี่
ประกันชีวิต คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับชีวิต โดยประกันชีวิตจะมอบผลประโยชน์ให้แก่ผู้เอาประกันเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ นอกจากนี้ประกันชีวิตยังเป็นหนึ่งในวิธีการวางแผนด้านการเงิน สร้างวินัยในการออมเงิน เพราะหากผู้เอาประกันอยู่ครบสัญญาประกันชีวิตก็จะสามารถได้รับเงินผลประโยชน์คืนอีกด้วย อย่างไรก็ตามประกันชีวิตยังมีส่วนของสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพเพื่อเพิ่มความคุ้มครองเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งส่วนนี้อาจเป็นส่วนที่ทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดว่าประกันชีวิตและประกันสุขภาพคือประกันชนิดเดียวกันก็เป็นได้
ประกันสุขภาพมีกี่ประเภท
ประกันสุขภาพสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1. ประกันสุขภาพส่วนบุคคล
ประกันสุขภาพที่มอบความคุ้มครองให้แก่บุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเลือกแผนประกันสุขภาพได้ตามความต้องการและงบประมาณที่เหมาะสมกับตนเองได้
2. ประกันสุขภาพแบบกลุ่ม
ประกันสุขภาพที่มอบความคุ้มครองให้แก่ผู้เอาประกันเป็นกลุ่ม โดยส่วนใหญ่จะเป็นการที่บริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ ซื้อประกันสุขภาพเหล่านี้เอาไว้เพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ภายในองค์กร ซึ่งความคุ้มครองที่มากน้อยจะขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทที่ซื้อประกันภัย และมีเบี้ยประกันภัยที่ต่ำกว่าประกันสุขภาพส่วนบุคคล
ประกันชีวิตมีกี่ประเภท
ประกันชีวิตแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
ประกันชีวิตประเภทชั่วระยะเวลาหรือ Term Life Insurance จะเป็นการให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี หากครบกำหนดสัญญาแล้วผู้เอาประกันยังมีชีวิตอยู่จะไม่ได้เงินชดเชย ซึ่งประกันชีวิตประเภทนี้จะมีเบี้ยประกันชีวิตค่อนข้างถูก
2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
ประกันชีวิตประเภทตลอดชีพหรือ Whole Life Insurance ประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับชีวิตตลอดชีพ หรืออายุ 90 – 99 ปี แต่ผู้เอาประกันจ่ายค่าเบี้ยประกันเพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เช่น 5 – 20 ปี เป็นต้น โดยผู้เอาประกันจะได้รับผลประโยชน์ในกรณีที่เสียชีวิตระหว่างการประกันชีวิต หรือมีอายุอยู่จนครบสัญญา ประกันชีวิตแบบตลอดชีพมักจะนำมาเป็นแผนประกันหลักที่สามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมหรือความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติมได้เช่นกัน
3. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
Endowment Insurance หรือประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์เป็นแผนประกันที่จ่ายผลประโยชน์ให้แก่ผู้เอาประกันเมื่อมีชีวิตอยู่ครบสัญญา ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการเก็บออมเงินในระยะยาว เพราะเป็นการสร้างวินัยในการออมเงินและยังได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารทั่วไป
4. ประกันชีวิตแบบบำนาญ
ประกันชีวิตประเภทบำนาญหรือที่เรียกว่า Annuities Insurance เป็นประกันชีวิตแบบที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีรายได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อเกษียณอายุจากการทำงานแล้ว โดยผู้เอาประกันจะต้องส่งเบี้ยประกันอย่างต่อเนื่องทุกเดือนหรือทุกปีและจะเริ่มได้รับผลประโยชน์คืนเมื่ออายุ 55-60 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและแผนประกันชีวิตที่เลือก
สรุป
เชื่อว่าหลายคนคงจะเข้าใจความแตกต่างระหว่างประกันชีวิตและประกันสุขภาพ หลังจากได้ทำความรู้จักประกันแต่ละประเภทกันไปแล้ว ซึ่งประกันชีวิตก็จะเน้นให้ความคุ้มครองในส่วนของการสูญเสียชีวิตและการวางแผนทางการเงิน ส่วนประกันสุขภาพก็จะมุ่งไปที่ผลประโยชน์ทางด้านสุขภาพ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระยามเจ็บป่วยนั่นเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นการซื้อประกันประเภทไหนผู้เอาประกันควรศึกษารายละเอียด เงื่อนไขการประกัน และผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้ดีและเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของผู้เอาประกัน
อ่านเพิ่มเติม:
- ประกันสุขภาพคืออะไร – ทำความเข้าใจประกันสุขภาพให้มากยิ่งขึ้น
- ประกันสุขภาพมีกี่แบบ – เลือกประกันสุขภาพแบบไหนให้ตอบโจทย์มากที่สุด