ต่อราคายังไง เมื่อไปช้อปปิ้งที่ประเทศจอร์เจีย

จอร์เจียอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยอย่างพวกเรานั้นสามารถเดินทางได้อย่างง่ายดายและได้รับความนิยมมากในตอนนี้ เพราะไม่ต้องเสียเวลาขอวีซ่าเตรียมเอกสารให้ต้องปวดหัว ประเทศจอร์เจียนั้นมีค่าเงินที่ไม่แพงเลย ดังนั้นการช้อปปิ้งซื้อของกลับบ้านเรานั้นเป็นสิ่งที่คนทั่วไปมักจะได้ของฝากติดไม้ติดมือกันสมใจอยากเนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ และสิ่งที่คงจะปฏิเสธไม่ได้อีกหนึ่งอย่างนั้นก็คือความสวยงามของธรรมชาติอันสมบูรณ์แบบ และสถาปัตยกรรมอันเป็นที่น่าหลงไหล รวมถึงวัฒนธรรมแบบผสมผสานของสองทวีปได้อย่างลงตัว จอร์เจียยังมีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง เที่ยวธรรมชาติ เที่ยวสถาปัตยกรรม หรือจะเป็นการเดินเขาปีนเขา หรือกีฬาเอ็กซ์ตรีมต่าง ๆ  จอร์เจียเปรียบเสมือนสวรรค์ของนักท่องเที่ยวในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะ การเที่ยวแบบช้า ๆ เนิบๆ หรือจะเป็นการเดินป่าเดินเขา ดั้งนั้นการซื้อประกันเดินทางเผื่อไว้หากมีกรณีฉุกเฉิน ทั้งในรูปแบบ ประกันเดินทางก็ดี หรือ ประกันเดินทางต่างประเทศก็ดี เพื่อให้ทุกทริปนั้นเป็นทริปที่อุ่นใจยิ่งการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางเป็นเวลานาน ๆ ประกันเดินทางจึงเป็นสิ่งที่นักเดินทางควรมีติดตัวไว้ข้างกาย สำหรับการเดินทางจากไทยไปประเทศจอร์เจียนั้นในปัจจุบันยังไม่มีสายการบินที่บินตรงจากไทยไปจอร์เจีย และโดยส่วนมากจะมีการแวะเพื่อเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮาประเทศตุรกีก่อน (ซึ่งการเดินทางโดยรวมประมาณ 11 – 13 ชั่วโมง) และเวลาที่ประเทศจอร์เจียนั้นจะช้ากว่าที่ไทย 3 ชั่วโมง

ต่อพาสปอร์ต

ประเทศจอร์เจียใช้เงินสกุลอะไร?

สกุลเงินประจำชาติของประเทศจอร์เจีย คือ สกุลเงินลารีจอร์เจีย (GEL) ปัจจุบันเรายังไม่สามารถแลกเงินลารีไปจากประเทศไทยได้ แต่สามารถนำเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) และหรือยูโร (EUR) ไปแลกที่ลารีที่ประเทศจอร์เจีย หรือตามสนามบินหรือสถานที่ท่องเที่ยว และสถานีรถไฟต่าง ๆ ค่าเงินของจอร์เจียนั้นถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามไม่แพ้ประเทศยุโรป

ค่าเงินประเทศจอร์เจีย

จอร์เจียจะอยู่ที่ 1 GEL เท่ากับ 13.68 บาท หากเปรียบเทียบราคาค่าใช้จ่ายในในประเทศจอร์เจียถือว่าไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับธรรมชาติและความสวยงามที่เทียบกับประเทศแถบยุโรป กับราคาที่สามารถจับต้องได้

  • ค่าเดินทางจากประเทศไทยไปจอร์เจียอยู่ที่ 20,000-30,000 บาท (ไป-กลับ)
  • ค่าที่พักในจอร์เจียมีตั้งแต่ราคา 20-200 GEL หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 250-2,500 บาท
  • ค่าเช่ารถที่จอร์เจียเริ่มต้นที่ประมาณ 150-200 GEL ต่อวัน หรือคิดเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ วันละ 1,800 – 2,500 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละที่หรือบริษัทเช่ารถที่เราเลือก ซึ่งหากมีคนหารค่าเช่ารถด้วยก็จะประหยัดไปได้อีก
  • ค่าตั๋วรถไฟฟ้าและรถบัสในเมืองทบิลิซี ราคา 5 GEL ประมาณ 6 บาทตลอดสาย แต่ในกรณีเดินทางออกนอกตัวเมืองราคาตั๋วรถไฟจะเริ่มตั้งแต่ 23 GEL หรือประมาณ 280 บาท ขึ้นไปขึ้นอยู่กับเราจะลงสถานีใด
  • ค่าอาหารร้านทั่วไป เริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 40-100 บาท คน/มื้อ

และนี่ก็คือ ค่าครองชีพจอร์เจีย แบบคร่าวๆ  ซึ่งการใช้จ่ายและความต้องการของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน รวมไปถึงค่าช้อปปิ้งส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นการซื้อของฝากหรือซื้อของที่ระลึกกลับไทย แต่โดยสรุปรวมๆ แล้ว ค่าครองชีพหลายอย่างในจอร์เจียก็มีความใกล้เคียงกับการท่องเที่ยวในสถานที่ย่านธุรกิจหรือเมืองหลักในประเทศไทย

เที่ยวประเทศจอร์เจียควรเที่ยวเดือนอะไร

ประเทศจอร์เจียจะแบ่งเป็นออกเป็น 4 ฤดู

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิจะอยู่ที่ 10 – 25 องศาเซลเซียส อากาศจะเป็นช่วงที่สบายที่สุด
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิจะอยู่ที่ 16 – 30 องศาเซลเซียส มีแดดแรงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอากาศหนาว
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)  อุณหภูมิจะอยู่ที่ 5 – 10 องศาเซลเซียส จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมีความสวยงามมาก แต่ถ้าหากท่องเที่ยวบนเขานั้นอาจจะมีลมแรงมากและมีสภาพอากาศที่หนาวพอสมควร
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิจะอยู่ที่ -3 – 8 องศาเซลเซียส (มีหิมะตก) หิมะจะปกคลุมต้นไม้บ้านเรือนจนขาวโพลนไปหมด

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวประเทศจอร์เจียนั้นสามารถเดินทางได้ตลอด 365 วัน อยู่ที่ความชื่นชอบสภาพอากาศของนักเดินทางว่าเราอยากเห็นอะไรในจอร์เจีย

มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งทบลิซี

คนประเทศจอร์เจียใช้ภาษาอะไรในการสื่อสาร?

โดยส่วนใหญ่คนประเทศจอร์เจียจะพูดภาษาจอร์เจียเป็นหลักและอาจจะมีภาษารัสเซียบ้างไม่มากนัก แต่ถ้าหากเป็นเมืองหลวงของประเทศจอร์เจียนั้น ก็สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้บ้าง และในเรื่องของป้ายบอกทางก็จะมีภาษาอังกฤษกำกับอยู่ด้วยดังนั้นนักเดินทางไม่ต้องกลัวหลงทางอีกต่อไป

ว่าด้วยเรื่องศาสตร์ของการช้อปปิ้ง คงจะหนีไม่พ้นการต่อราคาสำหรับการเป็นนักเจรจาที่ดีแบบมืออาชีพนั้น เราต้องเริ่มควบคุมและรู้จักการใช้โทนเสียงในพูดคุยหรือต่อราคา และอาจจะมีท่าทางประกอบพอให้เข้าใจและดูอ่อนน้อมเพื่อเพิ่มโอกาสความเป็นไปได้ของการต่อราคา ซึ่งเราสามารถต่อราคาโดยใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเพื่อต่อราคาได้เลย เนื่องจากพนักงานร้านของฝากทั่วไปของจอร์เจียนั้นสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ สำหรับสินค้าประเทศจอร์เจียคงนี้ไม่พ้นผลไม้ถั่ว ของพื้นบ้าน ไวน์อันเลิศรสและอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับไวน์ประเทศจอร์เจีย มีรสชาติที่สุดยอดและราคาที่ถูกมาก ๆ เหมาะกับการซื้อเป็นของฝากที่สุด จอร์เจีย เป็นประเทศที่กำลังมาแรงหรือเป็นกระแสสำหรับผู้ที่ชอบหรือมีใจรักในการเดินทาง ก็เพราะว่าจอร์เจียนั้นมีค่าครองชีพถูก แถมยังอากาศดีและวิวที่สวยงามราวกับการเที่ยวยุโรปในราคาที่ถูกและสามารถจับต้องได้ ดังนั้นประเทศจอร์เจียจึงเป็นจุดหมายของใครหลายคน 

Qvevri

8 ของฝากจอร์เจีย ที่นักช้อปต้องซื้อ

ใครมีแพลนจะเดินทางไปจอร์เจียอยู่แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะช้อปอะไรให้ตัวเองหรือซื้อของอะไรฝากญาติพี่น้องดี ลองดูกันได้เลย

ไวน์ (Georgian Wine)

ไวน์จากจอร์เจียเหมาะสำหรับสายดื่ม เนื่องจากไวน์ของชาวจอร์เจียนั้น ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติและแถมมีราคาที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบจากไวน์จากประเทศฝรั่งเศส ราคาร้อยต้น ๆ ก็สามารถจิบไวน์กันได้แล้ว

  1. Chacha หรือวอดก้า

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการดื่ม วอดก้าหรือบรั่นดี ว่ากันว่าเป็นเครื่องดื่มที่แรงที่สุดในประเทศจอร์เจียซึ่งเป็นการสกัดจากองุ่น  คุณสามารถเจอวอดก้าชนิดนี้ได้ทุกที่ในจอร์เจีย

  1. แก้วไวน์จากเขาสัตว์ (Khantsi)

สำหรับแก้วไวน์จากเขาสัตว์ต้องเป็นคนที่รักในการสะสมและรักในการดื่มเป็นชีวิตจิตใจ เนื่องจากแก้วไวน์จากเขาสัตว์นั้นเปรียบเสมือนแก้วดื่มสไตล์จอร์เจีย (ทำจากเขาแกะหรือแพะ) แต่ในสมัยก่อน เจ้าแก้วเขาสัตว์นี้ถูกใช้เป็นแตรเพื่อเป่าในการให้สัญญาณในการออกรบ แต่ในปัจจุบันได้นำมาประยุกต์ใช้เป็นแก้วดื่มเพื่อเฉลิมฉลองแทน

  1. ขนมคูซเซล่า (Churchkhela)

คูซเซล่าหรือขนมเหนียวเขียวติดฟันแต่อร่อยมากทำจากเฮเซลนัทหรือลูกวอลนัทผ่าครึ่ง และนำมาจุ่มลงในน้ำองุ่นผสมแป้ง น้ำทับทิมผสมแป้ง หรือช็อกโกแลตตามความชอบและนำไปตากทิ้งไว้ให้แห้งก็จะได้เป็นขนมยอดฮิตที่ชาวจอร์เจียนิยมประทานเล่นกันในประเทศ

ของฝากจอร์เจีย

เครื่องประดับอีนาเมล (Enamel Jewelry)

เครื่องประดับอีนาเมล เป็นเครื่องประดับที่ใช้วัสดุจากโลหะ ที่ถูกนำมาขึ้นรูปต่างๆและนำไปเคลือบแก้วเพื่อให้เกิดความเงาและความวาว ซึ่งเครื่องประดับชนิดนี้จะถูกผลิตขึ้นจากช่างฝีมือของจอร์เจียเท่านั้น หรือเป็นของหายากก็ว่าได้

ผ้าปูโต๊ะสไตล์จอร์เจียน (Traditional Blue Tablecloth)

ผ้าปูโต๊ะสีฟ้าสไตล์จอร์เจียเป็นงานฝีมือของชาวท้องถิ่นที่ถูกสืบทอดกันมาหลายศตวรรษซึ่ง ลายของผ้านั้นเป็นลวดลายจากท้องถิ่น เช่น ดอกไม้ ต้นไม้กวาง นก หรือรูปคน จัดเป็นของฝากที่หาซื้อได้ง่ายมักมีขายตามร้านขายของฝากหรือตลาดในจอร์เจีย

ถุงเท้าลายเกี๊ยว (Khinkali Socks)

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมต้องไปถุงเท้าลายเกี๊ยว ที่เป็นถุงเท้าลายเกี๊ยวเพราะว่าชาวจอร์เจียนิยมรับประทานกันคล้ายๆ  เสี่ยวหลงเปาที่เวลากัดเข้าไปแล้วจะมีน้ำซุปที่กลมกล่อมอยู่ข้างในตัวเกี๊ยว ถือว่าเป็นของฝากที่น่ารักที่ควรซื้อกลับมาฝากคนที่บ้าน

เครื่องปั้นดินเผาและเซรามิก

เครื่องปั้นดินเผาหรือถ้วยชามเซรามิกที่ประเทศจอร์เจียมีความสวยแปลกตาเนื่องจากมีสีสันที่โดดเด่นและมีลวดลายที่หลากสี จอร์เจียนิยมนำภาชนะเหล่านี้มาใช้เป็นแจกันเพื่อตกแต่งบ้าน เหยือกใส่ไวน์ จานชามหม้อตุ๋นหรือถังหมักไวน์ก็สามารถทำได้

เทคนิคการต่อรองราคา

จากที่แอบกระซิบบอกไปข้างต้น การต่อรองราคานั้นคือศิลปะในการพูดกัน ซึ่งน้ำเสียงหรือโทนก็สำคัญมาก เพราะสามารถสื่อถึงอารมณ์และความหนักแน่นของความต้องการของเราได้เป็นอย่างดี โดยการใช้เสียงสูงในการถามคำถามนั้นจะดูสุภาพมากกว่า ในขณะเดียวกัน หากถามคำถามด้วยโทนเสียงต่ำก็จะดูไม่สุภาพไปเลย ดังนั้นต้องระวังให้ดี ๆ นะ แล้วถ้าอยากดูหน้าเชื่อถือและหนักแน่นมั่นใจเวลาเสนอข้อตกลง เราสามารถทำหน้านิ่ง ๆ เพื่อยืนยันข้อเสนอและบอกอีกฝ่ายเป็นนัยว่าเราเต็มใจจ่ายราคานี้เท่านั้น

ใช้ประโยคไหนในการขอลดราคาหรือขอต่อราคา

Can you give me a discount?

คุณสามารถลดให้ฉันหน่อยได้ไหม?

If I buy more than 1, will you give me a discount?

ถ้าฉันซื้อ 1 ชิ้นขึ้นไป คุณลดราคาให้ฉันได้หรือไม่?

Do you have any promotions going on?

ตอนนี้คุณมีโปรโมชั่นอะไรที่พอจะลดราคาได้บ้างไหม?

What’s the best price/what’s your best price?

ราคาที่ดีที่สุดของคุณคือเท่าไหร่/ สามารถลบลดได้เท่าไหร่

What’s the best price you can do for me?

งบฉันมีแค่นี้คุณพอช่วยลดให้ฉัน ได้หน่อยได้ไหม

โบสถ์เกอเกต

จอร์เจียเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ วัฒนธรรมอันเก่าแก่ และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ความธรรมชาติของการใช้ชีวิตให้เราไปค้นหา ด้วยราคาที่ย่อมเยาและสามารถจับต้องได้ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในรูปแบบใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางหรือนักเดินทางก็คือความปลอดภัย และความปลอดภัยในการเดินทางนั้นมาจากอะไร?  แน่นอนคำว่า เดินทาง นั้นย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงในทุกรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะนั่งรถ ลงเรือ ขึ้นเครื่องบิน ปีนเขา หรือว่ายน้ำ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอุบัติเหตุหรือสิ่งที่ไม่คาดฝันนั้นจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ ดังนั้นการทำประกันเดินทางจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ที่รักในการเดินทาง ไม่ว่าจะทำประกันเดินทางภายในประเทศ หรือ ประกันการเดินจอร์เจีย เองก็ตาม เที่ยวอย่างอย่าชาญฉลาดต้องเที่ยวกับ LUMA

Table of Contents

You May Also Like

New Health Standard คืออะไร
บทความ

New Health Standard คืออะไร

ความหมายของ New Health Standard  New Health Standard คือมาตรฐานของประกันสุขภาพแบบใหม่ ที่มีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทำไมถึงต้องเปลี่ยนเป็น New Health Standard? เพื่อสร้างมาตรฐานประกันสุขภาพแบบใหม่ให้เหมาะสมกับสังคมสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากจากเมื่อก่อน …

community rating คือ
บทความ

Community Rating คืออะไร?

Community Rating เป็นหลักการที่ใช้ในการกำหนดระดับค่าเบี้ยประกันหรือค่าบริการทางด้านการแพทย์โดยไม่คำนึงถึงประวัติการเป็นโรคหรือสภาพสุขของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มที่เข้าร่วมโปรแกรมประกันสุขภาพ เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงการรักษาและประกันสุขภาพสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้น โดยทั่วไปการเสนอราคาหรือการเสนอประกันในระบบ Community Rating จะไม่พิจารณาข้อมูลส่วนบุคคลเช่น อายุหรือประวัติการเป็นโรคของผู้เอาประกัน ทำให้ค่าเบี้ยหรือค่าบริการมีความเท่าเทียมกันหรือใกล้เคียงสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ แม้ว่าบางบุคคลอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากกว่าบางคนในกลุ่มก็ตาม หรือบางคนอาจมีอาการเรื้อรังที่ต้องการการรักษาบ่อยมากกว่าคนอื่น แต่ค่าเบี้ยหรือค่าบริการยังคงเท่าเทียมกันสำหรับทุกคนในกลุ่มนั้นๆ หลักการ Community Rating มีจุดประสงค์เพื่อให้มีความยุติธรรมและเสมอภาคต่อทุกคนในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพโดยไม่สนใจสถานะสุขภาพหรือความสามารถในการจ่ายเงินของบุคคลแต่ละคนในกลุ่มนั้น ๆ โดยมักจะใช้ในระบบประกันสุขภาพของประเทศหรือระบบที่เปิดให้กับสาธารณชนทั่วไปให้เข้าถึงได้ง่าย ๆ …

สิทธิรักษาพยาบาล
บทความ

สิทธิรักษาพยาบาล 3 ระบบของไทย

สิทธิรักษาพยาบาลในประเทศไทย คือ สิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน ที่รัฐบาลมอบให้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สิทธิรักษาพยาบาลของไทยมีอะไรบ้าง  คนไทยทุกคนมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากภาครัฐ โดยมีระบบหลัก 3 ระบบ ดังนี้ สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ สิทธิประกันสังคม สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (30 บาทรักษาทุกโรค/บัตรทอง) สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ คือ  สิทธิรักษาพยาบาลที่ข้าราชการและบุคคลในครอบครัว เช่น …