ประกันสุขภาพเด็ก ควรคุ้มครองอะไรบ้างในปี 2566 พ่อแม่ต้องรู้ก่อนซื้อ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าประกันสุขภาพเด็กกลายเป็นอีกสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องให้ความใส่ใจ เพราะเมื่อลูกน้อยเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุแบบไม่คาดคิดอย่างน้อยประกันสุขภาพยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบประกันสุขภาพเด็กต้องเข้าใจว่าจะมีทั้งแบบ IPD ให้การรักษาในฐานะผู้ป่วยใน และ OPD ให้การรักษาเฉพาะผู้ป่วยนอก (แต่ส่วนมากหลายบริษัทจะให้ความคุ้มครองทั้ง 2 รูปแบบ) แล้วประกันสุขภาพเด็ก ควรคุ้มครองอะไรบ้างในปี 2566? เลือกแบบไหนดี ลำดับแรกต้องเช็กลิสต์ 5 ข้อนี้ก่อนตัดสินใจเสมอ
5 ข้อควรประเมิน ก่อนเลือกประกันสุขภาพเด็ก
ประเมินสุขภาพและความเสี่ยงการเจ็บป่วยของลูก
เด็กแต่ละคนมีปัญหาสุขภาพแตกต่างกันออกไป การมีโรคประจำตัว รวมถึงปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการเจ็บป่วย เช่น ลักษณะที่อยู่อาศัย สภาพอากาศ ผู้คนรอบข้าง ฯลฯ ดังนั้นก่อนคิดว่าทำประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี อย่าลืมประเมินเรื่องนี้เป็นลำดับแรก
สวัสดิการด้านสุขภาพที่ลูกมีอยู่
การเช็กข้อมูลตรงนี้จะช่วยให้พ่อแม่วางแผนด้านค่าใช้จ่ายและเลือกแผนกรมธรรม์ที่เหมาะกับลูกได้ดีแบบไม่ต้องเสียเงินเยอะเกินไป เช่น เด็กบางคนมีสิทธิ์เรื่องประกันอุบัติเหตุจากประกันชีวิตที่ทำอยู่แล้ว การซื้อประกันสุขภาพก็อาจเน้นเฉพาะการเจ็บป่วยเป็นหลัก
เปรียบเทียบข้อมูลโรงพยาบาลที่จะเข้ารักษาตัว
โรงพยาบาลแต่ละแห่งมีค่าใช้จ่ายไม่เหมือนกัน พ่อแม่จึงต้องรู้ด้วยว่าจะให้ลูกเข้ารักษาตัวที่ไหนหากเจ็บป่วย เช่น ถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐใกล้บ้านราคาไม่แพงก็อาจเลือกแผนวงเงินคุ้มครองไม่ต้องสูงมากนักเพื่อเซฟค่าเบี้ยประกัน แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชนเกรดสูง ๆ ก็อาจต้องเลือกแผนที่มีวงเงินคุ้มครองสูงเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเติมในภายหลัง เป็นต้น
ศึกษาแผนความคุ้มครองจากประกันสุขภาพเด็กให้ดี
ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก พ่อแม่ต้องรู้ว่าประกันสุขภาพคุ้มครองอะไรบ้างก่อนตัดสินใจซื้อให้กับลูก เพื่อจะได้ประเมินความเหมาะสมและคุ้มค่า ทั้งนี้ไม่ใช่แค่ดูรายละเอียดความคุ้มครองอย่างเดียว แต่ต้องดูวงเงินคุ้มครองที่เหมาะกับโอกาสในการเจ็บป่วยของลูกด้วย เช่น อาจเลือกการคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาล OPD สูงเพราะลูกมักเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ต้องถึงขั้นนอนโรงพยาบาล แต่อาจไปพบหมอบ่อย เป็นต้น
เทียบงบประมาณที่มีกับแผนประกัน
ท้ายที่สุดต้องประเมินงบของตนเองกับแผนประกันว่าสามารถลงทุนได้หรือไม่ หากคิดแล้วต้องรับภาระหนักเกินไปอาจเลือกแผนอื่นที่มีความใกล้เคียง วงเงินคุ้มครองอาจต่ำกว่าเล็กน้อยแต่ราคาเบี้ยพอรับไหว อย่างน้อยซื้อเป็นหลักประกันด้านสุขภาพไว้ให้ลูกดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ประกันสุขภาพเด็กคุ้มครองเรื่องค่าห้องและค่ารักษาพยาบาล
การทำประกันสุขภาพเด็กเมื่อลูกน้อยเจ็บป่วยและเข้ารักษาในโรงพยาบาล สิ่งแรกที่ต้องได้รับความคุ้มครองอย่างแน่นอน จะเกี่ยวข้องกับเรื่องห้องและค่ารักษา แบ่งออกเป็น 3 เรื่องหลัก คือ
- ค่าห้อง หมายถึง ค่าห้องพักรักษาตัวในแต่ละวัน (ไม่นับรวมการรักษาตัวใน ICU) ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่พ่อแม่ต้องเลือกให้ดี วงเงินคุ้มครองกับค่าห้องในโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเอง
- ค่าอาหาร หมายถึง อาหารที่ทางโรงพยาบาลจัดให้กับผู้ป่วยในแต่ละวัน
- ค่ารักษาพยาบาลและบริการทางการแพทย์ซึ่งอยู่ในผลประโยชน์ของการรักษาพยาบาล หมายถึง ค่ารักษาพยาบาลรวมถึงอุปกรณ์-เครื่องมือต่าง ๆ ที่ต้องใช้ระหว่างที่ผู้ป่วยต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน
ค่าห้อง ICU
Intensive Care Unit หรือ ICU คือ ห้องสำหรับใช้ดูแลผู้ป่วยในระดับวิกฤต อาจเกิดจากการบาดเจ็บหรืออาการของโรคที่รุนแรง บางรายอาจเกิดภาวะล้มเหลวของระบบอวัยวะพร้อมกัน เช่น ระบบหลอดเลือดหัวใจ ระบบสมอง ระบบทางเดินหายใจ การทำงานของไต ฯลฯ ต้องมีการเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจากแพทย์และพยาบาล จึงต้องแยกห้องรักษาจากปกติเพื่อให้การดูแลสะดวกและทันท่วงทีมากขึ้น ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการรักษาตัวในห้องปกติ
ประกันสุขภาพเด็กจะระบุจำนวนวงเงินคุ้มครองแยกต่างหากจากค่าห้องและค่ารักษาพยาบาลปกติ อีกทั้งยังมีเงื่อนไขที่มักแยกออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- การจ่ายตามจริง คือ บริษัทประกันจะทำการจ่ายให้ตามค่าใช้จ่ายจริงที่ต้องเสียในการรักษาตัวห้อง ICU ไม่เกินวงเงินและจำนวนเงินที่กำหนด
- การจ่ายแบบให้วงเงิน คือ จะช่วยเรื่องการรักษาค่าพยาบาลในห้อง ICU จนกว่าจะครบตามวงเงินที่ระบุไว้
- การจ่ายแบบจำกัดจำนวนวัน คือ มีวงเงินค่าใช้จ่ายในแต่ละวันให้ และกำหนดด้วยว่าสามารถจ่ายให้ไม่เกินกี่วันหลังเข้ารับการรักษาในห้อง ICU
ประกันสุขภาพเด็กคุ้มครองโรคร้ายแรงและโรคมะเร็ง
อนตัดสินใจว่าจะทำประกันสุขภาพเด็กที่ไหนดี สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้ามนั่นคือการให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคร้ายแรงและโรคมะเร็ง!
โรคร้ายแรง หมายถึง โรคที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักสร้างความรุนแรงให้กับผู้ป่วยอาจถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้หากไม่เข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งโรคร้ายแรงในเด็กมีอยู่เยอะพอสมควร เช่น โรคไข้เลือดออก โรคชิคุนกุนยา โรคไข้สมองอักเสบ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย โรคกลุ่มกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด เป็นต้น
ทั้งนี้เงื่อนไขโรคร้ายแรงส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองเรื่องโรคมะเร็งที่มักพบเจอในเด็กด้วย เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งสมอง ระบบประสาท และไขสันหลัง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งไตในเด็ก มะเร็งนิวโรบลาสโตมา (Neuroblastoma) เป็นต้น
นี่เป็นโรคร้ายแรงและกลุ่มโรคมะเร็งที่เมื่อทำประกันเด็กแล้วควรได้รับความคุ้มครอง ส่วนจะเป็นลักษณะจ่ายตามจริง หรือมีวงเงินแบบเหมาจ่ายก็ขึ้นอยู่กับขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละบริษัทประกัน
ประกันสุขภาพเด็กคุ้มครองโรคที่เจอในวัยเด็กเล็ก
เมื่อเด็กเริ่มเข้าสู่วัยเรียนการอยู่ในสังคมของคนหมู่มาก โดยเฉพาะเพื่อนวัยเดียวกันที่ยังไม่มีการระวังตัวใด ๆ มากนักมักเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยเกิดโรคในวัยเด็กต่าง ๆ ได้ อาทิ
- โรค RSV หรือการติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็กจากไวรัส Respiratory Syncytial Virus มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อาการมีไข้สูง ไอ อาเจียน หลอดลมอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ ปอดอักเสบหรือปอดบวม หากไม่ได้รักษาทันท่วงทีอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
- โรคไข้หวัดใหญ่ โรคยอดฮิตที่มักพบในช่วงฤดูฝน มีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องร่วง หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลและได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
- โรคมือ เท้า ปาก อีกโรคยอดนิยมของเด็กเล็กมักระบาดช่วงหน้าฝนติดต่อโดยการสัมผัสเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร (EV71) มีตุ่มพองบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ริมฝีปาก มีไข้ อ่อนเพลีย ต้องรีบเข้ารับการรักษา
จากตัวอย่างโรคในเด็กเล็กที่กล่าวมาการทำประกันเด็กจึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อต้องอ่านรายละเอียดให้ดีว่าประกันเด็กคุ้มครองอะไรบ้าง มีโรคกลุ่มที่เกิดบ่อยเหล่านี้หรือไม่
ประกันสุขภาพเด็กคุ้มครองอุบัติเหตุในเด็ก
เด็กกับอุบัติเหตุเป็นของคู่กันที่มักพบเจอได้เสมอ ต้องเลือกให้ดีว่าประกันเด็กคุ้มครองอะไรบ้างนอกจากการเจ็บป่วยจากโรค โดยแนะนำให้มีการคุ้มครองด้านอุบัติเหตุ เข้ารับการรักษาได้ทันทีภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องมีประกัน PA (ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล) เพิ่มอีกฉบับให้สิ้นเปลือง รวมถึงอุบัติเหตุหลายอย่างที่เกิดกับเด็กมักส่งผลกระทบกับเรื่องของฟัน การเลือกกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองด้านทันตกรรมด้วยจะยิ่งช่วยให้พ่อแม่สบายใจเรื่องค่ารักษามากกว่าเดิม
ที่ LUMA เลือกประกันสุขภาพให้ลูกอย่างไรบ้าง?
“ผมซื้อประกันสุขภาพให้ลูกตั้งแต่ยังไม่คลอดเลยครับ วางแผนซื้อประกันให้กับภรรยา พอตั้งครรภ์ และคลอดลูก ผมเพิ่มลูกชายเข้าไปในแผนประกันสุขภาพของครอบครัว สำหรับผม ความคุ้มครองต้องครอบคลุมที่สุดสำหรับการรักษาแบบผู้ป่วยใน และราคาเบี้ยต้องสมเหตุสมผลกับสิทธิ์ผลประโยชน์ที่ได้รับ
จริงๆตอนแรกไม่ค่อยได้สนใจความคุ้มครองผู้ป่วยนอก OPD เพราะรู้สึกมันไม่จำเป็นเท่าไร ป่วยเล็กน้อย สามารถดูแลลูกเองได้ แต่พอเอาเข้าจริง ทุกวันนี้ใช้ค่อนข้างเยอะเนื่องจากลูกผมเป็นโรคภูมิแพ้ ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดกับคุณหมอ”
Vic, ทีมผู้บริหาร
“ฉันซื้อประกันสุขภาพให้ลูกตั้งแต่วันที่คลอดลูกออกมาเลยค่ะ ตอนนี้เขาอายุ 20 ปี แล้ว และเป็นนักเรียนที่ฝรั่งเศษ เลยเพิ่มลูกชายเข้าไปในแผนประกันสุขภาพของครอบครัว จนเขาสามารถเลี้ยงดูแลตัวเองได้
ที่ฝรั่งเศษ ทุกคนจะมีประกันสังคมที่มีสิทธ์ตั้งแต่วันที่คลอด แต่บริษัทที่ทำงานของสามีฉันได้เพิ่มลูกชายเข้าไปในแผนด้วย ทำให้มีประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นมาอีกนโยบาย และสามารถนำมาใช้ต่างประเทศได้ ตามงานคุณพ่อเขา
สำหรับฉันแล้ว ไม่ว่าที่ฝรั่งเศษหรือเอเชียและประเทศไทย ความคุ้มครอง IPD แบบผู้ป่วยใน สำคัญมากๆ เพราะไม่สบายครั้งหนึ่งค่าใช้จ่ายสูงมาก เลยต้องมีประกันไว้ป้องกันการเสียเงินจากกระเป๋าตัวเอง อีกจุดที่ต้องประเมินคือความคุ้มครองแบบ OPD หรือ ผู้ป่วยนอก เพราะส่วนตัวแล้ว ฉันไม่ชอบนอนโรงพยาบาลเลย ถ้าไม่หนักจริง ไม่อยากเข้าโรงพยาบาลเลยค่ะ”
Frederique, ทีมผู้บริหาร
“ผมซื้อประกันสุขภาพให้ลูกหลังจากลูกคลอดแล้ว สำหรับผม จะดูค่าห้องเวลานอนเป็นผู้ป่วยใน เพราะฉบับเก่าๆ ค่าห้องมักจะไม่พอ ต้องมาจ่ายส่วนเกินเวลาจะกลับบ้าน ผมเลยมองหาแผนประกันที่มันมีค่าห้องที่สูง หรือไม่ก็จ่ายเต็มไปเลย อีกส่วนที่จะนำมาคิด ก็เรื่องผู้ป่วยนอก เพราะในวัยเด็ก ป่วยง่าย พอเริ่มไปโรงเรียนก็เจอเพื่อน เล่นกันสนุก กลับบ้านมาไม่สบาย สำหรับผม ผมต้อการความสบายใจที่สามารถพาลูกไปหาหมอ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ก็อยากให้ลูกอยู่ในมือแพทย์”
Kittikhong, ฝ่ายช่องทางการขาย