เที่ยวจอร์เจียได้ ไม่ต้องง้อใคร แนะนำการเดินทางคนเดียวแบบปลอดภัย
กลับมาอีกแล้วสำหรับเรื่องราวการท่องเที่ยวต่างประเทศดี ๆ ที่เรานำมามอบให้กับผู้อ่านทุกคน วันนี้เราจะมากล่าวถึงการท่องเที่ยวที่ “ประเทศจอร์เจีย” ดินแดนที่เป็นจุดตัดกันระหว่าง 2 ทวีป เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่มีพรมแดนอยู่ระหว่าง ตุรกี รัสเซีย อาร์มีเนีย และ อาเซอร์ไบจาน โดยบทความนี้จะเป็นการแนะนำสำหรับผู้ที่ท่องเที่ยวคนเดียวว่ามีกิจกรรมไหนที่คุณไม่ควรพลาด มีแหล่งท่องเที่ยวไหนที่คุณควรต้องไป ติดตามได้จากบทความนี้ พร้อมกับสิ่งที่เราอยากให้คุณมีติดตัวไปด้วยในทุก ๆ ทริป แค่พกประกันเดินทาง การท่องเที่ยวทุกมุมโลก ก็ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
ทริปสุดชิล ท่องเที่ยวที่จอร์เจีย ดินแดนแห่งขุนเขา แดนในฝันของใครหลาย ๆ คน
การเที่ยวที่ประเทศจอร์เจีย เหมาะกับชาวไทยเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเดินทางได้ โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยาก สามารถอยู่ได้ยาว ๆ ถึง 1 ปีเต็ม ประเทศนี้ถูกเรียกว่า “ดินแดนแห่งขุนเขา” เนื่องจากมีเทือกเขาขนาดใหญ่ตั้งอยู่หลายต่อหลายที่ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความสวยงามในทุก ๆ มุมมอง ทั้งสถาปัตยกรรม ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ด้วยสภาพอากาศที่ไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวเกินไป ทำให้สามารถเลือกท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อีกหนึ่งจุดสำคัญของประเทศจอร์เจียคือ “ค่าครองชีพ” ที่ถูกจนเหมือนกับกำลังท่องเที่ยวอยู่ในบ้านเรา และนี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวของความพิเศษ ที่เราอยากแนะนำให้คุณมาเที่ยวในประเทศแห่งนี้
เที่ยวคนเดียวก็สนุกได้ กับ 3 กิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนจอร์เจีย
หลังจากเกริ่นไปถึงประเทศจอร์เจียกันมาสักพักแล้ว คงทำให้รู้แล้วว่าประเทศนี้มีความพิเศษอย่างไรกันบ้าง แต่สำหรับการเดินทางคนเดียว หลาย ๆ อย่างอาจไม่สะดวกเหมือนเดินทางมากับทัวร์ ดังนั้นเพื่อไม่ให้ทริปนี้ของคุณต้องว้าเหว่ เราขอแนะนำ 3 กิจกรรมที่สามารถทำคนเดียวได้ ไม่ต้องง้อทัวร์ ไม่ต้องง้อใคร ขอเพียงคุณมีกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ กับหัวใจที่พร้อมท่องเที่ยว และอย่าลืมทำประกันเดินทางเอาไว้ เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมไหนคุณก็พร้อมลุยได้อย่างเต็มที่ !!
ดื่มด่ำบรรยากาศของสถาปัตยกรรมในเมืองต่าง ๆ
การเที่ยวจอร์เจียด้วยตัวเอง กิจกรรมที่เหมาะที่สุด คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเยี่ยมชมเมืองต่าง ๆ และที่ที่ไม่ควรพลาดก็จะเป็น “เมืองหลวง Tbilisi” เมืองที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงาม เป็นเหมือนจุดบรรจบกันของสถาปัตยกรรมยุคเก่า ที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ถือเป็นเมืองหลวงที่สวยงามติดอันดับต้น ๆ ของโลกในเวลานี้เลยทีเดียว การเดินทางก็สะดวก ด้วยระบบคมนาคมที่เพียบพร้อม มีทั้งรถประจำทางและรถไฟใต้ดินให้ใช้บริการ
ลิ้มรสกับอาหารเลิศรสตามแบบฉบับจอร์เจีย
ในเรื่องของอาหารพื้นเมืองของจอร์เจียก็ไม่เป็นสองรองใคร คุณสามารถเดินเลือกทานอาหารได้ตามถนนหนทางทั่ว ๆ ไป อาหารของที่นี่จะมีกลิ่นอายที่ผสมผสานระหว่างอาหารจากเอเชียและยุโรป เมนูที่พลาดไม่ได้ก็จะเป็น “Khinkali” ที่หน้าตาเหมือนกับเกี๊ยวกุ้งบ้านเรา ไส้มักทำจากเนื้อแกะ พร้อมกับน้ำซุปแสนอร่อยที่ซ่อนอยู่ภายใน อีกหนึ่งทีเด็ดของจอร์เจียคือไวน์ เมื่อมาถึงที่แล้วก็ต้องลองชิมไวน์สักแก้ว แต่อย่าลืมว่าคุณมาคนเดียว ดื่มเพียงให้รับรู้รสชาติ อย่างให้ถึงขาดสติเสียล่ะ ถ้าคุณไม่มั่นใจในร้านอาหารที่อยากทาน ก่อนมาเที่ยวจอร์เจีย ลองอ่านรีวิวร้านอาหารต่าง ๆ ดูก่อนก็ถือว่าเป็นการทำการบ้าน ที่ช่วยให้คุณท่องเที่ยวได้สนุกมากยิ่งขึ้น
เล่นสกีโต้ลมหนาวที่เมือง Gudauri
กิจกรรมสำหรับการท่องเที่ยวจอร์เจียในหน้าหนาว คงไม่มีอะไรน่าสนใจไปมากกว่า “การเล่นสกี” โดยเมืองที่เล่นจะอยู่ที่เมือง Gudauri เดินทางด้วยรถตู้จากเมืองหลวงอย่าง Tbilisi ขึ้นรถที่บริเวณสถานีเมโทร Didube คุณสามารถไปเล่นตัวเปล่าได้เลย เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างมีให้เช่าทั้งหมด สามารถไต่ระดับความยากได้ แม้คุณจะเป็นมือใหม่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถจ้างผู้ฝึกสอนส่วนตัวได้ หากคุณกังวลถึงความปลอดภัย ไม่ต้องห่วงเพราะมีสถานพยาบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือ แต่อย่างไรก็ตาม การติดประกันเดินทางไปด้วยก็อุ่นใจมากที่สุด
เที่ยวจอร์เจียตอนไหนดี ?
ฤดูกาลที่มีความนิยมของการท่องเที่ยวที่ประเทศจอร์เจียมากเป็นอันดับหนึ่งนั้นจะเป็น “หน้าหนาว” เพราะอากาศเย็นสบาย ได้เห็นหิมะสวย ๆ ปกคลุมเทือกเขาสุดลูกหูลูกตา แต่ในฤดูอื่น ๆ ของจอร์เจียเองก็พิเศษไม่แพ้กัน เพราะว่าจะมีจุดไฮไลต์องการท่องเที่ยวที่แตกต่างกันออกไปตามฤดูกาล มาดูกันว่ามาเที่ยวจอร์เจียช่วงไหน จะเจอกับอะไรบ้าง
ฤดูหนาว
ด้วยอุณหภูมิที่ติดลบได้มากที่สุดถึง -3 องศาเซลเซียส ต้องเตรียมเสื้อผ้าหนา ๆ มาให้พร้อม หากอยากเจอกับหิมะควรมาในช่วงเดือนธันวาคม จนถึง กุมภาพันธ์ กิจกรรมที่แนะนำคือการเล่นสกี และเยี่ยมชมยอดเขาต่าง ๆ ที่จะสวยงามมากขึ้นจากหิมะอันขาวโพลนในช่วงเวลานี้
ฤดูใบไม้ผลิ
อยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ถึง พฤษภาคม เป็นช่วงที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้สบาย ๆ อากาศจะอยู่ที่ราว ๆ 10 ถึง 24 องศาเซลเซียส ถือว่าเป็นช่วงที่เย็นสบายเลยหากเทียบกับบ้านเรา กิจกรรมที่อยากแนะนำจะเป็นการเยี่ยมชมธรรมชาติ เพราะในช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีมากที่สุด
ฤดูร้อน
เป็นช่วงเวลาที่คนไทยอย่างเราไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย ด้วยอุณหภูมิ 16 ถึง 31 องศาเซลเซียส ถือว่าเป็นตัวเลขที่เราคุ้นเคยกันพอสมควร หากมาเที่ยวจอร์เจียในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคม นับว่าเป็นช่วง Low Season ที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวที่คนไม่พลุกพล่านเป็นที่สุด
ฤดูใบไม้ร่วง
อีกหนึ่งฤดูน่าเที่ยวสำหรับจอร์เจีย ในช่วงเดือนกันยายน ถึง พฤศจิกายน จะเป็นช่วงเวลาที่ใบไม้กำลังผลัดใบ หากคุณอยากชมใบไม้เปลี่ยนสี แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงนี้ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ( ค่อนข้างหนาว ) เหมาะกับการนำกล้องมาเก็บภาพสวย ๆ ของธรรมชาติในโซนเทือกเขาเป็นอย่างมาก
แนะนำเทคนิคเที่ยวจอร์เจียด้วยตัวเอง
หลังจากผ่านเรื่องราวของการท่องเที่ยวจอร์เจียกันไปแล้ว ก่อนจะจบบทความนี้ เราคงต้องขอมุ่งเน้นใจความสำคัญกันอีกสักครั้ง เนื่องจากการบทความนี้จะเป็นการแนะนำการท่องเที่ยว “เพียงคนเดียว” ดังนั้นสิ่งที่ต้องโฟกัสมากที่สุดก็คงเป็น “ความปลอดภัย” ไม่ว่าคุณจะท่องเที่ยวคนเดียวเป็นครั้งแรก หรือท่องเที่ยวคนเดียวจนชำนาญแล้วก็ตาม เราอยากให้ทำตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้ เพื่อให้ทริปท่องเที่ยวของคุณปลอดภัยมากที่สุด
ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียดก่อนเดินทาง
ก่อนมาเที่ยวจอร์เจีย ควรอ่านรีวิวของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ไปจนถึงที่พัก ร้านอาหาร โดยคำนึงถึงการเดินทางที่สะดวก มีรถสาธารณะให้บริการไหมในตำแหน่งนั้น ๆ ทางที่ดีควรวางแผนทริปโดยละเอียดให้มากที่สุด โดยวางเส้นทางการเดินทางเอาไว้ ที่สำคัญอย่าลืมมีแผนสำรองเอาไว้เสมอ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ตื่นตัวอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้ขาดสติ
แม้ว่าการท่องเที่ยวในจอร์เจีย จะสามารถการันตีความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากสถิติของการเกิดอาชญากรรมในจอร์เจียถือว่าต่ำมาก แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจจนเกินไป ควรหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ก็ตามที่ทำให้สติสัมปชัญญะลดน้อยลง อย่างเช่นการดื่มเครื่องดื่มมึนเมา สารเสพติดต่าง ๆ เป็นต้น
ทำประกันเดินทางให้เรียบร้อย
ประกันเดินทางต่างประเทศยังคงสำคัญเสมอเมื่อต้องออกไปเยือนต่างแดน เราไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการท่องเที่ยวทริปนี้ เพราะฉะนั้นการป้องกันตัวเองถือว่าดีที่สุด พร้อมกับศึกษาเบอร์ฉุกเฉินต่าง ๆ เอาไว้ หากต้องการขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ให้โทร 112 ในกรณีต้องการความช่วยเหลือจากตำรวจให้โทร 125
ให้ประกันเดินทางอยู่เป็นเพื่อนคุณ อุ่นใจแม้อยู่ลำพังในต่างแดน
คงจะไม่ใช่เรื่องน่าพิสมัยสักเท่าไหร่ หากทริปท่องเที่ยวต่างประเทศที่คุณวาดฝันเอาไว้ ต้องมาจบลงอย่างง่ายดายเพียงเพราะปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างปัญหาสุขภาพ ไปจนถึงอุบัติเหตุต่าง ๆ การท่องเที่ยวโดยต้องพกพาความกังวลไปด้วย อาจจะเป็นภาระที่ทำให้ทริปของคุณหม่นหมองขึ้นมาในทันที แต่ปัญหานั้นแก้ได้ง่าย ๆ ด้วย “ประกันเดินทาง” ตัวช่วยสุดพิเศษที่ทำให้คุณเดินทางได้ทั่วโลก โดยทิ้งความกังวลใจเอาไว้เบื้องหลัง เที่ยวได้อย่างเต็มที่ เพราะมีเพื่อนคู่ใจอยู่ข้างกายอยู่เสมอ แม้จะเป็นทริป Solo Travel ก็ยังคงอุ่นใจหายห่วง