เบี้ยประกันสุขภาพ สิ่งที่คนวางแผนซื้อประกันสุขภาพต้องทำความเข้าใจ

การซื้อประกันสุขภาพจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในกรณีที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่ก่อนตัดสินใจซื้อก็ย่อมมีเรื่องของ “เบี้ยประกันสุขภาพ” เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเบี้ยประกันถือเป็นอีกปัจจัยที่จะตอบได้ว่าควรซื้อประกันฉบับดังกล่าวดีหรือไม่ แล้วเบี้ยประกันสุขภาพ คืออะไร? เบี้ยประกันสุขภาพ กับ ทุนประกันสุขภาพ มีความแตกต่างกันอย่างไร มาทำความเข้าใจกันอย่างละเอียดในเรื่องนี้ได้เลย


 

ตอบข้อสงสัย เบี้ยประกันสุขภาพ คืออะไร

เบี้ยประกันสุขภาพ คือ จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยสุขภาพต้องทำการชำระให้กับบริษัทประกันภัยเพื่อเป็นการตอบแทนให้กับผู้รับประกันภัยที่ตกลงจ่ายค่าสินไหมทดแทน ค่าชดเชย และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในสัญญาประกันภัย ดังนั้นหากสรุปแบบเข้าใจง่าย เบี้ยประกันสุขภาพ ก็คือเงินที่คุณซื้อประกันสุขภาพเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากโรคภัยไข้เจ็บนั่นเอง


เบี้ยประกันสุขภาพต่างกันเพราะอะไร

เบี้ยประกันต่างกันเพราะอะไร

แม้ความหมายของ “เบี้ยประกันสุขภาพ” จะไม่ได้ซับซ้อนใด ๆ มากนัก แต่เมื่อพิจารณาเรื่องมูลค่าที่ผู้เอาประกันแต่ละคนต้องจ่ายมักพบว่ามีความแตกต่างกันพอสมควร บางคนจ่ายสูงหลักหลายหมื่นหรือหลักแสนแต่ละปี ซึ่งสาเหตุก็มาจากหลายปัจจัยมากและขอสรุป ดังนี้

1.มูลค่าความคุ้มครองของแต่ละกรมธรรม์

ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เบี้ยประกันของแต่ละคนมีมูลค่าแตกต่างกันออกไป ตรงนี้จะอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้เอาประกันภัยว่าพร้อมจ่ายในมูลค่าเท่าใด ซึ่งความคุ้มครองที่แตกต่างมักเกี่ยวข้องกับเรื่องค่ารักษาตัวในโรงพยาบาล ค่าห้อง ค่าห้อง ICU ค่าอาหาร ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์วิสัญญี ค่าพยาบาล ค่าหัตถการ ฯลฯ หากคุณเลือกวงเงินรับประกันเหล่านี้สูงมากเท่าไหร่ ค่าเบี้ยย่อมแพงขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา

2.อายุของผู้ทำประกัน

ด้วยอายุที่สูงขึ้นย่อมมีความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บทั้งประเภทฉับพลันและเรื้อรังมากกว่าคนอายุน้อย ยังไม่นับรวมภาวะแทรกซ้อน การฟื้นตัวที่นานกว่า ดังนั้นค่าเบี้ยที่จ่ายจึงมีมูลค่าสูงกว่าตามไปด้วย

3.ประวัติด้านสุขภาพ

เรื่องนี้ถือเป็นที่ทางบริษัทประกันภัยต้องมีการตรวจสอบข้อมูลด้านสุขภาพของผู้เอาประกันภัยให้ละเอียดมากที่สุด จึงสังเกตว่าตัวแทนประกันมักมีการสอบถามประวัติเรื่องการเจ็บป่วยในอดีตที่ผ่านมา โรคประจำตัว การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือบ่อยครั้งก็อาจต้องมีการตรวจสุขภาพเบื้องต้นเพื่อให้ทางบริษัทมั่นใจว่าไม่ได้มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรง หรือมีภาวะเสี่ยงต่ออาการป่วยที่ไม่ได้อยู่ในความคุ้มครอง ในกรณีที่บางคนมีปัญหาสุขภาพแต่ยังอยู่ในข่ายที่บริษัทประกันพิจารณาให้ผ่านจึงอาจมีเรื่องของค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่สูงกว่าคนร่างกายปกติเพราะความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยมากกว่านั่นเอง

4.ส่วนลดจากบริษัทหรือตัวแทน

อาจมาจากการทำโปรโมชั่นของทางบริษัทประกันสุขภาพเอง หรือตัวแทนมีการให้ส่วนลดพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติมกับทางลูกค้า ส่งผลให้มูลค่าของเบี้ยถูกลง

5.เพศ

มูลค่าของเบี้ยประกันที่แตกต่างกันก็ยังเกิดขึ้นได้จากเพศที่แตกต่าง แม้การสำรวจจาก สสส. จะระบุว่าเพศหญิงมีอายุยืนกว่าเพศชาย (ผู้หญิงอายุเฉลี่ย 77 ปี ผู้ชายอายุเฉลี่ย 71 ปี) แต่เมื่อมองในมุมของการประกันภัย ตามการระบุของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. จะพบว่า เพศหญิงมักมีค่าเบี้ยประกันสุขภาพสูงกว่าเพราะการฟื้นตัวยากกว่า

6.อาชีพ

การทำงานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ซึ่งแต่ละอาชีพมักมีรูปแบบแตกต่างกันออกไป ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องความเสี่ยงต่อสุขภาพและชีวิตด้วย อาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยสูงจะมีค่าเบี้ยแพงกว่า ซึ่งตรงนี้บริษัทประกันจะมีการประเมินระดับความเสี่ยงของอาชีพไว้ชัดเจน เช่น พนักงานโรงงานมีความเสี่ยงมากกว่าพนักงานออฟฟิศทั่วไป เป็นต้น


 

เบี้ยประกันสุขภาพสามารถเลือกแบ่งจ่ายแบบใดได้บ้าง

จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพแบบใดได้บ้าง

เรื่องของการจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันสุขภาพก็จะมีตัวเลือกตามเงื่อนไขที่ทางบริษัทประกันเป็นผู้กำหนดเอาไว้ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ หรือความเหมาะสมด้านเงินทองของตนเอง ซึ่งปกติแล้วมักแยกออกได้ ดังนี้

จ่ายแบบรายเดือน เป็นการแบ่งจ่ายเฉลี่ยทุกเดือนในจำนวนที่เท่ากัน จากการหารเฉลี่ยมูลค่ารวมทั้งหมดแบ่งออกเป็น 12 เดือน มีจุดเด่นคือผู้เอาประกันจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันในมูลค่าน้อย ไม่ต้องหาเงินก้อนให้ยุ่งยาก

จ่ายแบบราย 6 เดือน เป็นการแบ่งจ่ายทุก 6 เดือน หรือ 2 ครั้ง ในรอบปีประกันนั้น ๆ โดยมูลค่ารวมทั้งหมดจะถูกหารด้วย 2 เหมาะกับคนที่เก็บเงินได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นจึงไม่พร้อมจ่ายครั้งเดียวแบบก้อนใหญ่

จ่ายแบบรายปี เป็นการจ่ายทุก 12 เดือน หรือปีละ 1 ครั้ง ผู้เอาประกันภัยจึงต้องมีเงินก้อนใหญ่เพื่อชำระตามมูลค่าที่ระบุ แต่ก็มีจุดเด่นที่บ่อยครั้งมักมีส่วนลดเพิ่มเติม จึงจ่ายถูกกว่า 2 แบบแรก


หากไม่จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพจะมีผลต่อความคุ้มครองหรือไม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าวันแรกที่ตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพกับปัจจุบันที่กำลังจะครบรอบกำหนดการชำระเบี้ยประกันของแต่ละคนมักมีความแตกต่างกันในหลายปัจจัย ยิ่งถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินด้วยแล้วจากเดิมเคยมีรายได้ดีแต่ตอนนี้อาจกำลังเจอกับสภาวะเงินไม่พอใช้จึงไม่พร้อมที่จะจ่ายค่าเบี้ย คำถามคือแบบนี้มีผลต่อความคุ้มครองหรือไม่?

ปกติบริษัทประกันภัยจะมีระยะเวลาผ่อนผันให้กับผู้ที่ไม่ได้ชำระเบี้ยประกันสุขภาพตามกำหนดประมาณ 31 วัน นับตั้งแต่วันครบกำหนด ซึ่งในระหว่างนั้นกรมธรรม์ยังคงมีผลบังคับใช้ หมายถึง หากคุณเจ็บป่วยในช่วงดังกล่าวและตรงกับเงื่อนไขรับประกันก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ของตนเองได้

แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เกินกำหนดการผ่อนผันและผู้เอาประกันภัยไม่ได้ชำระ ความคุ้มครองที่เคยอยู่ในกรมธรรม์ทั้งหมดก็เป็นอันจบลง ไม่สามารถนำไปใช้สิทธิ์อื่นใดได้อีกต่อไป และกรมธรรม์ฉบับดังกล่าวก็ไม่มีผลตามกฎหมาย


เบี้ยประกันสุขภาพ กับ ทุนประกันสุขภาพ แตกต่างกันอย่างไร

เบี้ยประกันกับทุนประกันต่างกันอย่างไร

หนึ่งในสิ่งที่หลาย ๆ คนมักเข้าใจผิด หรือจำสับสนกันตลอดนั่นคือ เบี้ยประกันสุขภาพ กับ ทุนประกันสุขภาพ 2 คำนี้มีความแตกต่างชัดเจน ซึ่งเบี้ยประกัน คือ จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายชำระให้กับบริษัทประกันภัยเพื่อซื้อความคุ้มครองตามเงื่อนไขสัญญานั้น ๆ เมื่อคำนวณจำนวนเงินออกมาเรียบร้อยแล้วก็สามารถตกลงได้ว่าสะดวกในการจ่ายชำระแบบใด


ทุนประกัน คืออะไร?

ขณะที่ “ทุนประกัน” คือ จำนวนวงเงินที่ทางบริษัทประกันได้มีการกำหนดเพื่อจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัยตามเงื่อนไขที่ระบุ เช่น ทุนประกันค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องพยาบาล ค่าใช้จ่ายผู้ป่วยนอก ค่าห้อง ICU เงินชดเชยในกรณีป่วยด้วยโรคที่ระบุ เงินชดเชยการทุพพลภาพหรือเสียชีวิต เป็นต้น ซึ่งปกติแล้วทุนประกันจะสอดคล้องกับเบี้ยประกัน หมายถึง ยิ่งคุณชำระค่าเบี้ยแพงมากเท่าไหร่ ทุนที่จะได้รับย่อมสูงตามด้วยเช่นกัน

สรุป

เบี้ยประกันสุขภาพ คือ เงินที่ผู้เอาประกันต้องทำการจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยเพื่อรับความคุ้มครองในเรื่องสุขภาพตามเงื่อนไขสัญญาที่ระบุเอาไว้ ซึ่งเบี้ยประกันสุขภาพของแต่ละคนอาจมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง อาทิ มูลค่าวงเงินคุ้มครอง อายุ เพศ อาชีพ ประวัติสุขภาพ ส่วนลดที่ได้รับ ฯลฯ

สามารถเลือกแบ่งจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ตามการตกลงระหว่าง 2 ฝ่าย เช่น จ่ายแบบรายเดือน ราย 6 เดือน หรือรายปี ทั้งนี้หากคุณไม่ทำการชำระค่าเบี้ยตามที่กำหนดทางบริษัทก็มีสิทธิ์ยกเลิกกรมธรรมดังกล่าวไม่ให้มีผลทางกฎหมาย

ท้ายที่สุด เบี้ยประกันสุขภาพ กับ ทุนประกันสุขภาพ แตกต่างกันและคนละความหมายชัดเจน โดยเบี้ยประกันสุขภาพ จะเป็นเงินที่คุณต้องจ่ายให้กับบริษัทประกัน ขณะที่ ทุนประกันสุขภาพ คือ วงเงินที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากบริษัทประกันตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์

เมื่อเข้าใจข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ “เบี้ยประกันสุขภาพ” กันแล้ว ก็หวังว่าจะทำให้ทุกคนพิจารณาข้อมูลและตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพได้เหมาะสมขึ้นกว่าเดิม เพราะการมีประกันเหล่านี้เอาไว้อย่างน้อยที่สุดหากคุณเจ็บป่วยก็ยังพอมีตัวช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลซึ่งมูลค่าสูงกว่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปแน่นอน


Last update: 

Table of Contents