“เฉิงตู” (Chengdu) เมืองทางฝั่งตะวันตกของประเทศจีน เป็นอีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่อยากมีโอกาสไปสัมผัสกับศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมสวย ๆ จุดถ่ายรูปสุดว้าว และกิจกรรมน่าสนใจอีกเยอะมากที่รอให้ทุกคนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งใครที่วางแผนอยากเที่ยวเฉิงตู แต่ยังไม่รู้ว่าควรแวะเวียนไปที่ไหนบ้าง มาเช็กลิสต์ปักหมุดสถานที่เที่ยวเฉิงตูห้ามพลาดแบบครบครันทุกสไตล์ตามความชอบกันได้เลย!
ปักหมุดเที่ยวเฉิงตู กับที่เที่ยวปักหมุดห้ามพลาด
1. ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า (Giant Panda Breeding Research Base)
หากเอ่ยถึงหมีแพนด้า เมืองเฉิงตูคือถิ่นที่อยู่อาศัยและมีการค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจังเพื่ออนุรักษ์สัตว์สายพันธุ์นี้ โดยศูนย์ดังกล่าวเปิดตัวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 มีหน้าที่สำคัญในการวิจัย ศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับการเพาะพันธุ์ การเลี้ยงดูหมีแพนด้าสัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ ก่อนเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมความน่ารัก ประวัติ และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับหมีแพนด้าเมื่อปี ค.ศ. 1993 มีการสร้างระบบนิเวศจำลองให้ใกล้เคียงกับถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันมากที่สุด รวมถึงยังมีสัตว์ป่าหายากอื่น ๆ ให้ชมอีกเพียบ
พิกัด: ดูแผนที่
2. ศาลเจ้าสามก๊ก (Wu Hou Shrine)
หรือในภาษาจีนเรียกว่า “อู่โหวสือ” สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง “ขงเบ้ง” (จูเก๋อเลี่ยง) เสนาบดีผู้ยิ่งใหญ่แห่งจ๊กก๊ก มาตั้งแต่ ค.ศ. 223 ถือเป็นศาลเจ้าเพียงแห่งเดียวของจีนที่ถูกสร้างเพื่อให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาได้กราบไหว้ขอพรขุนนาง และผู้ดูแลบ้านเมืองในอดีต เมื่อปี ค.ศ. 1961 ได้รับการยกให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ ก่อนที่ปี ค.ศ. 1984 จะเพิ่มเติมให้เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเพื่อการท่องเที่ยว บรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยต้นไม้ และรูปปั้นขงเบ้งก็สวยงามและควรค่ากับการสักการะอย่างยิ่ง
พิกัด: ดูแผนที่
3. วังแพะเขียว (Qingyang Palace)
หรือจะเรียกพระราชวังแกะเขียวก็ได้เช่นกัน เจ้าของสมญานาม “วัดแห่งแรกทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเสฉวน” และ “ป่าแห่งแรกในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้” โดดเด่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่รายล้อมให้ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น เงียบสงบ และยังเป็นสถานที่แห่งลัทธิเต๋า ไฮไลต์สำคัญคือ “ตำหนัก 3 เทวดา” ลักษณะเป็นศาลายันต์ 8 เหลี่ยม พร้อมด้วยเสามังกร 9 ต้น แกะสลักสวยงามอายุกว่า 5,000 ปี ภายในมีรูปปั้นแพะทอง ซึ่งตามความเชื่อหากใครนำมือไปลูบและจับส่วนนั้นของแพะ อาการเจ็บป่วยต่าง ๆ จะดีวันดีคืนจนหายสนิท
พิกัด: ดูแผนที่
4. วัดต้าสือ (Daci Temple)
หรือคนไทยมักเรียกกันว่า “วัดมหาเมตตา” ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองเฉิงตูทำให้ใครไปเที่ยวเฉิงตูสามารถแวะเวียนกราบไหว้ได้สะดวกมาก นี่คือวัดที่พระถังซัมจั๋งเคยบวชเป็นพระภิกษุครั้งแรก ก่อนย้ายไปจำพรรษายังวัดแห่งอื่น อีกทั้งยังมีอายุเก่าแก่มากกว่า 1,500 ปี ด้านในมีความร่มรื่น เงียบสงบ ตัดกับความวุ่นวายของเมืองใหญ่ได้แบบไม่น่าเชื่อ ใครอยากทำบุญหรือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่คืออีกจุดที่แนะนำ
พิกัด: ดูแผนที่
5. อารามเหวินซู (Wenshu Yuan Monastery)
ชาวพุทธที่ไปเที่ยวเฉิงตูแล้วอยากกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อารามแห่งนี้ถือเป็นพุทธสถานขนาดใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ย่านใจกลางของเมือง ศูนย์กลางของสมาคมชาวพุทธของมณฑลเสฉวนและเมืองเฉิงตู สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย นอกจากการได้ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตแล้ว บริเวณวัดยังมีสถาปัตยกรรมและงานศิลปะสุดคลาสสิกตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์ซ้อง ไปจนถึงภาพเขียนสุดงดงามกว่า 500 ภาพ งานเขียนด้วยลายมือก็เก็บรักษาเอาไว้อย่างดีในสถานที่แห่งนี้เช่นกัน บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อนจิตใจ
พิกัด: ดูแผนที่
6. สะพานอันชุน (Anshun Bridge)
ภาษาจีนคำว่า “อันชุน” หมายถึง ความสว่าง สงบ และคล่องตัว สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนใช้ข้ามแม่น้ำจินเจียง ลักษณะจะมีหลังคาตามศิลปะของจีนอยู่ด้านบนอันถือเป็นสะพานที่มีหลังคาเก่าแก่สุดของเมืองเฉิงตู บอกเล่าถึงเรื่องราวและประวัติศาสตร์อันน่าสนใจได้เป็นอย่างดี ยิ่งตอนกลางคืนเหล่าบรรดาร้านรวงต่าง ๆ ทั้งร้านอาหาร บาร์ ร้านขายของที่ระลึก จะเปิดไฟสว่างไสว ให้ความสวยงามตัดกับฉากของแม่น้ำและลวดลายของสะพานได้แบบไร้ที่ติ สามารถถ่ายรูปและเดินหาของอร่อยกันได้เลย
พิกัด: ดูแผนที่
7. ถนนโบราณควานจ่าย (Kuan Zhai Xiang Zi)
หรือจะเรียก “ตลาดโบราณควานจ่าย” ก็ได้เช่นกัน แปลเป็นไทยก็ทำนอง ซอยกว้าง-ซอยแคบ เพราะถนนแบ่งออกเป็น 2 สาย ใครเที่ยวเฉิงตูแล้วอยากสัมผัสกับบรรยากาศของตลาดจีนโบราณย้อนยุคแวะมาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่ ด้วยลักษณะของร้านค้า บ้านเรือนยังคงไว้ซึ่งดีไซน์แบบจีนดั้งเดิมซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง เดิมทีเป็นบ้านของทหารเก่าแต่ถูกเปลี่ยนให้เป็นร้านรวงสำหรับนักท่องเที่ยวได้เดินเลือกซื้ออาหาร เครื่องดื่ม ขนมแสนอร่อย ไปจนถึงงานศิลปะ งานแฮนด์เมด ของที่ระลึกต่าง ๆ และยังมีพิพิธภัณฑ์ โรงละคร ให้ได้แวะเวียนไปเยี่ยมชมกันอีกด้วย
พิกัด: ดูแผนที่
8. ถนนชุนซีลู่ (Chunxi Road)
ถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองเฉิงตู รายล้อมด้วยอาคาร ร้านค้าที่มีการสร้างและตกแต่งได้อย่างทันสมัย แหล่งรวมวัยรุ่นเทียบได้กับสยามสแควร์บ้านเราเลยทีเดียว อัดแน่นไปด้วยห้างชั้นนำ ช้อปแบรนด์เนม ร้านอาหาร ร้านดื่มกิน ให้ได้เดินช้อปปิ้งเลือกเสพความสุขกันตามใจปรารถนา ลักษณะถนนจะตัดกันเป็นรูปกากบาท ทำให้จดจำได้ง่าย ไม่ต้องกลัวหลงแม้ผู้คนจะมหาศาลแค่ไหนก็ตาม เช็กเงินในกระเป๋าให้ดีเพราะรู้ตัวอีกทีอาจหมดไปกับของเต็มมือ
พิกัด: ดูแผนที่
9. เขื่อนตูเจียงเอี้ยน (Dujiangyan Irrigation Project)
เที่ยวเฉิงตูสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและฝีมือการสร้างของมนุษย์ ความชาญฉลาดของวิศวกรรมด้นชลประทานของชาวจีนซึ่งถูกยกให้เป็นมรดกโลกอีกชิ้น เหตุเพราะเขื่อนแห่งนี้ถูกสร้างมายาวนานกว่า 2,000 ปี และยังคงใช้งานได้ตามปกติ นอกจากความเหลือเชื่อแล้ว ภายในเขื่อนยังอุดมสมบูรณ์ด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ พร้อมกับวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามเกินบรรยาย สามารถเดินไปบริเวณสะพาน Anlan Cable Bridge สำหรับเดินข้ามแม่น้ำหมินเจียง สามารถแวะไปชมความงดงามและถ่ายรูปกันได้เลย
พิกัด: ดูแผนที่
10. จตุรัสเทียนฟู่ (Tianfu Square)
หากเที่ยวเฉิงตูแล้วไม่แวะมาจัตุรัสแห่งนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะนี่คือแลนด์มาร์กสัญลักษณ์สุดโดดเด่นประจำเมือง จุดใจกลางเมืองที่ควรค่ากับการถ่ายรูปเก็บสักใบไว้เป็นที่ระลึก และยังได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสใจกลางเมืองขนาดใหญ่สุดของภาคตะวันตกเฉียงใต้ในประเทศจีน อารมณ์คล้ายกับจัตุรัสเทียนอันเหมินของกรุงปักกิ่งที่มีชื่อเสียงก็ไม่ปาน ด้วยพื้นที่กว่า 88,368 ตารางเมตร ภาพที่เห็นจึงถูกโอบล้อมไว้ด้วยอาคารขนาดใหญ่สูงระฟ้า สวยงามและแตกต่างจนต้องลองสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง
พิกัด: ดูแผนที่
11. ถนนโบราณจินหลี่ (Jinli Street)
ปิดท้ายการเที่ยวเฉิงตูไปกับถนนโบราณอีกแห่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง (ตั้งแต่ช่วงราว ค.ศ. 221-206 ก่อนคริสตกาล) เดิมทีพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นโรงงานผลิตและจำหน่ายผ้าไหมขนาดใหญ่สุดของประเทศจีน ซึ่งในยุคสามก๊กนี่คือแหล่งขายผ้าไหมและงานฝีมือสุดสวยชั้นนำของประเทศ และรุ่งเรืองแบบสุดขีดในช่วงการปกครองของอาณาจักรจ๊กก๊ก ก่อนจะถูกบูรณะใหม่และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้แวะมาเดินสัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิกอีกครั้งเมื่อปี ค.ศ. 2004 อัดแน่นไปด้วยร้านค้าทุกรูปแบบ และยังมีหนุ่มสาวที่นิยมมาขอพรเรื่องความรักโดยการเขียนชื่อใส่ถุงผ้าแล้วแขวนไว้ที่ต้นแปะก๊วยอายุกว่า 100 ปี อีกด้วย
พิกัด: ดูแผนที่
สรุป
เมืองเฉิงตูถือเป็นอีกเมืองน่าสนใจและมีเสน่ห์อย่างมาก ควรค่ากับการได้ไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต ทั้งเรื่องความคลาสสิกและความทันสมัยทุกอย่างลงตัวแบบไร้ที่ติ แต่อย่าลืมหากวางแผนเที่ยวเฉิงตูหรือที่ไหนก็ตาม ประกันเดินทางจีน คือสิ่งสำคัญที่ต้องซื้อเอาไว้เสมอ จึงขอแนะนำประกันเดินทาง “Luma GO” จาก Luma ราคาเริ่มต้นสบายกระเป๋าเพียง 199 บาท และยังสามารถเลือกซื้อแพ็คเกจให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท คุ้มครองจากเชื้อโควิด-19 บริการประสานงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน ติดต่อสายด่วนได้ตลอด 24 ชม. เที่ยวที่ไหนในโลกก็อุ่นใจกว่าเคย
