โรคนอนไม่หลับ Insomnia ทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา?

คุณมีปัญหาในการนอนหลับทุกคืนหรือไม่? นอนพลิกตัวไปมาทั้งคืนเพื่อดูนาฬิกาที่เดินผ่านไป ถ้าใช่ คุณอาจกำลังประสปัญหาการนอนหลับ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อย หรือที่เรียกว่า “โรคนอนไม่หลับ (insomnia)” และคุณไม่ใช่คนเดียวที่ประสบปัญหานี้ ความทรมานจากอาการนอนไม่หลับอาจทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดและเหนื่อยล้า บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับ รวมถึงเทคนิคที่ช่วยคุณแก้ปัญหาโรคนอนไม่หลับด้วยตัวเอง

โรคนอนไม่หลับเป็นอย่างไร?

อาการนอนไม่หลับเป็นอาการที่ทำให้คนเรานอนหลับได้ยาก หรือไม่สามารถนอนหลับได้นานพอเพื่อให้รู้สึกสดชื่นในเช้าวันรุ่งขึ้น ผู้ที่เป็นโรคนี้จะพบว่าตนเองนอนไม่หลับแม้จะรู้สึกเหนื่อย ตื่นกลางดึกบ่อยๆ หรือมีปัญหาในการกลับมานอนหลับหลังตื่นระหว่างคืน มีคนหลายล้านที่ได้รับผลกระทบจากอาการนอนไม่หลับ แต่มีเพียงประมาณ 5% เท่านั้นที่ถึงกับต้องเข้ารับการรักษาจากโรคนี้

หากคุณประสบปัญหาการนอนหลับติดต่อกันอย่างน้อยหนึ่งเดือน หรือส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคุณ เหล่านี้เรียกว่าโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง และเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณควรไปพบแพทย์

โรคนอนไม่หลับ

อะไรคือสาเหตุของโรคนอนไม่หลับ?

วิถีชีวิตประจำวันอาจส่งผลต่อการนอนหลับและมีส่วนทำให้อาการนอนไม่หลับรุนแรงขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟหรือชายามบ่าย หรือรู้สึกเครียดจากการทำงาน คุณก็อาจจะมีอาการนอนไม่หลับเป็นครั้งคราว รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น พฤติกรรมการนอนที่ไม่ดีต่อสุขภาพ (เช่น เจ็ตแล็กและการทำงานเป็นกะ) ก็อาจส่งผลต่อการนอนได้เช่นกัน

หากคุณมีอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง แพทย์อาจทำการทดสอบต่อไปนี้เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่นความวิตกกังวล 

  • การตรวจร่างกาย: บางครั้งอาจมีการตรวจเลือดเพื่อตรวจหาปัญหาของต่อมไทรอยด์หรืออาการอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาการนอนหลับ โดยแพทย์จะพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ เช่น กิจวัตรประจำวันโดยทั่วไป รวมถึงการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย
  • ทบทวนนิสัยการนอน: นิสัยการนอนที่ไม่ดีเป็นสาเหตุหลักของการนอนไม่หลับ แพทย์อาจให้คุณตอบแบบสอบถามเพื่อพิจารณารูปแบบการนอนและการตื่น และขอให้คุณจดบันทึกการนอนหลับเป็นเวลาสองสามสัปดาห์ ติดตามเวลาที่เข้านอนและตื่นนอน ใช้เวลานานแค่ไหนในการหลับ และจำนวนครั้งที่คุณตื่นในตอนกลางคืน จากนั้นดูว่าคุณสามารถปรับเปลี่ยนกิจวัตรของคุณเพื่อปรับปรุงการนอนหลับได้อย่างไร
  • การตรวจคุณภาพการนอนหลับ: หากไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนของปัญหาการนอนหลับได้ หรือมีสัญญาณของโรคการนอนหลับอื่นๆ เช่น โรคหยุดหายใจขณะหลับหรือมีอาการขยับขาขณะหลับ ควรพักค้างคืนที่ศูนย์การนอนหลับเพื่อรับการทดสอบและติดตามการนอนหลับโดยผู้เชี่ยวชาญ การทดสอบอาจจะรวมถึงการติดตามกิจกรรมของร่างกายที่เกิดขึ้นขณะที่คุณหลับ เช่น คลื่นสมอง การหายใจ การเต้นของหัวใจ ดวงตา และการเคลื่อนไหวของร่างกาย
โรคนอนไม่หลับ

อาการนอนไม่หลับส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?

นอกจากผลข้างเคียงที่พบบ่อย เช่น อารมณ์แปรปรวนและความเหนื่อยล้าแล้ว การอดนอนอย่างรุนแรงยังอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น:

  • ผิวแก่ขึ้น: เมื่อคุณนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอลออกมามากขึ้น และหากมีปริมาณที่มากเกินไป คอร์ติซอลสามารถทำลายคอลลาเจนของผิวหนัง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่น
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคและภาวะที่ผิดปกติอย่างอื่นของร่างกาย เช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความดันโลหิตสูง เบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อความผิดปกติด้านสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และสับสน 

การรักษาโรคนอนไม่หลับ

หากคุณมีอาการนอนไม่หลับเป็นครั้งคราว ให้ลองปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันเล็กๆ น้อยๆ เช่น:

  • เข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา
  • หลีกเลี่ยงคาเฟอีน นิโคติน แอลกอฮอล์ อาหารมื้อหนัก และไม่ควรออกกำลังกายสองสามชั่วโมงก่อนเข้านอน
  • ไม่ดูทีวีหรือเล่นโทรศัพท์ก่อนเข้านอน
  • ก่อนนอนให้เขียนสิ่งที่กังวลรวมถึงแนวทางการแก้ปัญหา เพื่อช่วยให้คุณลืมความกังวลเหล่านี้จนถึงเช้า

หากคุณมีอาการนอนไม่หลับอย่างรุนแรงหรือเรื้อรัง คุณอาจลองวิธีเหล่านี้ หรือควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

  • การบำบัด: ในบางกรณี การทำจิตบำบัดโดยการปรับพฤติกรรมหรือเปลี่ยนความคิด หรือ Cognitive Behavior Therapy (CBT) ถูกนำมาใช้เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับ จิตบำบัดรูปแบบนี้มุ่งรักษาปัญหาด้วยการหลีกเลี่ยงความคิด อารมณ์ และรูปแบบพฤติกรรมเชิงลบที่อาจทำให้คุณนอนไม่หลับ มักเป็นวิธีการรักษาวิธีแรกที่แนะนำสำหรับโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง และอาจนำไปสู่การรักษาในระยะยาว
  • การใช้ยาที่สั่งโดยแพทย์เพื่อรักษาโรคนอนไม่หลับ: ยานอนหลับที่สั่งโดยแพทย์มักถือเป็นทางเลือกสุดท้าย และควรใช้ครั้งละสองสามวัน หรือครั้งละสองสามสัปดาห์เท่านั้น

*บทความนี้แปลจากต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งได้รับการตรวจสอบทางการแพทย์โดยทีมแพทย์ภายในของ LUMA

You May Also Like

เสริมภูมิคุ้มกัน
สุขภาพ

อาหารเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีอะไรบ้าง

การอยู่บ้านช่วงวิกฤตไม่ได้หมายความว่าคุณต้องกินแต่อาหารที่ปรุงลวกๆ การทำอาหารที่บ้านช่วยให้คุณมีกิจกรรมทำและปลดปล่อยจิตใจจากความวิตกกังวลในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ หากคุณเตรียมวัตถุดิบเข้าครัวไว้แล้ว ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลงมือทำสารพัดเมนูที่คุณชอบ ในช่วงที่มีไวรัสระบาด คุณต้องการอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและปลอดภัยจากการเจ็บป่วย ถ้าเย็นนี้คุณอยากทำอาหารทานเอง ลองซื้ออาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อไปนี้ที่ร้านค้าใกล้บ้านคุณดูสิ บรอกโคลี บรอกโคลีมีชื่อเสียงว่าเป็นสุดยอดอาหารและสามารถนำไปใช้ทำอาหารได้หลากหลายเมนูนอกจากนี้ยังหาซื้อได้ง่ายจากตลาด แคลอรี่ต่ำ เต็มไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ กุญแจสำคัญในการรักษาสารอาหารและพลังงานให้คงเดิมคือใช้บรอกโคลีสดและปรุงให้ไม่สุกเกินไป วิธีเลือกซื้อและเก็บรักษาบรอกโคลี: เมื่อซื้อบรอกโคลี ให้เลือกดอกที่เนื้อแน่น กระชับ และมีสีเขียวเข้ม ไม่ควรเลือกดอกที่มีชิ้นส่วนร่วนหลุด เปลี่ยนเป็นสีเหลือง …

ความดันโลหิตสูง
สุขภาพ

ทำความรู้จักโรคความดันโลหิตสูง และ วิธีลดความดันโลหิต

ความดันโลหิตสูงหรือที่เรียกกันว่า ‘ฆาตกรเงียบ’ เพราะเป็นโรคไม่มีอาการบ่งชี้แสดงให้เห็นว่ามีความผิดปกติ แต่จริงๆ แล้วความดันโลหิตสูงคืออะไร และจะป้องกันได้อย่างไร? ความดันโลหิตสูงเป็นภาวะที่พบบ่อยซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้หลายอย่าง รวมถึงอาการหัวใจวาย ตาบอด และโรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูงเป็นภาวะที่คุณไม่สามารถรู้สึกได้ โดยปกติจะไม่มีสัญญาณเตือน คุณจึงอาจจะไม่รู้เลยว่ากำลังมีภาวะดังกล่าว ดังนั้นการตรวจวัดระดับความดันโลหิตเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มใช้ยาตัวใหม่ตั้งแต่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นได้ วิธีที่ดีที่สุดที่จะทราบว่าคุณมีภาวะความดันโลหิตสูงหรือไม่ คือการตรวจระดับความดันโลหิตโดยแพทย์ ซึ่งมักตรวจทุกครั้งเมื่อคุณไปโรงพยาบาลในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าภายในปี …

สุขภาพจิตดี
สุขภาพ

ออกกำลังกายช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้จริงเหรอ

การออกกำลังกายมักเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดีทางกาย สิ่งที่คนส่วนใหญ่คาดหวังว่าจะได้รับจากการออกกำลังกายจึงเป็นรูปร่างสัดส่วนที่ดีและความแข็งแรง แต่คุณอาจจะสังเกตได้ว่า ไม่ว่าจะออกไปเดินเร็วกลางแจ้งหรือยกน้ำหนักในยิม หลังจากออกกำลังกายคุณจะรู้สึกพอใจหรือมีความสุข ความรู้สึกดีเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงชั่วคราว ดังที่หลายงานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายสามารถช่วยให้ปัญหาสุขภาพจิตดีขึ้นได้ การออกกำลังหายจึงมีข้อดีนอกเหนือไปจากสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยบรรเทาความเครียดชั่วคราว คลายความวิตกกังวล และช่วยให้ปัญหาสุขภาพจิตดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ในปี 2007 นักวิจัยจากอิสราเอลค้นพบว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเพียงหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เมื่อต้นปี 2017 สถาบันการกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งเยอรมนี พบว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นประจำช่วยเพิ่มความสามารถของผู้เข้าร่วมวิจัยในการจัดการกับความเครียดในชีวิตจริง การออกกำลังกาย …